ปัญหาใหญ่ที่ฮอตฮิตชวนให้อิดหนาระอาใจของผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัด รวมถึงผู้ดูแลผู้ป่วย คือ การเบื่ออาหาร ทานข้าวไม่อร่อย กินน้อย น้ำหนักลด ผลเลือดไม่ดี ส่งผลพาลให้จิตใจห่อเหี่ยว สุขภาพก็แย่ตาม ฉะนั้นอาหารที่ช่วยได้ดีในสถานการณ์นี้ ก็คงหนีไม่พ้นอาหารรสชาดจัดจ้าน ที่ชื่อว่า “ยำ” แต่ข้อจำกัดของผู้ป่วย ยำแบบทั่วไป คงไม่เป็นผลดีนักต่อระบบร่างกายของผู้ป่วย ดังนั้น วันนี้มาดามขอนำเสนอเมนูที่มาดามใช้ช่วยชีวิตตลอดในช่วงเบื่ออาหาร คือ “ยำผักกูด” ยำผักกูดสูตรมาดาม ต้องบอกก่อนว่า เป็นยำผักกูดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ใช้ทางสายกลาง คือ ผู้ป่วยที่ทานหมู ทานปลา อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่งดเนื้อสัตว์ หรือ ผู้ป่วยที่เน้นไปทางมังสวิรัต แต่อาจจะประยุกต์ได้บ้างนิดหน่อย อะไรที่ไม่ทานก็ไม่ต้องใส่ ง่าย ๆ ไม่ต้องเครียดกันนะจ๊ะ ส่วนประกอบโดยประมาณ ได้แก่ ผักกูด 1 มัด (กะว่าเด็ดแล้วได้ประมาณ 1 จาน) มะเขือเทศ 2 ผล มะนาว 1 ผล หอมแดง 7-8 หัว (แล้วแต่ขนาด) กระเทียม 1 กำมือ (แกะเอาเปลือกออกให้เรียบร้อย) พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด (สำหรับผู้ป่วยที่มีแผลในปากไม่ควรใส่) ต้นหอมซอย 3 ต้น หมูสับและกุ้งแห้ง (ปริมาณแล้วแต่ความชอบ ใครไม่ทานเนื้ออาจใช้น้ำซุปผัก หรือ น้ำซุปเห็ดแทนได้) น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ เกลือชมพู 1 ช้อนชา เอาละมาดูวิธีการทำกันแบบละเอียดเลยนะ เป็นขั้น ๆ ให้เข้าใจง่ายเลยตามนี้ ขั้นตอนการเตรียม 1. ขั้นการล้าง เป็นขั้นที่มีความเยอะที่สุด เพราะสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง กระบวนการทำอาหารต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ทุกอย่างต้องล้างให้สะอาด แนะนำเทคนิคเพิ่มเติม อีกสักเล็กน้อย คือ ผักกูด เป็นไปได้ต้องแช่เบกกิ้งโซดา ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างให้สะอาด ผ่านน้ำ 2-3 รอบ จะต้องจ่ายค่าน้ำประปาเพิ่มกี่บาทก็ต้องทำใจ เพื่อขจัดยาฆ่าแมลงออกไปบ้าง แต่ถ้าใครปลูกเองก็สบายใจได้ หอมแดง และกระเทียม ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด ป้องกัน สารพิษอะฟลาทอกซิน ที่สร้างมาจากเชื้อรา มีผลต่อการเกิดมะเร็ง หมู ก่อนนำมาสับต้องล้างให้สะอาดก่อน และเลาะเอาเฉพาะเนื้อ ไม่เอาส่วนติดมัน กุ้งแห้ง ให้แช่น้ำไว้ก่อน ประมาณ 30 นาที เด็ดหัว เด็ดหาง เด็ดขา หรือ รยางค์ ทิ้งให้หมด ใช้มีดเลาะกลางหลังให้นำเส้นกลางหลังสีดำออก ทำเหมือนกุ้งสดเลย ฉะนั้นกุ้งแห้งที่จะนำมาใส่อาจต้องตัวใหญ่หน่อย จากนั้นนำมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด 3-4 รอบ สังเกตน้ำที่ล้างมีสีใส เพราะในกุ้งแห้งอาจมีสีย้อมให้กุ้งมีสีสันสวยงาม ถ้าจะกินก็ต้องพยายามให้มันไม่มีหรือมีน้อยสุด 2. ล้างเสร็จเรียบร้อย ก็นำทุกอย่างที่ต้องหั่นมาหั่นให้สวยงามน่าทาน 3. ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าประมาณ 1 แก้ว เพื่อต้มน้ำซุปหมูสับ และต้มกุ้งแห้งให้สุก พักทิ้งไว้ให้เย็น 4. ตั้งหม้อให้เดือด นำผักกูดไปลวกในน้ำเดือด ประมาณ 5 นาที แล้วแช่น้ำเย็นทันทีเพื่อให้มีสีเขียวน่ากินและรักษาคุณค่าทางอาหารด้วย ขั้นตอนการปรุง 1. นำน้ำซุปที่เย็นแล้วมาใส่ในภาชนะสำหรับปรุง ปรุงรสด้วยเกลือชมพู น้ำผึ้ง (สำหรับบางท่านอาจใช้น้ำตาลมะพร้าวที่มีค่าดัชนีความหวานต่ำ หรือ หญ้าหวาน แต่เป็นไปได้ควรหาเป็นแบบออร์แกนิค และไม่มีสิ่งเจือปน) 2. บีบมะนาวลงไป ใส่หอมแดง กระเทียม ผักชี พริก แล้วนำผักกูดที่ลวกแล้วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามที่ผู้ป่วยต้องการ แต่ไม่ควรให้เค็มจัด หวานจัด หรือเปรี้ยวจัดเกินไป ต้องระลึกเสมอว่า เราเป็นผู้ป่วยนะ 3. จัดจานให้น่ากินเพื่อกระตุ้นการเจริญอาหาร แล้วเสิร์ฟพร้อมกับผลไม้ นมถั่ว หรือ น้ำผักผลไม้ปั่น ก็จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของผู้ป่วยได้มากขึ้น สีสันช่วยในการอยากอาหารได้ดีทีเดียว ขอบอก สำหรับจานนี้นอกจากกระตุ้นความอยากอาหารได้ดีแล้ว ยังมีคุณประโยชน์ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ที่ขอชี้แจงแถลงไข ตามนี้เลยละกัน ผักกูด มีเบต้าแคโรทีนสูงและสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ช่วยเสริมสร้างการสร้างเลือด เพราะมีธาตุเหล็กสูง มีเส้นใย แร่ธาตุ และ วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินบี 3 ค่อนข้างสูง การรับประทานร่วมกับเนื้อสัตว์จะช่วยทำให้การดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้ดีขึ้นได้ แต่ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรทานผักกูดดิบ เพราะมีออกซาเลตสูง อาจทำให้เกิดโรคนิ่วในไตได้ มะเขือเทศ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะ ไลโคปีน ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก และเป็นผักที่สามารถทานได้ทั้งสด และทำให้สุก โดยไม่มีผลต่อร่างกาย และหากทำให้สุกแล้วรับประทานร่วมกับไขมัน จะยิ่งทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดี อีกทั้งยังมีวิตามิน แร่ธาตุสูง โดยเฉพาะวิตามินซี ที่ช่วยในเรื่องของการสร้างคอลลาเจน มีผลต่อผิวพรรณ กระเทียม หรือ หอมแดง มีงานวิจัยหลายงานที่บอกกล่าวถึงสรรพคุณของกระเทียมและพืชตระกูลกระเทียมที่มีสรรพคุณในการลดการอักเสบอันเป็นที่มาของ การกลายพันธุ์ของเซลล์ที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง รวมถึง สรรพคุณในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และการลดคอเลสเตอรอลในเลือด มะนาว มีวิตามินซีสูงที่มีส่วนช่วยในเรื่อง ภูมิคุ้มกันของร่างกาย และมีส่วนช่วยในเรื่องของการขับถ่าย และหากทานคู่กับอาหารที่มีธาตุเหล็กอย่างผักกูด จะช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้แก้ไขปัญหาเลือดจางในผู้ป่วยเคมีบำบัดได้ น้ำผึ้ง แม้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณน้อย แต่ประกอบด้วย กลูโคสและฟรักโทสที่เป็นแหล่งพลังงานที่ดี รวมถึงมีแร่ธาตุ และวิตามินสูง แต่ผู้ที่ไม่ควรรับประทานน้ำผึ้ง คือ ผู้ที่มีการแพ้เกสร ผู้ที่มีอาการน้ำเหลืองไม่ดี หรือภาวะแทรกซ้อนโรคปอด ผู้ที่มีอาการตาเหลือง ตัวเหลืองรวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ยำผักกูด จานนี้ ปรุงน้อย อร่อย ถูกใจ มากหลายด้วยคุณประโยชน์ ลองเพิ่มเข้าไปเป็นหนึ่งในลิสต์รายการอาหารผู้ป่วยดูเถอะออท่าน แล้วจะบอกว่า “อาหารมื้อนี้ช่างถูกใจข้าเสียจริงแม่หญิงเอ๋ย” ขอขอบคุณข้อมูลจาก pobpad.com และ medthai.com เครดิตภาพ ถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด 🍳 ใครมีอาหารสูตรเด็ด เคล็ดลับการทำอาหารใหม่ๆก็มาแชร์กับคอมมูนิตี้ TrueID Food ได้เล้ย 🥗✨ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !