เมื่อนึกถึงกาแฟ เราอาจนึกถึงกาแฟตามร้านต่าง ๆ ที่มีเครื่องชงกาแฟ หรือเครื่องสกัดน้ำกาแฟออกมาด้วยแรงดันความร้อน มีกลิ่นหอม และ เมื่อผสมกับนมสด หรือ syrub อื่น ๆ ทำให้มีรสชาติลากหลายรสชาติ แตกต่างกันออกไป ซึ่งเจ้าเครื่องชงกาแฟนี้แพงเอามากพอสมควร แต่ละเครื่องก็ราคาหลักหมื่นขึ้นไป ปัจจุบันนี้ ก็มีบาริสต้าเกิดขึ้นมากมาย และ ร้านกาแฟก็เปิดตัวร้านกาแฟกันมากมาย เต็มบ้าน เต็มเมืองไปหมด จะกินกาแฟแต่ละทีก็ต้องหาร้านที่มีรสชาติให้เข้ากับตัวเอง และ ทำให้เหล่านักชิมกาแฟเกิดขึ้นมากมาย แต่สำหรับผม ก็เป็นคนหนึ่งที่เข้าใกล้กับการเป็นนักชิมสมัครเล่นไปแล้ว ดื่มด่ำกาแฟตั้งแต่ คั่วเข้ม คั่วกลาง และ คั่วอ่อน ระดับการคั่วก็ใช้เวลาแตกต่างกันไป คั่วเข้ม คือ กาแฟที่คั่วจนกว่าเมล็ดจะมีสีน้ำตาลเข้มมาก เพราะใช้เวลาในการคั่วนาน เรียกว่าคั่วไหม้ เวลาชงสกัดน้ำกาแฟออกมา รสชาติขม จนถึง ขมมาก คั่วกลาง คือ กาแฟที่คั่วออกมาเป็นสีน้ำตาลเข้มนิด ๆ อาจจะติดเปรี้ยวนิดหน่อย คั่วอ่อน คือ กาแฟที่คั่วพอให้เมล็ดกาแฟแห้ง มีกลิ่นหอมนิด ๆ แต่ก็ยังมีกลิ่นของเมล็ดสดอยู่ มันจึงทำให้รสชาติที่ออกมา มีรสเปรี้ยว ฟาดนิดหน่อย เนื่องจากการคั่วยังไม่ถึงระดับไหม้ที่ทำให้ก๊าซในเมล็ดระเหยออกมา สำหรับส่วนตัวผมแล้ว ที่ชอบที่สุดคือคั่วอ่อนครับ มันจะมีรสชาติออกเปรี้ยว ได้รสชาติแบบ เบอรี่ เพราะกาแฟ เป็นตระกูลเดียวกับผลไม้เบอรี่นั่นเอง ในการทำ cold brew ง่าย ๆ อุปกรณ์ที่มี 1. ขวดโหล ขนาด 500 ml ขึ้นไป 2. เมล็ดกาแฟ คั่วอ่อน Arabica 100% 3. น้ำเปล่า 500 กรัม 4. ผ้ากรองกาแฟ ขั้นตอนการทำ 1. นำเมล็ดกาแฟ ชั่งให้ได้ 30-40 กรัม นำไปบดให้พอละเอียดพอประมาณ ให้ได้ 30 กรัม 2. เตรียมน้ำไว้ในขวดโหล 500 กรัม 3. ใส่เมล็ดกาแฟที่เราบดไว้ 30 กรัม ในขวดโหล คนให้เข้ากัน 4. นำไปแช่ในตู้เย็น ทิ้งไว้ 18 ชั่วโมง หรือ 1 คืน 5. จากนั้นก็ใช้ผ้ากรองกาแฟ กรองเอาเฉพาะน้ำ แยกกากกาแฟออก เราก็จะได้น้ำกาแฟที่สกัดเย็น พร้อมดื่ม น้ำกาแฟพร้อมดื่มที่กรองแล้ว สามารถเก็บได้นานเป็นเดือน โดยการแช่เย็นเท่านั้น และ ผสมกับ syrub อื่น ๆ ได้ตามใจชอบเลย ใครที่ชอบทำดื่มเอง ลองทำตามได้นะครับ ภาพปกโดย https://www.facebook.com ภาพประกอบโดยนักเขียน ภาพอื่นๆติดตามได้ที่ osachaorinalmilktae