9 เมนูอาหารไทย ที่ไม่ควรเก็บเกิน 1 วัน เพราะเสียง่ายมาก มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล อาหารไทยหลายเมนูขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอร่อยจัดจ้านและกลมกล่อม แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่ทันคิดก็คือ อาหารไทยจำนวนไม่น้อยมีอายุสั้นมาก และเมื่อเก็บข้ามวันก็จะสูญเสียทั้งรสชาติและความปลอดภัยต่อสุขอนามัย เพราะส่วนผสมอย่างกะทิ ผักสด หรืออาหารทะเล ล้วนเป็นวัตถุดิบที่เสื่อมสภาพง่าย เมื่อทิ้งไว้นานเกินไปไม่เพียงแต่รสชาติเปลี่ยนไป แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดของจุลินทรีย์ ที่อาจนำไปสู่ความเจ็บป่วยได้โดยไม่รู้ตัว เพราะหลายคนคุ้นชินกับการซื้ออาหารครั้งละมากๆ แล้วเก็บไว้กินในวันถัดไปเพื่อความสะดวก แต่กลับไม่รู้ว่าพฤติกรรมนี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สุขอนามัยด้านอาหารลดลง ซึ่งการเรียนรู้ว่าเมนูใดควรกินให้หมดในวันเดียว จึงมีความจำเป็นค่ะ เพราะจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ถูกต้อง ปรับพฤติกรรมการจัดการอาหารให้เหมาะสม และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขอนามัยในครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย และต่อไปนี้คือตัวอย่างของเมนูอาหารไทยที่ไม่ควรเก็บนานเกินหนึ่งวันค่ะ 1. แกงกะทิ แกงกะทิถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมมันจากกะทิและเครื่องแกง แต่ก็เป็นเมนูที่บูดเสียได้รวดเร็วเช่นกันค่ะ เนื่องจากกะทิเป็นวัตถุดิบที่มีความมันและความชื้นสูง ทำให้เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ โดยเฉพาะในอากาศร้อน เมื่อทิ้งไว้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็อาจเริ่มเกิดการเปลี่ยนกลิ่นและรส หากเก็บข้ามวันกลิ่นเปรี้ยวผิดธรรมชาติจะชัดเจนทันทีค่ะ และเนื้อสัตว์ในแกงก็จะเละไม่น่าทาน สีของแกงก็หม่นลงจนไม่เหลือความน่ากินเหมือนเดิม ซึ่งการอุ่นแกงกะทิซ้ำหลายครั้งยิ่งทำให้รสชาติเปลี่ยนแปลงไป ความหอมของสมุนไพรและเครื่องแกงค่อยๆ จางหาย จะเหลือเพียงความมันเลี่ยนและกลิ่นไม่สดใหม่ นอกจากนี้คราบน้ำมันจะลอยหน้าแกงและจับตัวเป็นชั้น ทำให้เสียรสสัมผัสของอาหารที่ควรจะละมุนละไม สำหรับการบริโภคที่ปลอดภัยและอร่อยที่สุด ควรทำในปริมาณพอเหมาะต่อการรับประทาน และกินให้หมดภายในวันเดียว หากเหลือจริงๆ ต้องรีบแช่เย็นและอุ่นให้เดือดก่อนทาน แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถทดแทนรสชาติสดใหม่จากการทำเสร็จใหม่ๆ ได้เลยค่ะ 2. ข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่เป็นเมนูยอดนิยมที่ดูเหมือนจะเก็บไว้ได้ แต่แท้จริงแล้วกลับเสื่อมคุณภาพเร็วมากนะคะ จากที่ข้าวที่หุงกับน้ำมันไก่เมื่อทิ้งไว้นานเกิน 1 วัน จะเริ่มมีกลิ่นเหม็นหืนและเสียรสสัมผัส จากที่เคยหอมมันจะกลายเป็นเลี่ยนจืดไม่อร่อย ส่วนเนื้อไก่ที่เคยชุ่มฉ่ำก็จะแห้งแข็งจนไม่น่าทาน อีกทั้งการแช่ไว้นานในตู้เย็น ก็ทำให้กลิ่นคาวซึมเข้าเนื้อไก่ยิ่งขึ้น จึงไม่เหลือความอร่อยสดใหม่เหมือนตอนแรกเลยค่ะ ส่วนน้ำจิ้มข้าวมันไก่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรเก็บข้ามวัน เพราะส่วนผสมอย่างพริก กระเทียม และเต้าเจี้ยว เมื่อทิ้งไว้นานจะเสียรสชาติ กลายเป็นกลิ่นหมักหมมที่ไม่สดใหม่ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ หากวางไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อจุลินทรีย์ที่มักพบในเนื้อไก่ ดังนั้นข้าวมันไก่จึงควรรับประทานให้หมดภายในวันเดียว เพื่อคงความอร่อย หอม มัน และปลอดภัยต่อสุขอนามัยอย่างแท้จริงค่ะ 3. ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานด่วนที่หลายคนชื่นชอบ แต่กลับเป็นเมนูที่เสื่อมคุณภาพอย่างรวดเร็วเมื่อปล่อยทิ้งไว้นานค่ะ เพราะว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ในน้ำซุปจะอืดและเละ จึงทำให้เสียรสสัมผัสจากความเหนียวนุ่มกลายเป็นยุ่ยไม่น่ากิน อีกทั้งน้ำซุปที่เคยใสและหอมจากกระดูกหมูหรือไก่ ก็จะขุ่นและส่งกลิ่นหมักหมมไม่พึงประสงค์ทันทีหากเก็บข้ามวัน นอกจากนี้ผักโรยหน้า เช่น ถั่วงอกหรือขึ้นฉ่าย จะดำและเหี่ยวจนหมดความสดใหม่ ซึ่งการอุ่นก๋วยเตี๋ยวที่เหลือยิ่งทำให้รสชาติเปลี่ยนไป กลายเป็นรสจืดเลี่ยนและไม่กลมกล่อมเหมือนตอนทำใหม่ อีกทั้งไขมันจากน้ำซุปที่ทิ้งไว้นานจะลอยตัวและจับเป็นคราบเหนียว ทำให้เสียทั้งกลิ่นและรส ก๋วยเตี๋ยวจึงเป็นอาหารที่เหมาะกับการทานทันทีหลังปรุงเสร็จค่ะ หรืออย่างช้าที่สุดก็ควรรับประทานให้หมดภายในไม่กี่ชั่วโมง เพื่อคงความอร่อยและลดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขอนามัยได้ 4. ลาบหมู ลาบหมูเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติจัดจ้าน ครบรสทั้งเผ็ด เปรี้ยว และหอมเครื่องเทศ แต่ก็เป็นอาหารที่ไม่ควรเก็บข้ามวันค่ะ เนื่องจากใช้เนื้อหมูสับหรือบดเป็นหลัก ซึ่งเนื้อดิบที่ผ่านการปรุงสุกแล้วก็ยังเสื่อมคุณภาพได้เร็ว ความชื้นจากน้ำปลาและมะนาวทำให้หมูเริ่มมีกลิ่นคาวแรงขึ้นทันทีที่ทิ้งไว้นาน อีกทั้งตับหรือเครื่องในที่บางสูตรนิยมใส่ ก็ยิ่งเป็นตัวเร่งให้เนื้อเสียเร็ว หากเก็บไว้ถึงวันรุ่งขึ้นกลิ่นเหม็นเปรี้ยวจะชัดเจนและไม่น่าทานค่ะ รวมไปถึงข้าวคั่วที่เคยหอมก็จะชืดลงเมื่อเวลาผ่านไป ความเผ็ดร้อนของพริกป่นที่เคยกระตุ้นรสชาติกลับกลายเป็นเฝื่อน ส่วนผักสดที่โรยหน้า เช่น หอมแดงและสะระแหน่ จะเหี่ยวและสูญเสียกลิ่นหอม จึงทำให้ลาบหมูไม่น่ากินเหมือนตอนทำใหม่ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนจุลินทรีย์ ที่ก่อให้เกิดอาการในรูปแบบต่างๆ จากที่มีอาหารเป็นสื่อได้ง่าย ดังนั้นทางที่ดีควรทำลาบหมูในปริมาณพอเหมาะกับการทานต่อมื้อ และกินให้หมดภายในวันเดียวจะดีที่สุด ทั้งเพื่อคงความอร่อยและเพื่อความปลอดภัยของร่างกายค่ะ 5. ผัดไทย ผัดไทยเป็นเมนูเส้นที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยรสชาติที่ผสมผสานความเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ได้อย่างลงตัว แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้าม คือ คุณภาพของผัดไทยจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเก็บไว้ข้ามวันค่ะ เพราะเส้นก๋วยเตี๋ยวที่คลุกเคล้ากับน้ำปรุงและน้ำมันจะอืดและแข็งเหนียว ทำให้เสียรสสัมผัสจากที่เคยนุ่มเหนียวจะกลายเป็นเละและไม่น่ากิน ผักสดที่ใส่ลงไป เช่น ถั่วงอกและกุยช่าย จะสลบและดำคล้ำจนไม่เหลือความสดใหม่ และส่วนประกอบอื่นๆ อย่างกุ้งแห้ง เต้าหู้ทอด และไข่ที่ผัดรวมกัน หากเก็บไว้นานจะเริ่มมีกลิ่นหืนและกลายเป็นรสชาติหมักหมม การอุ่นซ้ำก็ไม่สามารถเรียกความหอมของน้ำปรุงหรือความหอมไหม้กระทะกลับคืนมาได้ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์จากความชื้นในเส้นและผักสด ที่โดยสรุปแล้วการทานผัดไทยควรบริโภคให้หมดในมื้อเดียวหลังทำเสร็จใหม่ๆ เพื่อให้ได้ความอร่อยสด หอมกรุ่น และถูกสุขอนามัยอย่างแท้จริงค่ะ 6. ข้าวผัดกะเพรา ข้าวผัดกะเพราเป็นเมนูจานด่วนที่หลายคนเลือกทานเป็นประจำ ด้วยรสเผ็ดร้อนหอมใบกะเพรา แต่กลับเป็นอาหารที่ไม่ควรเก็บข้ามวัน เพราะข้าวที่คลุกซอสและเครื่องปรุงรสไว้แล้ว เมื่อเวลาผ่านไปจะเริ่มมีกลิ่นอับ และเสียรสสัมผัสจากที่เคยร่วนอร่อยจะกลายเป็นแข็งกระด้างหรือเละ ส่วนเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ หรือเนื้อ ก็จะเริ่มมีกลิ่นคาวแรงและเนื้อแห้งแข็งจนไม่น่ากิน ใบกะเพราที่เคยหอมสดใหม่ก็จะเหี่ยวและมีรสขม ทำให้เสียเสน่ห์ของจานนี้ทันทีค่ะ ถึงแม้จะนำข้าวผัดกะเพรามาอุ่นซ้ำ แต่รสชาติที่จัดจ้านก็ไม่สามารถกลับมาเหมือนตอนทำใหม่ได้ ซึ่งความเผ็ดและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของกะเพราจะจางลง เหลือเพียงรสเลี่ยนและกลิ่นหมักหมม อีกทั้งการเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องยังเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ที่อาจทำให้เกิดการเจ็บไข้ได้ป่วยผ่านทางอาหารได้ เพราะฉะนั้นข้าวผัดกะเพราจึงเหมาะที่จะทำหรือซื้อมาแล้วทานทันทีภายในวันเดียว เพื่อคงทั้งรสชาติและความปลอดภัยต่อสุขอนามัยนะคะทุกคน 7. แกงส้ม แกงส้มเป็นเมนูที่หลายบ้านนิยม เพราะมีรสเปรี้ยว เผ็ด และความหอมของสมุนไพร แต่ก็เป็นอาหารที่ไม่ควรเก็บข้ามวันนะคะ เนื่องจากแกงส้มมักใส่ผักสด เช่น ดอกกะหล่ำ มะละกอ หรือถั่วฝักยาว ซึ่งเมื่อแช่อยู่ในน้ำแกงนานเกินไปจะนิ่มเละและเสียรสสัมผัสทันที น้ำแกงที่เคยใสสดใหม่ก็จะกลายเป็นขุ่นและมีกลิ่นหมักหมม รสชาติเปรี้ยวที่สดใหม่จากมะขามเปียก ก็เปลี่ยนเป็นเปรี้ยวขมจนไม่กลมกล่อมเหมือนเดิม อีกทั้งการอุ่นแกงส้มซ้ำหลายครั้งจะทำให้กลิ่นหอมของสมุนไพรจางลง เหลือเพียงความเปรี้ยวโดดและเฝื่อน ผักที่เหลืออยู่ก็มักจะยุ่ยจนไม่สามารถเก็บรสหรือกลิ่นได้ อีกทั้งน้ำแกงที่มีความชื้นและความเปรี้ยวสูง ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ หากบริโภคหลังเก็บข้ามวันอาจก่อให้เกิดอาการต่างๆ ได้ง่าย ดังนั้นแกงส้มควรทำในปริมาณพอเหมาะ และรับประทานให้หมดภายในวันเดียวจะดีกว่า เพื่อคงทั้งรสชาติและความปลอดภัยสูงสุดค่ะ 8. ยำทะเล จากที่เราก็ได้รู้กันมาแล้วว่า ยำทะเลถือเป็นเมนูยอดนิยมที่หลายคนชอบ ด้วยความสดกรอบของผักและรสชาติเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้าน แต่ก็เป็นหนึ่งในอาหารที่ไม่ควรเก็บข้ามวันอย่างเด็ดขาดค่ะ เพราะวัตถุดิบหลักคืออาหารทะเล เช่น กุ้ง หมึก และหอย ซึ่งมีความบอบบางและเน่าเสียง่ายมาก เมื่อทิ้งไว้เพียงไม่กี่ชั่วโมง เนื้อสัตว์เหล่านี้จะเริ่มมีกลิ่นคาวแรงและเนื้อยุ่ยจนไม่อร่อยเหมือนตอนปรุงใหม่ อีกทั้งผักสดอย่างหอมใหญ่ มะเขือเทศ และขึ้นฉ่ายก็จะเหี่ยวคล้ำเสียรสชาติทันที แม้จะเก็บไว้ในตู้เย็น ยำทะเลที่เหลือก็ไม่สามารถคืนความสดใหม่ได้ รสเปรี้ยวจากมะนาวจะเปลี่ยนเป็นเปรี้ยวขม ความเผ็ดของพริกก็จางลงจนไม่จัดจ้านเหมือนเดิม และกลายเป็นรสหมักหมมที่ไม่น่าทาน นอกจากนี้ความชื้นและโปรตีนจากอาหารทะเลยังเอื้อต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย หากทานข้ามวันอาจเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยที่มีอาหารเป็นสื่อได้สูง ดังนั้นทางที่ดีควรทำยำทะเลเท่าที่ต้องการ และรับประทานให้หมดทันทีเพื่อคงทั้งความอร่อยและความปลอดภัยต่อสุขอนามัยค่ะ 9. ส้มตำ ส้มตำเป็นเมนูยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดแซ่บ เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส แต่กลับเป็นอาหารไทยที่ไม่ควรเก็บข้ามวันค่ะ เนื่องจากใช้วัตถุดิบสดเป็นหลัก โดยเฉพาะเส้นมะละกอซึ่งเมื่อทิ้งไว้จะดูดซับน้ำปรุงรสจนเละ ไม่เหลือความกรอบสดเหมือนตอนตำใหม่ อีกทั้งมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว และถั่วลิสงที่ใส่ลงไปก็จะสูญเสียรสชาติ กลายเป็นนิ่มและหมักหมม รสชาติของน้ำปรุงก็เปลี่ยนไปจากความจัดจ้านเป็นรสเปรี้ยวฝาดที่ไม่น่าทาน การเก็บส้มตำไว้นานยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสูง เพราะเป็นอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงด้วยความร้อน ผักสดที่ล้างไม่สะอาดอาจมีจุลินทรีย์ติดมาด้วย และเมื่อทิ้งไว้นานในอุณหภูมิห้อง จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยที่มาจากอาหาร และถึงแม้จะเก็บในตู้เย็นก็ตาม ก็ไม่สามารถคืนความกรอบและรสชาติสดใหม่ได้ค่ะ ดังนั้นส้มตำจึงเหมาะแก่การรับประทานทันทีหลังทำเสร็จ และไม่ควรเก็บไว้ข้ามวันเพื่อให้ได้ทั้งความอร่อยและความปลอดภัยต่อสุขอนามัยนะคะ และทั้งหมดนั้นคือตัวอย่างของเมนูอาหารไทย ที่ไม่ควรเก็บนานหลายวัน เพราะแค่วันเดียวก็มีความเสี่ยงแล้วค่ะ ไหนจะคุณภาพและรสชาติที่อร่อยลดลงไปอีก ดังนั้นหากทำเมนูดังกล่าวข้างต้น ควรบริการจัดการให้ดีนะคะ เพราะอาหารเป็นสื่อนำมาซึ่งความเจ็บป่วยในคนเราได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่ทำใหม่ๆ ยังไงก็ดีกว่าอยู่วันยังค่ำค่ะ ที่โดยสรุปแล้วการรู้จักว่าอาหารไทยเมนูใดไม่ควรเก็บข้ามวันเป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะอาหารที่ผู้เขียนได้พูดถึงไว้นั้น มักมีส่วนผสมที่บอบบาง เน่าเสียง่าย และเสื่อมคุณภาพเร็ว เช่น กะทิ ผักสด และอาหารทะเล หากเก็บไว้นานเกิน 1 วัน ไม่เพียงแต่ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปจนไม่น่าทานเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดจุลินทรีย์ก่อความเจ็บป่วยในคนเราได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขอนามัยที่ตามในภายหลัง ดังนั้นความเข้าใจเรื่องนี้จึงช่วยให้เราตระหนักและจัดการมื้ออาหารได้ดีขึ้นนะคะ ซึ่งการนำความรู้นี้ไปใช้จริงก็ทำได้ไม่ยากค่ะ ให้เริ่มจากการวางแผนปริมาณอาหารที่ปรุงหรือซื้อมาให้เหมาะสมต่อการบริโภคในวันเดียว หากเป็นเมนูที่เสื่อมคุณภาพไว เช่น ส้มตำ ยำทะเล หรือลาบหมู ควรตั้งใจทำหรือซื้อเท่าที่จะกินหมดในทันที ไม่เผื่อเก็บไว้ ส่วนเมนูแกงที่ใช้กะทิ ก็ควรรีบแช่เย็นทันทีหากเหลือ และอุ่นให้เดือดก่อนทานซ้ำ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรเก็บข้ามวันค่ะ เพราะความอร่อยและความปลอดภัยลดลงอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก! โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือ การใส่ใจเรื่องสุขาภิบาลให้กลายเป็นพฤติกรรมประจำวัน เพราะช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านสุขอนามัยได้ และยังทำให้เราได้ทานอาหารรสชาติสดใหม่ที่อร่อยที่สุดอยู่เสมอ อีกทั้งยังช่วยลดการสูญเสียอาหารจากการทิ้งของที่เสียแล้วโดยไม่จำเป็น การใส่ใจเรื่องนี้จึงไม่ใช่เพียงการดูแลร่างกายตัวเองเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจในมื้ออาหารของครอบครัวและคนรอบตัวได้อย่างแท้จริงค่ะ สำหรับผู้เขียนนั้นในตอนหลังมาได้มีการวางแผนอย่างเป็นระบบมากขึ้น ทั้งเรื่องปริมาณอาหารที่ทำ การเก็บรักษาอาหาร หากมีอาหารเหลือเยอะจริงๆ ผู้เขียนจะให้การแบ่งให้ญาติหรือบ้านใกล้เรือนเคียง เพื่อลดการสูญเสียอาหารค่ะ และถ้าได้ไปข้างนอกมักสั่งอาหารแค่พอดีทาน หากมีอาหารเหลือจริงๆ และต้องการนำกลับบ้าน แบบนี้ผู้เขียนจะสั่งให้ห่อกลับบ้าน และนำมาอุ่นทานในเวลาถัดมาเสมอ ซึ่งจากการได้รู้ว่าเมนูไหนเก็บไว้นานไม่ได้ ทำให้ผู้เขียนทำอาหารแบบสติมากขึ้นค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านเองก็ไม่ควรเพิกเฉยเกี่ยวกับอาหารนะคะ โดยเฉพาะอาหารที่เสียง่าย และผู้เขียนก็จะยังพูดย้ำเสมอว่า “เพราะอาหารเป็นสื่อของการเจ็บไข้ได้ป่วยในคนเราได้” ดังนั้นอย่าลืมว่าอาหารทั้ง 9 ชนิดที่ผู้เขียนได้พูดถึงนั้น ถือว่ามีความเสี่ยงหากเก็บไว้นานค่ะ ยังไงลองอ่านทำความเข้าใจอีกสักรอบก่อนก็ได้ และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #อาหารไทย #สุขาภิบาลอาหาร #ความปลอดภัยของอาหาร #FoodSanitation เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก โดย Jcomp จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 9 ทริคดูก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ แบบไหนดีอร่อย สะอาดถูกสุขลักษณะ 9 เคล็ดลับเลือกซื้ออาหารให้ปลอดภัย ในตลาด ช่วงหน้าฝน ทำยังไง 11 เมนูมีเลือดไก่ก้อน ทานกับข้าวสวยได้ อร่อยทุกคำ มีอะไรบ้าง หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !