8 วิธีเลือกปลากระป๋อง แบบไหนดี น่าซื้อ ดูยังไง | บทความโดย Pchalisa ปลากระป๋อง อาหารสะดวกซื้อที่หลายคนคุ้นเคย เหมาะสำหรับมื้อเร่งรีบหรือเป็นส่วนหนึ่งของเมนูอาหารมื้อหลัก แต่ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายในท้องตลาด ทำให้การเลือกซื้อปลากระป๋องสักกระป๋องให้ได้คุณภาพและเหมาะกับการใช้งานกลายเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนจะพาคุณผู้อ่านมาไขข้อข้องใจ เกี่ยวกับวิธีสังเกตคุณภาพของปลากระป๋อง เพื่อให้คุณผู้อ่านมั่นใจได้ว่าทุกครั้งที่เลือกซื้อปลากระป๋อง จะได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดค่ะ ส่วนจะมีแนวทางยังไงบ้างนั้น งั้นอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ ดังข้อมูลต่อไปนี้ 1. เก็บรักษาอย่างถูกวิธี เลือกปลากระป๋องที่เก็บในที่แห้งและเย็นค่ะ โดยสถานที่เก็บควรมีอุณหภูมิคงที่และไม่สูงเกินไป หลีกเลี่ยงการเก็บในบริเวณที่มีความชื้นสูง หรือใกล้แหล่งความร้อน เพราะความชื้นและอุณหภูมิที่สูงอาจทำให้กระป๋องเกิดสนิม และส่งผลต่อคุณภาพของอาหารภายในได้ค่ะ และต้องป้องกันแสงแดด เนื่องจากการสัมผัสแสงแดดโดยตรงสามารถทำให้สีของอาหารเปลี่ยนแปลง ดังนั้นควรซื้อปลากระป๋องที่เก็บไว้ในที่ร่ม หรือในตู้เก็บที่มิดชิดค่ะ 2. เปรียบเทียบปริมาณสารอาหาร คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? การเปรียบเทียบสารอาหารในฉลากของปลากระป๋องเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการทางโภชนาการของเราค่ะ เพราะปลากระป๋องแต่ละชนิดจะมีปริมาณคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกันไป ดังนั้นวิธีการนี้ยังมีความจำเป็นต้องนำมาประยุกต์ใช้ค่ะ 3. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ การตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ของปลากระป๋องก่อนการซื้อนั้นสำคัญมาก เพราะมันเป็นเหมือนหน้าต่างบานเล็กๆ ที่ให้เราเห็นสภาพของผลิตภัณฑ์ภายใน และช่วยให้เราตัดสินใจเลือกซื้อปลากระป๋องที่มีคุณภาพได้อย่างมั่นใจค่ะ และเหตุผลที่ควรตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ก็คือ บ่งบอกถึงคุณภาพการผลิต: บรรจุภัณฑ์ที่เรียบร้อย สะอาด และไม่มีรอยเสียหาย บ่งบอกถึงกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีการควบคุมคุณภาพที่ดีค่ะ ป้องกันการปนเปื้อน: บรรจุภัณฑ์ที่เสียหายอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรค สิ่งสกปรก หรือสารเคมีเข้าไปในผลิตภัณฑ์ได้ค่ะ รักษาความสด: บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยรักษาความสดและรสชาติของปากระป๋องภายในได้นานขึ้นนะคะ 4. อ่านฉลากให้ละเอียด อ่านฉลากเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เราเลือกซื้อปลากระป๋องที่ดีได้ค่ะ เพราะฉลากจะบอกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น ชนิดของปลา ส่วนผสม วิธีการปรุงรส วันผลิต วันหมดอายุ และข้อมูลทางโภชนาการ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกซื้อปลากระป๋องที่ตรงกับความต้องการของเราได้ค่ะ 5. เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ การเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราได้ปลากระป๋องที่ดีค่ะ เพราะยี่ห้อที่น่าเชื่อถือมักจะมีมาตรฐานในการผลิตที่สูง มีการควบคุมคุณภาพที่ดี และมีชื่อเสียงที่รับประกันได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเขาปลอดภัยและมีคุณภาพ ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือมักจะมีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน มีระบบการควบคุมคุณภาพที่ดี ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความสะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพสม่ำเสมอ ผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อดังมักจะมีรสชาติและคุณภาพที่คงที่ ทำให้เราสามารถวางใจได้ว่าทุกครั้งที่ซื้อจะได้รสชาติที่อร่อยเหมือนเดิม ยี่ห้อดังมักเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี สดใหม่ และปลอดภัย 6. หลีกเลี่ยงปลากระป๋องที่มีกลิ่นผิดปกติ รู้ไหมคะว่า? การหลีกเลี่ยงปลากระป๋องที่มีกลิ่นผิดปกติเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นอาจจะเสีย ซึ่งหากทานเข้าไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ กลิ่นเหม็นบูด หรือกลิ่นเปรี้ยว เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าปลากระป๋องนั้นเกิดการเน่าเสียแล้วค่ะ ที่ไม่ควรซื้อปลากระป๋องที่มีกลิ่นเหม็นหรือเปลี่ยนสี หากเนื้อปลาเปลี่ยนสี หรือมีคราบผิดปกติ ไม่ควรซื้อเลยนะคะ 7. เลือกชนิดที่ไม่มีสารปรุงแต่งมากเกินไป เนื่องจากปลากระป๋องที่ไม่มีสารปรุงแต่งมากเกินไปจะมีรสชาติที่เป็นธรรมชาติของปลา ทำให้เราได้ลิ้มลองรสชาติที่แท้จริง การเลือกปลากระป๋องที่ไม่มีสารปรุงแต่งมากเกินไปเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพราะจะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากคุณค่าทางโภชนาการของปลาอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องกังวลกับผลกระทบด้านสุขภาพจากสารปรุงแต่งต่างๆ ค่ะ 8. เลือกขนาดที่เหมาะสม การเลือกขนาดปลากระป๋องอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การเลือกขนาดที่เหมาะสมนั้นส่งผลต่อประสบการณ์การบริโภคและประโยชน์ที่ได้รับจากปลากระป๋องได้อย่างมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะการเลือกขนาดที่พอดีกับปริมาณที่เราต้องการจะช่วยลดการสูญเสียอาหาร และป้องกันการบริโภคเกินความจำเป็น ขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้เราสามารถนำไปประกอบอาหารได้ง่ายขึ้น หรือใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูต่างๆ ได้หลากหลาย หากทานปลากระป๋องบ่อยๆ อาจเลือกขนาดเล็กหลายกระป๋อง เพื่อความสดใหม่ หากมีสมาชิกในครอบครัวจำนวนมาก อาจเลือกขนาดใหญ่ แต่ถ้าอยู่คนเดียวหรือสองคน ขนาดเล็กก็เพียงพอแล้ว หากนำไปประกอบอาหาร อาจเลือกขนาดใหญ่ แต่ถ้าใช้เป็นท็อปปิ้งหรือทานเล่น ขนาดเล็กก็เพียงพอแล้ว และนั่นคือวิธีการที่สามารถนำไปใช้ได้ตอนไปซื้อปลากระป๋องค่ะ ซึ่งแนวทางที่ผู้เขียนใช้ประจำก็คือการดูว่าปลากระป๋องบุ๋มไหม มีการแตกร้าวไหม ฝาปิดอยู่ในลักษณะปกติไหม จากนั้นจะไปดูเรื่องของวันหมดอายุ ข้อมูลทางโภชนาการและเปรียบเทียบราคาค่ะ โดยที่ผ่านมาก็ได้ปลากระป๋องที่ดีมาทานค่ะ และตรงกับความต้องการที่จะใช้ที่เวลาหนึ่ง ปกติผู้เขียนซื้อปลากระป๋องขนาดเล็กเป็นหลัก และใช้หมดภายในครั้งเดียวหลังจากเปิดค่ะ หากซื้อปลากระป๋องมาหลายกระป๋อง จะเก็บส่วนนี้ไว้ในชั้นที่ไม่เจอแสงแดด ความชื้นและความร้อนค่ะ หากนำปลากระป๋องไปทำเมนูต่างๆ แล้ว แต่อาหารเหลือและสามารถเก็บเอาไว้ทานในครั้งต่อไปได้ แบบนี้จะเก็บอาหารเมนูนั้นไว้ในตู้เย็นอย่างเหมาะสมอีกทีค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองนำข้อมูลในนี้ไปปรับใช้กันค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/Y7y3RroBOmoa https://food.trueid.net/detail/w1l0JO6Djee1 https://food.trueid.net/detail/NkG8X8MnnMqQ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !