สวัสดีค่ะ วันนี้อยากขอมาเล่าถึงการสั่งอาหารบนรถไฟ สำหรับใครที่โดยสารรถไฟเป็นประจำคงจะคุ้นชินกับพ่อค้าแม่ค้าที่ขึ้นมาขายของสารพัดอย่าง พลัดกันไปเรื่อย วนกันไปมา อันนี้รถไฟชั้น3 แบบธรรมดานะคะ แต่เมื่อไม่นานมานี้เรามีโอกาศได้ใช้บริการรถไฟชั้น 2 แบบนอนค่ะ เดินทางจากกรุงเทพฯ สถานีรถไฟหัวลำโพง ไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี (พิมพ์ไม่ผิดค่ะ เราไปลงสุราษฎร์ แต่รถไฟไปจอดสถานีสุดท้ายที่จังหวัดนครศรีธรรมราช) เนื่องจากเดินทางเวลา 19.30 น. เลิกงานปุ๊บก็พุ่งไปสถานีรถไฟหัวลำโพงเลยค่ะ ไม่มีเวลาแวะกินข้าวใด ๆ ทั้งสิ้น แถมกังวลเรื่องห้องน้ำบนรถไฟนิด ๆ ว่าจะเป็นแบบไหนเพราะเคยนั่งนานมากแล้ว ว่าแล้วก็ไปดูกันค่ะ พอเราขึ้นรถไฟไปได้ไม่เท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ก็มาทำการปูที่นอนให้เราค่ะ แต่ประเด็นคือหิวแล้วทำยังไงดี อาการมื้อล่าสุดที่ลงท้องก็ตั้งแต่เที่ยง แปปเดียวค่ะ แค่อึดใจเดียวมีคุณลุงที่ใส่ชุดฟอร์มสีส้มๆเดินมาพร้อมเสียงที่ดังพอให้เราชะโงกหน้าออกมา ลุงมาพร้อมเมนู 4-5 ใบ แล้วทำการขายเลยค่ะ เอาอะไรดี? นั่นอร่อย นี่อร่อยนะ เราก็จด ๆ จ้อง ๆ ข้าวก็อยากกิน สเต็กก็ของโปรด มองดูราคาก็เอิ่มสูงไปป่าวหนอ? แต่อย่างที่บอกค่ะ ทนความหิวไม่ไหวยิ่งมีเมนูรูปภาพน้ำย่อยก็เรียกร้องว่า เอาหน่าลองดูสักครั้งให้รู้กันไป เราบอกลุงว่าเจ้าหน้าที่กางที่นอนแล้วกินได้เหรอคะ แกบอกไม่เป็นไรสบาย เราเลยนัดให้ลุงเอามาเสริฟตอนสามทุ่ม ระหว่างรอสเต็กเราก็เอนหลัง เอนไปเอนมาใจก็คิดว่า ลุงคะขอมาเสริฟตอนนี้เลยได้มั้ย แต่ไม่มีใครเดินผ่านมาทั้งลุงทั้งเจ้าหน้าที่เราเลยรอตามเวลา สามทุ่มตรงเสียงสวรรค์ก็ดัง ได้ยินเสียงลุงลอยมา สเต็กแซลมอลมาแล้วคร๊าบบ เราเด้งขึ้นจากเตียงเลยจ๊ะ กลิ่นลอยมาพร้อมเสียงลุงเและนี่คือสเต็กปลาพร้อมน้ำส้มคั้น ราคา 190 บาท ขาดใจเอ้ยย ขาดตัวค่ะ จะว่าไปก็ไม่ได้ราคาแรงมากเท่าไหร่ถ้าเทียบกับเมนูข้าวแกงเขียวหวาน นี่ปลาแซลมอลเลยนะแก ลุงจัดการเอาพลาสติกที่ใช้แล้วนั่นคือถุงผ้าห่มนั่นเองวางบนเตียงเราเลยจ๊ะ เสริฟถึงที่นอนกันเลย มาดูทีละอย่างกันค่ะ อย่างแรกที่เรากินได้แบบไม่ต้องรอแกะช้อนส้อม มันฝรั่งทอด อันนี้ขอให้ 2/10 คือมันไม่ร้อนไม่กรอบไม่อะไรทั้งสิ้นถ้าไม่มีความหิวกับซอสมะเขือเทศซองเราไม่กินแน่นอน เครื่องเคียงอันที่สองคือ สลัดผัก ใช้ได้อยู่ค่ะน้ำสลัดอร่อยผัดก็สดใช้ได้ อันนี้ 8/10 ไปค่ะ เพราะเรากินหมดเป็นอย่างแรกในเซ็ตอาหารนี้เลย มาถึงตัวหลัก ปลาแซลมอล มาพร้อมซอสรสชาติเหมือนซอสเทอริยากิอะค่ะ หวาน ๆ เค็ม ๆ เนื้อปลาไม่บางจนเกินไป แต่เหมือนจะทอดไว้นานแล้ว ไม่ร้อนและไม่ค่อยสด ไม่ใช่ว่าเสียหรือบูดนะคะแต่มีความรู้สึกว่ามันไม่สดและมันร่วนเกินไป ไม่นุ่มลิ้น ซอสอร่อยอยู่ เอาไป 7/10 ค่ะ ส่วนสัปปะรดนั้น หวานฉ่ำอร่อย อันนี้น่าจะอร่อยที่สุด หวาน กรอบ ชิ้นพอดีคำ 8/10 เพราะให้น้อย น้อยสำหรับเราค่ะ ส่วนน้ำส้มคั้นเป็นคั้นสด 100% ค่ะ โดยรวมของอาหารมื้อนี้เราว่าใช้ได้เป็นอีกทางเลือกของใครที่ใช้บริการรถไฟไทย เสริฟกันถึงที่ไม่ต้องไปตู้เสบียง ถ้าจะถามว่าทำไมเราไม่เดินไปตู้เสบียง คำตอบคือเราขี้เกียจเดินไปค่ะ เพราะลุงบอกว่ามันไกลซึ่งไกลจริงหรือเปล่าไม่รู้แต่เราเชื่อลุง ^^ หรือถ้าใครจะซื้ออาหารขึ้น/ปทานบนรถไฟก็ไม่มีข้อห้ามใด ๆ แต่วันที่เราเดินทางเราไปแทบไม่ทันแล้วค่ะ เลยไม่ทันได้ซื้อของไปกินบนรถไฟ แต่จะสั่งอาหารทานบนรถไฟหรือซื้อขึ้นไปยังไงก็รักษาความสะอาดกันด้วยนะคะ บนรถไฟจะมีจุดทิ้งขยะอยู่ทุกล็อกของทางเชื่อมโบกี้ จากที่เราสังเกตุค่ะ ไม่ต้องสงสัยหลังกินหมดนั่นทำอะไร นอนยาวถึงสุราษฏร์ธานีเลยจ๊ะ ภาพประกอบ : โดยผู้เขียน