วิธีเลือกซื้อดอกหอมสดใหม่ มาผัดใส่ไข่ ดูยังไงดี | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ต้นหอมเป็นผักที่มีดอกและเราสามารถนำดอกมารับประทาน และทำเป็นเมนูต่างๆ ได้ โดยที่เราเรียกส่วนนี้ว่า “ดอกหอม” น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยรับประทานดอกหอมมาก่อน อาจยังไม่รู้ว่าดอกหอมเมื่อนำมาผัดแล้วหรือทำอาหารแล้ว หวาน กรอบและอร่อยมากค่ะ ไม่มีความเผ็ดเหมือนหัวหอมนะคะ ดังนั้นหากอยากรับประทานดอกหอมผัดใส่ไข่บ้าง ต้องมารู้ก่อนว่าจะเลือกดอกหอมสดใหม่ยังไงดีค่ะ เพราะถ้าเราเลือกดอกหอมสดและคุณภาพดีมาได้ สิ่งนี้ก็ช่วยทำให้รสชาติอาหารของเราอร่อยยิ่งขึ้นค่ะ ดังนั้นเราจึงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ สำหรับดอกหอมที่ดีและน่าซื้อนั้น ไม่ได้ยากจนเกินไปที่จะสังเกตค่ะ เพียงแต่ว่าเราต้องรู้หัวใจสำคัญในการเลือกผักชนิดนี้ ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนจะมาส่งต่อเคล็ดลับดีๆ ที่มีทั้งหมด 8 ข้อด้วยกัน ที่รับรองว่าคุณผู้อ่านสามารถมองเห็นภาพ และเลือกดอกหอมดใหม่ได้ง่ายขึ้นแน่นอนค่ะ ส่วนจะมีเคล็ดลับอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เรามาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า กับเนื้อหาดังต่อไปนี้ค่ะ 1. ดูสี เขียวสดใส คือสัญญาณบ่งบอกถึงความสดใหม่ของดอกหอมค่ะ เมื่อเราเลือกซื้อดอกหอม ควรสังเกตสีของดอกหอมให้ดีค่ะ โดยดอกหอมที่ดีจะมีสีเขียวสดใสทั่วทั้งดอก ไม่ว่าจะเป็นส่วนของลำต้นและก้านดอก ปกติเมื่อดอกหอมเริ่มเหี่ยวหรือใกล้จะเสีย สีเขียวจะค่อยๆ จางลง และอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาลได้ ดอกหอมที่มีสีซีดจาง อาจเป็นเพราะเก็บไว้นานเกินไป หรือถูกแสงแดดมากเกินไป จุดเหลืองบนดอกหอมบ่งบอกว่าดอกหอมเริ่มเน่าเสียแล้ว หากพบดอกหอมที่มีสีอื่นๆ ปนอยู่ เช่น สีน้ำตาล หรือสีดำ แสดงว่าดอกหอมนั้นเสียแล้ว ไม่ควรนำมาประกอบอาหาร ดังนั้นเมื่อเลือกซื้อดอกหอม ควรเปรียบเทียบสีของดอกหอมแต่ละกำ เพื่อเลือกดอกหอมที่มีสีสม่ำเสมอที่สุดค่ะ 2. ดมกลิ่น กลิ่นหอมนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญมากในการบอกเล่าถึงความสดใหม่ของดอกหอมค่ะ หากคุณผู้อ่านได้ดมกลิ่นดอกหอมแล้วรู้สึกว่ามีกลิ่นที่ผิดปกติไปจากกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคย นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าดอกหอมนั้นอาจจะไม่สดใหม่แล้วค่ะ เพราะปกติดอกหอมมีสารระเหยที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยสารเหล่านี้จะค่อยๆ ระเหยออกไปเมื่อดอกหอมเริ่มเหี่ยวหรือเน่าเสีย กลิ่นหอมของดอกหอมสดใหม่จะไม่ฉุน หรือแรงเกินไป แต่จะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย กลิ่นหอมของดอกหอมแต่ละชนิดจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป เช่น ดอกหอมแดงจะมีกลิ่นหอมฉุนเล็กน้อย แต่ดอกหอมหัวใหญ่จะมีกลิ่นหอมหวานค่ะ ดอกหอมที่ดีจะไม่มีกลิ่นอื่นๆ ปะปน เช่น กลิ่นเหม็นอับ กลิ่นเน่า หรือกลิ่นดิน ดอกหอมที่ได้รับความร้อน หรือถูกบีบอัด อาจมีกลิ่นฉุนออกมา ดอกหอมที่ได้รับสารเคมีปนเปื้อน อาจมีกลิ่นที่ผิดปกติไปจากกลิ่นหอมตามธรรมชาติ 3. สัมผัส นอกจากสีสันและกลิ่นหอมแล้ว การสัมผัสก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดของดอกหอมค่ะ ดอกหอมที่ดีควรมีความกรอบและแข็ง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความสดใหม่ ไม่นิ่มยวบหรือมีรอยช้ำ ปกติดอกหอมที่เพิ่งเก็บมาใหม่จะมีเซลล์ที่แข็งแรง ทำให้ดอกหอมมีความกรอบและแข็ง ดอกหอมที่กรอบแข็งจะให้รสชาติที่ดีกว่าดอกหอมที่นิ่ม ดอกหอมที่กรอบแข็งจะมีอายุการเก็บรักษานานกว่าดอกหอมที่นิ่ม และวิธีการสัมผัสดอกหอม มีดังนี้ค่ะ สัมผัสที่ดอก: บีบดอกหอมเบาๆ เพื่อตรวจสอบความนิ่ม สัมผัสที่ก้านดอก: บีบก้านดอกเพื่อตรวจสอบความแข็งแรง สัมผัสที่ลำต้น: สัมผัสลำต้นเพื่อตรวจสอบว่ามีรอยช้ำหรือไม่ 4. ดูขนาด การเลือกดอกหอมให้มีขนาดที่พอเหมาะนั้นสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อทั้งรสชาติและความสะดวกในการปรุงอาหารค่ะ ดอกหอมขนาดพอเหมาะมักจะมีรสชาติที่กลมกล่อม หวานกรอบ ไม่ขมหรือเฝื่อน ดอกหอมที่มีขนาดสมดุลระหว่างดอกและก้าน จะมีรสชาติที่ดีกว่าค่ะ ดังนั้นเมื่อต้องเลือกซื้อดอกหอม ควรเปรียบเทียบขนาดของดอกหอมแต่ละดอก เพื่อเลือกดอกหอมที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เลือกขนาดดอกหอมให้เหมาะสมกับเมนูที่ต้องการทำ เช่น หากต้องการทำผัดดอกหอมใส่ไข่ อาจเลือกดอกหอมที่มีขนาดกลางค่ะ สำหรับดอกหอมที่ใหญ่เกินไปอาจมีส่วนที่แก่หรือแข็ง ทำให้รสชาติไม่อร่อย ในขณะที่ดอกหอมเล็กเกินไปอาจหาส่วนที่กินได้น้อย 5. สังเกตปลายดอก ควรเลือกดอกหอมที่มีปลายดอกครบทุกส่วน ไม่ขาดหรือเสียหายค่ะ เพราะว่าปลายดอกหอมนั้นเป็นอีกหนึ่งส่วนที่บ่งบอกถึงความสดใหม่ของดอกหอมได้เป็นอย่างดีค่ะ หากปลายดอกหอมยังคงสดใสและแข็งแรง แสดงว่าดอกหอมนั้นยังคงความสดใหม่และมีคุณภาพดี เนื่องจากปลายดอกเป็นส่วนที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม หากดอกหอมเก็บไว้นานเกินไป ปลายดอกจะเหี่ยวเฉาและแห้งก่อนส่วนอื่นๆ โดยลักษณะของปลายดอกหอมที่สดใหม่ เป็นดังนี้ สีเขียวสดใส: ปลายดอกหอมที่ดีจะมีสีเขียวสดใส ไม่ซีดจางหรือมีจุดเหลือง แข็งแรง: ปลายดอกจะแข็งแรง ไม่นิ่มหรือยุบตัว ไม่มีรอยช้ำ: ปลายดอกจะไม่มีรอยช้ำหรือรอยด่าง ไม่เหี่ยวแห้ง: ปลายดอกจะไม่เหี่ยวเฉาหรือแห้ง 6. ตรวจสอบก้าน ก้านดอกหอมนั้นเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก ในการบ่งบอกถึงความสดใหม่ของดอกหอมค่ะ หากก้านดอกหอมแข็งแรง มีสีสดใส และไม่มีรอยเสียหาย แสดงว่าดอกหอมนั้นยังคงความสดใหม่และมีคุณภาพดี เนื่องจากก้านดอกหอมเป็นส่วนที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมคล้ายกับส่วนของดอกหอม ดังนั้นถ้าหากว่าดอกหอมเก็บไว้นานเกินไป ก้านดอกหอมจะเหี่ยวเฉาและเปลี่ยนสีค่ะ 7. เลือกดอกหอมที่ไม่ชื้น ความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดอกหอมเน่าเสียได้ง่าย การเลือกดอกหอมที่ไม่ชื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสดใหม่และคุณภาพของดอกหอม ความชื้นทำให้เนื้อเยื่อของดอกหอมอ่อนตัวลง และเกิดการสลายตัวได้ง่าย ดอกหอมที่ชื้นจะสูญเสียความสดเร็วกว่าดอกหอมที่แห้ง ความชื้นเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ดอกหอมเน่าเสีย และวิธีเลือกดอกหอมที่ไม่ชื้น มีดังนี้ ตรวจสอบความชื้นที่ก้าน: สังเกตบริเวณก้านดอกหอม หากมีหยดน้ำเกาะหรือรู้สึกว่าชื้นเมื่อสัมผัส แสดงว่าดอกหอมนั้นมีน้ำมากเกินไป ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: หากซื้อดอกหอมที่บรรจุในถุงพลาสติก ให้ตรวจสอบว่ามีไอน้ำเกาะภายในถุงหรือไม่ สัมผัส: สัมผัสดอกหอมเบาๆ หากรู้สึกว่าดอกหอมเย็นชื้นหรือมีน้ำหนักมากกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าดอกหอมมีน้ำมากเกินไปค่ะ 8. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อดอกหอมจากแหล่งที่ไว้ใจได้นั้นสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณผู้อ่านได้ดอกหอมที่มีคุณภาพดี สดใหม่ และปลอดภัยต่อสุขภาพ และแหล่งที่น่าเชื่อถือในการเลือกซื้อดอกหอม ได้แก่ ตลาดสด: มักจะมีดอกหอมที่ปลูกในท้องถิ่น ซึ่งมักจะสดใหม่ ซูเปอร์มาร์เก็ต: มีดอกหอมให้เลือกหลากหลายชนิด แต่ควรตรวจสอบวันหมดอายุ ฟาร์มเกษตรกร: สามารถมั่นใจได้ว่าดอกหอมปลอดสารเคมี และคุณผู้อ่านสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกได้โดยตรงค่ะ และทั้งหมดนั้นคือแนวทางง่ายๆ ที่สำคัญตอนไปเลือกซื้อดอกหอมมาผัดใส่ไข่ค่ะ ซึ่งนอกจากผัดใส่ไข่แล้ว หากเรามีดอกหอมสดใหม่และคุณภาพดี ไม่ว่าจะทำเมนูอะไรก็อร่อยหมดค่ะ และวิธีการเลือกซื้อดอกหอมในบทความนี้ เป็นสิ่งที่ผู้เขียนก็ได้นำไปปรับใช้เหมือนกันนะคะ โดยซื้อดอกหอมที่มีสีเขียวสดใส บีบแล้วมีความแข็งตามธรรมชาติ ไม่นิ่ม และผู้เขียนมักซื้อมาแค่พอดีสำหรับที่ต้องการใช้เท่านั้นค่ะ ซึ่งการทำแบบนี้ก็ทำให้เราได้ดอกหอมสดใหม่ได้อีกเช่นเดียวกัน ยังไงนั้นหากคุณผู้อ่านกำลังจะไปซื้อดอกหอมมาทำอาหาร ก็อย่าลืมนำเทคนิคดีๆ ข้างต้นไปใช้นะคะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/lQzZ2pnmB2jQ https://food.trueid.net/detail/BDNEQKmlx81q https://food.trueid.net/detail/04m2kMajMjw9 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !