ข้าวหลามเป็นอาหารพื้นบ้านที่มีมานานมากแล้ว ทุกวันนี้ยังได้รับความนิยมในการบริโภค ตามงานวัดหรือในงานเทศกาลต่าง ๆ จะมีคนถือตะกร้านำข้าวหลามมาจำหน่าย หรือในตลาดตามต่างจังหวัดบางวันก็มีข้าวหลามวางขายให้เห็น ความที่เป็นอาหารที่รับประทานง่ายรสชาติอร่อย โดยเฉพาะเวลารับประทานกับน้ำผึ้ง จะกลายเป็นอาหารรสเลิศมาก หลายคนชอบกินข้าวหลามมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นการเผาข้าวหลามสักครั้ง การจะเผาข้าวหลามขั้นตอนแรกคือการเข้าป่าไปหาไม้ไผ่ ให้ได้ขนาดที่ต้องการ ไม้ไผ่ที่นิยมคือไผ่สีสุก และต้องหาพื้นที่โล่ง ๆ เพราะว่าในการเผาข้าวหลาม จะมีควันออกมามากจนกว่าข้าวหลามจะสุก อีกทั้งยังต้องใช้ฟืนมาเป็นเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก วิธีการทำข้าวหลาม เริ่มที่การตัดกระบอกไม้ไผ่ตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นผสมกะทิน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย แล้วนำข้าวเหนียวมาล้างจนสะอาด นำข้าวเหนียวใส่ตะกร้าให้สะเด็ดน้ำ ใส่ถั่วต้มสุก ใช้ได้ทั้งถั่วดำและถั่วลิสง คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นใส่ลงไปในกระบอกจนเกือบเต็ม เหลือพื้นที่ไว้ด้านบนสำหรับปิดจุก โดยการนำกาบมะพร้าวมาม้วนปิด การเผาข้าวหลามใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที ให้สังเกตว่ากระบอกข้าวหลามออกสีเหลือง แสดงว่าได้รับความร้อนเพียงพอ จนข้าวหลามสุกทั่วกระบอก ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีงานประเพณีขึ้นเขาเผาข้าวหลาม ในวันมาฆบูชา 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี จัดที่โรงเรียนวัดหัวสำโรงและที่วัดสุวรรณคีรี(เขาดงยาง) งานที่โรงเรียนเป็นการเผาข้าวหลาม และประกวดประชันความอร่อยของข้าวหลามในชุมชนแต่ละหมู่บ้าน และยังมีการแข่งขันกินข้าวหลาม ส่วนงานบุญที่วัดสุวรรณคีรี มีการออกร้านขายข้าวหลามอย่างมากมาย มีรถขบวนแห่แฟนซีและมีกิจกรรมขึ้นเขาดงยางเพื่อไปสักการะรอยพระพุทธบาท เพื่อความเป็นศิริมงคล ที่มาของงานเทศกาลข้าวหลามของที่นี่ มาจากช่วงเดือนสาม ชาวบ้านจะไปทำบุญที่วัด ด้วยการนำข้าวเก็บเกี่ยวใหม่มีกลิ่นหอมนำไปทำข้าวหลาม แล้วมาถวายพระ ส่วนประเพณีการขึ้นเขา มาจากชาวลาวเวียง ต้องการมาทำบุญที่วัด พวกเขาต้องเดินทางผ่านป่าเป็นระยะทางไกล ชาวบ้านจึงได้เผาข้าวหลามมาถวายพระ ขณะเดียวกันข้าวหลามก็เป็นเสบียงสำหรับการเดินทางมาทำบุญด้วย