8 วิธีเลือกสตรอว์เบอร์รี่ หวานอร่อย รสชาติดี ดูยังไง | บทความโดย Pchalisa การเลือกผลไม้ที่สดใหม่มีผลต่อรสชาติและความอร่อยค่ะ ซึ่งสตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่เราก็ต้องมีการเลือกซื้อ เพราะสตรอว์เบอร์รี่ที่หวานหอมและอร่อยตามธรรมชาตินั้น ต้องมีการสังเกตที่เฉพาะเจาะจงค่ะ โดยในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับเคล็ดลับเลือกผลไม้ชนิดนี้กัน ที่เป็นแนวทางง่ายๆ และถ้าคุณผู้อ่านนำไปใช้ ยังไงได้สตรอว์เบอร์รี่สดใหม่และรสชาติดีแน่นอนค่ะ ดังนั้นต้องอ่านให้จบค่ะ ส่วนจะมีเนื้อหาอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่า ดังนี้ 1. ดูที่สี การสังเกตสีของสตรอว์เบอร์รี่เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมากในการเลือกซื้อผลไม้ชนิดนี้ค่ะ เพราะสีจะบ่งบอกถึงระดับความสุกและความหวานของสตรอว์เบอร์รี่ได้เป็นอย่างดี โดยสีแดงของสตรอว์เบอร์รี่ มีความหมายว่า แดงทั่วทั้งผล: สตรอว์เบอร์รี่ที่สุกเต็มที่ จะมีสีแดงสดใสครอบคลุมทั่วทั้งผล ไม่มีส่วนที่ยังคงมีสีเขียว หรือเหลืองปนอยู่เลย ซึ่งบ่งบอกว่าสตรอว์เบอร์รี่ลูกนั้นได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ และพร้อมที่จะให้รสชาติที่หวานอร่อย แดงเข้ม: ยิ่งสีแดงเข้มมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งบ่งบอกว่าสตรอว์เบอร์รี่ลูกนั้นสุกเต็มที่ และมีรสชาติหวานมากขึ้นเท่านั้นค่ะ ที่ต้องเลือกผลที่มีสีสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงผลที่ด่าง เพราะสตรอว์เบอร์รี่ที่มีสีไม่สม่ำเสมอหรือมีรอยด่าง อาจเป็นเพราะการเก็บเกี่ยวที่ไม่ระมัดระวัง หรืออาจเกิดจากการกระทบกระเทือนระหว่างการขนส่ง ซึ่งมักจะทำให้รสชาติของสตรอว์เบอร์รี่ลดลง และอาจมีส่วนที่เน่าเสียได้ด้วยค่ะ อีกทั้งต้องไม่เลือกผลที่มีสีซีดมา เนื่องจากว่าสตรอว์เบอร์รี่ที่มีสีซีดหรือสีแดงอ่อน อาจเป็นเพราะยังไม่สุกเต็มที่ หรืออาจเก็บไว้นานเกินไป จะทำให้มีรสชาติไม่อร่อยค่ะ 2. สังเกตผิว การดูที่ผิวของสตรอว์เบอร์รี่เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการเลือกซื้อผลไม้ที่สดใหม่และมีคุณภาพค่ะ ผิวของสตรอว์เบอร์รี่จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสดใหม่ ระดับความสุก และการดูแลรักษาของสตรอว์เบอร์รี่ได้เป็นอย่างดี โดยให้สังเกตสิ่งต่อไปนี้ที่ผิวของผลสตรอว์เบอร์รี่ ได้แก่ 2.1 ผิวมันเงา ผิวเรียบเนียน: สตรอว์เบอร์รี่ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ จะมีผิวที่เรียบเนียนและมันวาวเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสตรอว์เบอร์รี่ยังคงความชุ่มชื้นและสดใหม่ เงางาม: ความเงางามของผิวจะช่วยให้สตรอว์เบอร์รี่ดูน่ารับประทาน และบ่งบอกถึงคุณภาพของผลไม้ค่ะ 2.2 เมล็ดนูนชัด หลายคนยังไม่รู้ว่า เมล็ดของสตรอว์เบอร์รี่ที่สุกเต็มที่จะนูนชัดเจน และมีรอยบุ๋มเล็กน้อยที่เมล็ด ซึ่งเป็นลักษณะปกติของสตรอว์เบอร์รี่ที่สุกงอม แต่ถ้าเมล็ดของสตรอว์เบอร์รี่เรียบเสมอกัน นี่เป็นลักษณะของสตรอว์เบอร์รี่ยังไม่สุกเต็มที่นะคะ 2.3 ไม่มีรอยช้ำ ผิวเรียบไม่มีรอย: สตรอว์เบอร์รี่ที่เก็บเกี่ยวและขนส่งอย่างถูกวิธี จะมีผิวที่เรียบเนียน ไม่มีรอยบุบสลาย รอยขีดข่วน หรือรอยช้ำ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสตรอว์เบอร์รี่ลูกนั้นไม่ได้รับความเสียหาย หลีกเลี่ยงรอยเขียว: รอยเขียวบนผิวสตรอว์เบอร์รี่อาจเป็นสัญญาณว่าสตรอว์เบอร์รี่ถูกกดทับ หรือได้รับความเย็นจัดเกินไปค่ะ 3. ดมกลิ่น กลิ่นหอมหวาน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งบอกถึงความสดใหม่และความสุกของสตรอว์เบอร์รี่ค่ะ กลิ่นหอมของสตรอว์เบอร์รี่จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์และความสุก แต่โดยทั่วไปแล้ว สตรอว์เบอร์รี่ที่สุกเต็มที่ จะมีกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัวที่ชวนให้น่ารับประทาน สตรอว์เบอร์รี่ที่สุกเต็มที่ จะมีกลิ่นหอมชัดเจน หากสตรอว์เบอร์รี่ยังไม่สุก หรือสุกเกินไป กลิ่นหอมจะไม่ชัดเจน หรืออาจมีกลิ่นเปรี้ยว สตรอว์เบอร์รี่ที่สดใหม่ จะมีกลิ่นหอมสดชื่น หากสตรอว์เบอร์รี่เริ่มเน่าเสีย กลิ่นหอมจะหายไป และอาจมีกลิ่นเหม็นค่ะ อย่างไรก็ตามการดมกลิ่นก่อนสัมผัสจะช่วยให้คุณผู้อ่านตัดสินใจเลือกซื้อสตรอว์เบอร์รี่ได้อย่างรวดเร็วค่ะ 4. ดูที่ขั้ว การสังเกตขั้วของสตรอว์เบอร์รี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราเลือกซื้อผลไม้ที่สดใหม่ได้ค่ะ ขั้วของสตรอว์เบอร์รี่จะบ่งบอกถึงความสดใหม่และอายุของผลไม้ได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยขั้วของสตรอว์เบอร์รี่ที่สดใหม่จะมีสีเขียวสดใส ไม่เหลืองหรือเหี่ยว ขั้วไม่เปลี่ยนสี เพราะขั้วที่ยังคงสีเขียวสดบ่งบอกว่าสตรอว์เบอร์รี่ถูกเก็บเกี่ยวมาไม่นาน และยังคงความสดใหม่ ก้านของสตรอว์เบอร์รี่ที่แข็งแรงจะช่วยยึดผลไว้กับต้นได้ดี ทำให้สตรอว์เบอร์รี่ไม่หลุดง่าย และยังคงความสดใหม่ จะไม่หักง่ายเมื่อถูกสัมผัสค่ะ ซึ่งสตรอว์เบอร์รี่ที่มีขั้วเหี่ยวหรือก้านหัก เป็นสัญญาณว่าสตรอว์เบอร์รี่เริ่มเน่าเสียแล้วนะคะ โดยเราสามารถทดสอบได้ง่ายๆ ด้วยการลองดึงก้านของสตรอว์เบอร์รี่เบาๆ เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงค่ะ 5. สังเกตใบ ใบของสตรอว์เบอร์รี่ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถบ่งบอกถึงความสดใหม่ของผลไม้ได้เช่นกันค่ะ การสังเกตใบจะช่วยให้เราเลือกซื้อสตรอว์เบอร์รี่ที่เก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ และมีคุณภาพดี โดยใบของสตรอว์เบอร์รี่ที่สดใหม่จะมีสีเขียวสดใสทั่วทั้งใบ ไม่มีจุดเหลืองหรือรอยด่าง ใบจะแข็งแรง ไม่เหี่ยวเฉา หรือมีขอบใบแห้งค่ะ ที่ต้องสังเกตใบที่ติดกับผล เพราะใบที่ติดกับผลโดยตรงจะเป็นตัวบ่งบอกความสดใหม่ของผลได้ดีที่สุดค่ะ 6. เลือกขนาดกลาง สตรอว์เบอร์รี่ขนาดกลางมักจะมีความสมดุลระหว่างรสหวานและรสเปรี้ยว ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม น่ารับประทาน สตรอว์เบอร์รี่ขนาดกลางมักจะสุกพอดี ไม่สุกเกินไปหรือยังไม่สุก ทำให้ได้รสชาติที่หวานฉ่ำ และสตรอว์เบอร์รี่ขนาดกลางมักจะมีเนื้อที่แน่น ทำให้มีความหวานเข้มข้นค่ะ โดยให้หลีกเลี่ยงผลที่เล็กเกินไป เพราะสตรอว์เบอร์รี่ขนาดเล็กมักยังไม่สุกเต็มที่ จึงมีรสเปรี้ยวมากกว่ารสหวาน ตลอดจนสตรอว์เบอร์รี่ขนาดเล็กอาจมีเนื้อแข็งและไม่อร่อยค่ะ ที่ปกติแล้วสตรอว์เบอร์รี่ที่เก็บเกี่ยวในช่วงเวลาเดียวกันมักจะมีขนาดใกล้เคียงกัน และมีรสชาติที่คล้ายคลึงกัน และนอกจากขนาดแล้ว ยังควรสังเกตรูปร่างของสตรอว์เบอร์รี่ด้วย ที่ควรเลือกผลที่มีสีแดงสดและรูปทรงสมมาตรค่ะ 7. สัมผัสความแน่น การสัมผัสความแน่นของสตรอว์เบอร์รี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญในการเลือกซื้อผลไม้ที่สดใหม่และมีคุณภาพค่ะ เนื้อสัมผัสของสตรอว์เบอร์รี่จะบอกเล่าถึงความสดใหม่ ระดับความสุก และคุณภาพภายในของผลไม้ได้เป็นอย่างดี สตรอว์เบอร์รี่ที่สดใหม่จะมีเนื้อสัมผัสที่แน่นตึง เมื่อกดเบาๆ ที่ผิวจะรู้สึกถึงความแข็งแรง ไม่นิ่มยุบ เนื้อภายในของสตรอว์เบอร์รี่จะไม่เละ หรือมีน้ำซึมออกมา โดยสตรอว์เบอร์รี่ที่สุกเกินไป เนื้อจะนิ่มและเละ การสัมผัสความแน่นจะช่วยให้คุณผู้อ่านหลีกเลี่ยงการเลือกซื้อสตรอว์เบอร์รี่ที่เน่าเสียได้ค่ะ 8. ดูที่แหล่งที่มา การเลือกซื้อสตรอว์เบอร์รี่จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราได้สตรอว์เบอร์รี่ที่มีคุณภาพดี เพราะแหล่งที่น่าเชื่อถือจะคัดสรรผลไม้ที่มีความสดใหม่ สะอาด และปลอดภัยต่อผู้บริโภค จากที่แหล่งที่น่าเชื่อถือจะคัดเลือกสตรอว์เบอร์รี่ที่มีคุณภาพดี ไม่มีรอยช้ำหรือรอยด่าง และแหล่งที่น่าเชื่อถือมักจะมีสตรอว์เบอร์รี่หลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก ถ้ามีโอกาสการซื้อสตรอว์เบอร์รี่จากสวนผลไม้โดยตรง จะได้สตรอว์เบอร์รี่ที่สดใหม่ที่สุด และสามารถเลือกซื้อได้เองตามต้องการค่ะ ซึ่งสมัยนี้ร้านค้าออนไลน์บางแห่งจำหน่ายสตรอว์เบอร์รี่ที่ปลูกโดยเกษตรกรโดยตรง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมาก และนั่นคือ 8 เคล็ดลับเลือกสตรอว์เบอร์รี่หวานอร่อยตามธรรมชาติค่ะ พอจะมองภาพออกไหมคะ? โดยแนวทางในนี้ผู้เขียนเองก็ได้นำไปปรับใช้เหมือนกันค่ะ ที่มักสังเกตสีแดงทั้งลูกและผิวของลูกสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งในบางที่ถ้าขอชิมได้ผู้เขียนมักจะชิมเพื่อประเมินรสชาติก่อนซื้อค่ะ แต่ถ้าทำไม่ได้สิ่งถัดมาที่ผู้เขียนจะทำก็คือ การสัมผัสความแน่นและถามว่าสตรอว์เบอร์รี่มาจากที่ไหนค่ะ เพราะสิ่งนี้ก็ทำให้ได้สตรอว์เบอร์รี่อร่อยๆ ได้ง่ายๆ ค่ะ ซึ่งสตรอว์เบอร์รี่จากเชียงใหม่มักเป็นตัวเลือกที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองนำเทคนิคดีๆ ในนี้ไปปรับใช้กันค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/bPXAj7Q0WpbR https://food.trueid.net/detail/xBz9vox9A37j https://food.trueid.net/detail/5LWNkqDGo39n หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !