สำหรับในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ หลาย ๆ คนคงต้องการคลายร้อน บ้างก็คงไปเที่ยวทะเล ไปเที่ยวน้ำตก นอนในห้องเปิดแอร์เย็น ๆ แต่ดิฉันก็มีวิธีคลายร้อยดี ๆ มาแนะนำทุกคนค่ะ นั่นคือ การกินขนมหวาน ที่มีชื่อว่า ลอดช่อง ซึ่ง นอกจากจะคลายร้อนแล้ว ยังอิ่มท้องแบบอร่อย ๆ อีกด้วย เรามาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับลอดช่องกันดีกว่าค่ะ ลอดช่อง ถือเป็นขนมหวานที่มีคู่ไทยมายาวนาน ทุกคนต่างก็รู้จัก และคงเคยได้ลิ้มลองลอดช่องกันแล้ว ซึ่งลอดช่องจะมีลักษณะ เป็นเส้นสีเขียว เล็ก ๆ คล้าย ๆ ตัวหนอน ใส่รวมกันในน้ำกะทิ มีรสชาติหอม หวาน มัน อร่อย ซึ่งลอดช่องเป็นขนมหวานไทยแท้ตั้งแต่โบราณ ทำมาจากแป้งมันสำปะหลังปั้น นวดให้เหนียว และร่อนให้เป็นเส้น ลอดช่องส่วนใหญ่จะมีสองสี คือ สีขาวและสีเขียว ซึ่งลอดช่องสีเขียวได้จากการใช้น้ำคั้นจากใบเตยลงผสมกับแป้งข้าว นอกจากจะให้สีเขียวแล้ว ยังช่วยให้ช่วยให้มีกลิ่นหอมของใบเตย และ ลอดช่องสีขาว เป็นลอดช่องที่ไม่เติมสารสีใด ๆ ลงในน้ำแป้ง เพราะตัวแป้งจะให้สีขาวโดยธรรมชาติ ลอดช่องจะทานคู่กับน้ำกะทิที่มีรสชาติเข้มข้น หวาน มัน หรือทานคู่กับน้ำเชื่อม เพื่อให้ได้รสชาติขนมหวานที่แสนอร่อย และเพื่อเป็นการเพิ่มความอร่อยให้ลอดช่องอีกขั้นนึง ก็ควรเติมน้ำแข็งลงไปอีกสักนิด เพื่อให้ได้รสชาติ เย็น สดชื่น สามารถทานเพื่อคลายร้อนในหน้าร้อนได้ดีเลยทีเดียวค่ะส่วนวิธีการทำก็ต้องใช้อุปกรณ์ วัตถุดิบ เยอะพอสมควร ขั้นตอนในการทำก็ค่อนข้างที่จะใช้เวลานาน ดิฉันจึงแนะนำให้ซื้อมาทานดีกว่าค่ะ เพราะราคาก็อยู่ที่ประมาณ 10-20 บาท หาได้ง่ายในชนบท อาจจะตามตลาดหรือร้านขายขนมหวาน ส่วนในเมืองก็อาจจะเป็นร้านขนมหวานในห้างสรรพสินค้า หรือตามตลาดก็น่าจะมีค่ะ นอกจากนี้นะคะสำหรับใครที่เบื่อการทานลอดช่องแบบธรรมดา ดิฉันก็มีวิธีการนำลอดช่องมาทานคู่กับเมนูอื่น ๆ เช่น ลอดช่องหวานเย็น ซึ่งก็ทำได้ง่าย ๆ โดยเอาลอดช่องใส่ถาดไอศกรีมในตู้เย็น หรือใส่ถุง แล้วแช่เเข็งในตู้เย็น นอกจากนี้ยังสามารถทานคู่กับผลไม้ต่าง ๆ ได้ เช่น ลอดช่องแตงโม ลอดช่องกล้วยหอม ลอดช่องขนุน ลอดช่องมะม่วงสุก เป็นต้น และอีกเมนูที่จะมาแนะนำก็คือ ลอดช่องขนมปัง ก็สามารถใส่ขนมปังชิ้นเล็ก ๆ ลงไป แล้วทานคู่กันได้เลยค่ะ หรืออาจจะทำลอดช่องน้ำแข็งไส ก็ได้ค่ะ และนี่ก็คือขนมหวานที่ดิฉันมาแนะนำให้ทุกคนได้ทานกันในช่วงหน้าร้อน มีรสชาติอร่อย ราคาไม่แพง ช่วยคลายร้อนได้ และที่สำคัญยังเป็นขนมหวานไทยแท้ที่มีมาตั้งแต่โบราณ เราควรที่จะ อุดหนุน อนุรักษ์ สืบสานขนมหวานนี้ให้เคียงคู่ไทยต่อไปค่ะ