จากที่ผู้เขียนได้สัญญาไว้ในบทความที่แล้วว่าจะมาแชร์เรื่องราวเมนูของลูกน้อยให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน และสืบเนื่องจากบทความ “แชร์เรื่องราว - เก็บอาหารให้ลูกน้อย “วัย 8 เดือน” ในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”” วันนี้ผู้เขียนจะมาแชร์เมนูส่วนที่เป็น “ข้าวต้ม” ที่ทำให้เจ้าตัวเล็กทานค่ะ โดยอย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้เนื่องจากสถานการณ์ “โควิด-19” ครอบครัวผู้เขียนได้งดเดินทางออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น ก็เลยจะต้องทำอาหารแบบทานอาทิตย์ต่ออาทิตย์ โดยทำเสร็จแล้วนำไปเก็บไว้ในช่องฟรีซ ขั้นตอนเป็นอย่างไรไปติดตามกันได้เลยค่ะ ภาพจากผู้เขียน ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขอบอกไว้ก่อนค่ะว่าลูกน้อยวัย 8 เดือนของบ้านนี้ “คุณหมออนุญาติให้ทานเนื้อสัตว์จากการต้มน้ำซุปได้แล้วค่ะ” ยังไม่ให้ทานเนื้อสัตว์โดยตรง แต่ให้เริ่มจากน้ำซุปก่อน ก็เลยจัดการต้มกระดูกหมูไปพร้อมกับข้าวต้มค่ะ อันดับแรกก็นำกระดูกหมูไปล้างให้สะอาด ดับกลิ่นคาวด้วยเกลือเล็กน้อยค่ะ จากนั้นตั้งน้ำให้เดือดก่อนค่อยนำชิ้นกระดูกหมูลงไปต้มนะคะ และช่วงนี้ก็หมั่นตักฟองออกให้หมด เพื่อไม่ให้เหลือเศษฟองไปรวมกับข้าว พอกระดูกหมูโดนความร้อนจนลวกทั้งหมดแล้ว สังเกตุได้จากที่ส่วนใด ๆ ของกระดูกไม่มีเลือดเลย ก็นำข้าวสารลงไปต้มได้ค่ะ สำหรับปริมาณข้าวสารจากที่ทดลองทำ 2 ครั้งสำหรับบ้านนี้จะใช้ปริมาณครึ่งถ้วยเล็กค่ะ น้องจะทานได้ 1 อาทิตย์พอดี เพื่อน ๆ ลองกะปริมาณและปรับดูนะคะ จะพบปริมาณที่เหมาะกับน้องค่ะ ภาพจากผู้เขียน ให้ใช้ไฟระหว่างไฟกลางลงมาเล็กน้อย เคี่ยวไปเรื่อย ๆ หมั่นคนเพื่อไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อนะคะ ถ้าหากว่าน้ำลดก็คอยเติมน้ำเรื่อย ๆ ได้ จากนั้นรอจนกว่าข้าวจะสุกแบบเละเปื่อยยุ่ยเลยนะคะ หลังจากข้าวสุกในปริมาณน้ำที่โอเคก็ให้ปิดไฟ และตักเอาเฉพาะข้าวออกมาพักรอให้ข้าวเย็นก่อนค่ะ Trip & Tricks : “สำหรับเมนูข้าว” รอบนี้ผู้เขียนไม่ได้ศึกษาเลยค่ะ ก็ต้มไปตามที่เคยทำสำหรับผู้ใหญ่ทาน แต่หลังจากทำเสร็จแล้วผู้เขียนก็ไปพบอีกหนึ่งวิธีจากคลิปวิดีโอในยูทูปค่ะ เขาบอกว่าให้ต้มน้ำซุปให้เรียบร้อย จากนั้นก็กรองเอาเฉพาะน้ำมาต้มกับข้าว จะไม่มีเศษหมูหรือมีสิ่งเจือปนใด ๆ ก็เป็นวิธีที่ดีเหมือนกันค่ะ ไว้โอกาสหน้าจะลองทำตามดู ได้เรื่องอย่างไรไว้ผู้เขียนจะมาเล่าให้ฟังกันอีกทีนะคะ ภาพจากผู้เขียน และแล้วก็มาถึงขั้นตอนที่เมื่อยที่สุดในบรรดาขั้นตอนทั้งหมดค่ะ หลังจากที่ข้าวที่เราตักพักไว้เย็นแล้วก็นำมาบดหยาบกันค่ะ รอบแรกสุดเลยที่ทำคุณพ่อจัดการปั่นให้ค่ะ ซึ่งก็ละเอียดดีน้องทานง่ายไม่ติดคอ แต่รอบที่สองนี้ทำการบดหยาบค่ะ เนื่องจากคุณหมอให้น้องฝึกกลืนของที่หยาบขึ้นเล็กน้อย และเป็นการฝึกเคี้ยวไปในตัว เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงกว่า ๆ ผ่านไป ทั้งผู้เขียนและคุณพ่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาบด “ข้าวต้มบดหยาบ” สำหรับเจ้าตัวเล็ก และแล้วก็เสร็จทั้งหมดค่ะ จากนั้นก็จัดการจัดใส่กล่องแม่พิมพ์และนำเข้าไปเก็บในช่องฟรีซของตู้เย็นกันได้เลย (Freezer) พอวันรุ่งขึ้นก็แกะออกจากกล่องแม่พิมพ์ใส่กล่องซิปล็อคให้เรียบร้อยพร้อมทาน ที่บ้านแกะออกจากแม่พิมพ์เนื่องจากเวลาจะใช้งานจะได้หยิบจับได้ง่าย บางบ้านจะไม่แกะออกจากแม่พิมพ์ก็ได้นะคะเอาตามที่เพื่อน ๆ สะดวกได้เลยค่ะ ภาพจากผู้เขียน วันนี้ผู้เขียนจะขอเล่าไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าเมนูอื่น ๆ ให้ฟังอีกค่ะ และบางครอบครัวอาจจะปรับเปลี่ยนวัตุดิบ หรือปริมาณให้เหมาะสมกับน้องอีกทีนะคะ และอย่าลืม “เฝ้าสังเกตุอาการลูกน้อยหลังทานในทุก ๆ มื้อด้วยค่ะ” หากมีความผิดปรกติห้ามเสียดายเด็ดขาดนะคะ ให้ทิ้งไปได้เลย ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลเสียกับลูกน้อยก็เป็นได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนทุกท่านค่ะ อ่านบทความอื่น ๆ แชร์เรื่องราว - เก็บอาหารให้ลูกน้อย “วัย 8 เดือน” ในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เล่าสู่กันฟัง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ชวนเพื่อน ๆ มาเก็บอาหารไว้ทาน “อาทิตย์ต่ออาทิตย์” กันเถอะ