ถ้าหากคุณกำลังมองหาสถานที่สำหรับการผ่อนคลาย หรือร้านคาเฟ่ดี ๆ สักร้านเพื่อที่จะไปนั่งทำงาน อยากจะปลอดปล่อยจินตนาการให้มันออกไปได้กว้างไกลกว่าห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หรือในร้านคาเฟ่ที่มีพื้นที่ค่อนข้างจะจำกัด ถ้าความต้องการที่กล่าวมาข้างต้นนั้น คือสิ่งที่คุณมีความปราถนาต้องการจะได้พบเจอ ตามผมมาครับผมจะพาคุณไปนั่งฟิน ๆ ชิล เพลิน ๆ ปลดปล่อยตัวเองไปกับ แสงแดดและสายลมกับร้านคาเฟ่ บรรยากาศดี ๆ ที่อยู่ใกล้จนคุณคาดคิดไม่ถึงตามมาครับผมจะพาคุณไป ร้านคาเฟ่สายกรีน ที่เค้าเครมว่าร้านนี้ใช้ไม้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วในการก่อสร้างและเน้นใช้ของ Reuse ให้มากที่สุดในการสร้างร้านคาเฟ่แห่งนี้ขึ้นมา คาเฟ่ เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพเลยและไม่ต้องขับรถไปจนถึงชายทะเลคุณก็สามารถได้รับและสัมผัสกับกลิ่นไอของทะเลได้ราวกับอยู่ที่ปลายจมูก เพราะคาเฟ่แห่งนี้ตัังอยู่ไม่ไกลเลยเพียงแค่คุณขับรถไปที่ บางปู จ.สมุทรปราการ ใกล้ ๆ เพียงแค่นี้เอง เส้นทางการเดินทางมาก็แสนจะง่ายดาย ขับรถมาตามถนนทางหลวงหมายเลข 3 (สุขุมวิท) แล้วเข้าซอย เทศบาลบางปู 104 สังเกตุที่บริเวณหน้าปากซอยจะมีป้ายร้านอาหารชื่อระเบียงทะเล เลี้ยวเข้าซอยแล้วขับตรงตามทางเข้ามาเรื่อย ๆ จะสังเกตุเห็นป้ายร้านเด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว อยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้าไปจอดรถได้เลยครับ สถานที่จอดรถกว้างขวางเลยที่เดียว แต่ถ้าคุณผู้อ่านขับรถเข้าซอยไปจนถึงร้านอาหารระเบียงทะเลแล้วละก็ นั่นหมายความว่าเลยร้านคาเฟ่เด็ดดอกไม้ไปแล้วครับ หรือไม่คุณก็อาจจะหิวข้าวแล้วละครับ เวลาเปิดให้บริการของร้านอยู่ที่ 09.00 น. - 18.00 น. นะครับ FB :: ของทางร้าน https://web.facebook.com/DeddokmaiBangpu แต่ถ้าคุณไม่ได้ขับรถเลยไปจนถึงร้านอาหาร แต่เลี้ยวขวาเข้ามาตามป้ายก็จะสะดุดตาได้กับป้ายชื่อของร้าคาเฟ่แห่งนี้เป็นที่แน่นอนเพราะป้ายชื่อร้านใหญ่มาก จัดการจอดรถแล้วลงมาสัมผัสความฟินกันได้เลยครับที่ คาเฟ่เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว น่าจะเป็นคาเฟ่ที่มีชื่อยาวที่สุดในประเทศไทยแล้วละครับ และแน่นอนเพื่อให้รูปแบบของร้านสอดคล้องกับชื่อที่แสนจะมีสเน่ห์ชื่อนี้ ก็ต้องให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนได้สัมผัสกับดอกไม้ที่แสนสวยงาม แต่ห้ามเด็ดติดมือกลับบ้านกันไปนะครับ ลองไปชมบางมุมของร้านคาเฟ่แห่งนี้กันครับ เมื่อเดินผ่านป้ายร้านเข้ามาเราก็จะได้เห็นดอกหญ้าที่พริ้วไหวไปตามกระแสลม หยอกล้อไปกับแสงแดดที่สาดแสงส่องลงมาอย่างไม่กลัวเกรง มุมแบบนี้ถ้าได้แสงอ่อน ๆ จากดวงอาทิตย์ยามเย็นประกอบในเฟรมด้วยละก็ คงจะสวยงามน่าจดจำมากเลยทีเดียว แต่ผู้เขียนมาถึงตอนช่วงเวลาบ่ายโมงครับ เรื่องความร้อนไม่ต้องถาม แต่แสงแดดแรงจ้าแบบนี้ก็ทำให้ได้รูปที่สวยงามไปอีกแบบนึงเช่นกัน และจากข้อความข้างต้นที่ทางร้านได้เครมไว้ว่าที่นี่คือร้าน คาเฟ่สายกรีน เพราะใช้ไม้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วในการก่อสร้าง เราก็จะพาท่านผู้อ่านไปพิสูจน์พร้อม ๆ กันเลยเร่ิ่มจากทางเดินเข้าร้านคาเฟ่กันก่อนเลยนะครับ สะพานที่ทอดยาวผ่านทุ่งหญ้าแปลงดอกไม้ไปนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาจากแผ่นไม้กระดานเพื่อให้ตรงกับ คอนเซ็ปต์ของทางร้านแห่งนี้นั่นเอง ทำให้ร้านดูละมุนเบาสบายตามาก ๆ เวลาได้มองผ่านสะพานไม้แห่งนี้เข้าไป เส้นทางบนสะพานไม้แห่งนี้นอกจากจะให้ความสวยงามแบบสบายตาแล้ว ก็ยังมีดอกไม้สีสันสดใสสวยงามเข้าใจว่าทางร้านน่าจะเปลี่ยนการปลูกดอกไม้ไปตามฤดูกาลเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศของร้านให้ไม่จำเจ เมื่อยามเวลาที่มีผู้คนได้กลับมาเยี่ยมเยือนกันอีกครา วันที่ผู้เขียนได้มาชื่นชมนั้นริมทางเดินตามแนวสะพานก็มีสีเหลืองสดของดอกทานตะวันชูคอขึ้นมาให้ได้ชื่มชมกัน เอาละครับ เราก็เดินเข้ามากันจนถึงบริเวณส่วนของร้านคาเฟ่กันแล้ว ก่อนจะเดินเข้าร้านก็ต้องสะดุดตาสะกิดใจไปกับบทกวีที่ติดอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าร้านช่างเป็นบทกวีที่แสนจะงดงามและคมคาย เดินผ่านประตูเข้ามาก็จะได้พบกับแกลลอรี่เล็ก ๆ ที่เป็นป้ายบอกเวลาทำการของทางร้าน และด้านหลังคือจุดทิ้งขยะที่ต้องจำแนกประเภทของขยะในการทิ้งให้ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ดีและควรปฏบัติตามกันนะครับยิ่งถ้ามีเด็ก ๆ ไปด้วยควรจะให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้ถึงแนวปฏิบัตินี้เพื่อฝึกให้เป็นวินัยติดตัวเค้าเมือเติบโตขึ้นไป เป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ เลยครับ เดินย้อนมาตรงส่วนของเคาน์เตอร์บาร์ ก็จะมีน้ำดื่มสมุนไพรแบบเย็นชื่นใจที่จัดเตรียมไว้คอยให้บริการกับผู้คนที่มาเยือนคาเฟ่แห่งนี้ ในส่วนของเมนูที่คาเฟ่แห่งนี้ ก็เป็นรายการเครื่องดื่มในกลุ่มของ กาแฟ ชา ราคาเริ่มต้นที่ 45 บาท ส่วนของกินเล่นประเภทของทอด เฟรนฟราย ราคาอยู่ที่ 50 บาท ส่วนใครที่อยู่สายดริปกาแฟ ทางร้านก็จะมีเม็ดกาแฟให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ราคาเริ่มต้นที่ 100 บาทครับ ถ้าหากต้องการความสุนทรีเพ่ิ่มก็สามารถดริปด้วยตัวเอง ทางร้านก็จะจัดเตรียมเซทสำหรับการดริปมาให้บริการ คอกาแฟตัวจริงนี่พลาดไม่ได้เลยนะครับร้านนี้ ไหน ๆ วันนี้ก็มาถึงแล้วขอโชว์ฺทักษะการดริปกาแฟซะหน่อยแล้วกัน เซทดริปที่ทางร้านจัดเตรียมให้ก็ตามภาพประกอบเลยครับ มาดูในส่วนของโซนที่นั่งพักกาย เพื่อดื่มดำกับธรรมชาติที่อยู่เบื้องหน้าเรากันบ้างนะครับ หลัก ๆ เท่าที่สังเกตุเห็นทางร้านจะมีที่นั่งไว้คอยให้บริการลูกค้าอยู่ 3 โซนด้วยกัน โซนที่ 1 นั่งห้อยขา ทิ้งอารมณ์ ใต้ชายคาบริเวณด้านหน้าเคาเตอร์บาร์ตรงนี้ได้เลยครับ แนะนำว่าถ้าต้องการนั่งฟินอยู่บริเวณนี้ ควรมาถึงร้านในช่วงสาย ๆ นะครับ เพราะถ้าหากคล้อยบ่ายไปแล้วเนี่ยะ วิตามิน D จากแสดงของดวงอาทิตย์จะเป็นของคุณแต่เพียงผู้เดียวเลยครับ แต่หากมาในช่วงสาย ๆ มุมนี้ถือว่าเหมาะสมมากต่อการนั่งดริปกาแฟอย่างใจเย็น ๆ เพื่อรอให้น้ำร้อนวิ่งผ่านผงกาแฟบดละเอียดเหล่านั้นอย่างช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ละเมียดจิบกาแฟ ปะทะกับสายลมไปพลาง ๆ ถ้าหากมาในช่วงเดือน พฤศจิกายน เราก็อาจจะมีเพื่อน ๆ ตัวเล็ก ๆ สีขาว หรือเจ้านกนางนวลมากางปีกบินไปเวียนมาให้เราได้เพลิดเพลินสายตากันทั้งวันเลยทีเดียว โซนที่ 2 Outdoor เพ้อไปกับธรรมชาติ โซนนี้ก็เขยิบออกมาจากบริเวณของตัวคาเฟ่เล็กน้อย จะเป็นโต๊ะที่ทำจากประตูบานเก่าและมีเก้าอี้ไว้คอยให้บริการสำหรับแขกผู้มาเยือนที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติอย่างจริงจัง อีกหนึ่งจุดไฮไลค์ของทางร้านก็คือเจ้าตุ๊กตาพี่ีหมีตัวใหญ่ที่นอนเอกเขนกอยู่บนเปลไม้ไผ่ใครมาถึงก็ต้องไปส้ัมผัสและนั่งเคล้าเคลียคลออยู่กับพี่เค้าละ แหมก็มุมนี้มันช่างชวนฝันซะเหลือเกิน โซนที่ 3 นั่งเคียงบ่อ ชิดติดธรรมชาติ ที่นั่งบริเวณนี้จะอยู่ด้านข้างของสะพานไม้เมื่อสั่งเมนูอาหารเครื่องดื่มเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากตัวร้าน ทางลงไปที่นั่งโซนนี้จะอยู่ฝั่งซ้ายมือนะครับ เป็นอีกหนึ่งจุดที่จะได้นั่งทิ้งตัวปล่อยอารมณ์และอาจจะได้เห็นกุ้ง เห็นปลา มาแหวกว่ายเวียนวนโชว์เรือนร่างให้เราได้ชมกันแบบใกล้ชิดเลยทีเดียว เมื่ออิ่มหนำสำราญกับ เมนูต่าง ๆ ของทางร้านแล้วก็อาจจะไปเดินเล่นกันอีกซักหน่อยเพื่อเก็บบรรยากาศของร้านให้ครบถ้วนทุกมุมก่อนจะลากจากกันไป อีกหนึ่งมุมที่เด็ก ๆ ทุกคนต้องมาคือชิงช้าตัวใหญ่ที่จัดวางเตรียมไว้ต้อนรับบรรดานักถ่ายรูปทั้งหลายให้ได้มาเก็บภาพบรรยากาศในมุมนี้กัน บริเวณด้านหน้าทางเข้ามาในร้านก็มีเปลไม้จัดเตรียมไว้ให้บริการเช่นเดียวกันนะครับถ้าท่านใดสนใจก็ไปนั่งเล่น นอนเล่นกันได้เลย เป็นยังไงกันบ้างครับ กับคาเฟ่สายกรีน บรรยากาศสุดฟินแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ที่ บางปู จ.สมุทรปราการ ความสุขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือถึงได้ที่นี้ ว้ันไหนว่าง ๆ ก็ลองแพลนมาเที่ยวย่านสมุทรปราการกันดูนะ แล้วอย่าลืมล้างกล้อง เคลียเมมโมรี่กันมาให้ดีนะครับ เพราะที่คาเฟ่แห่งนี้มีมุมสวย ๆ ให้คุณได้ถ่ายและบันทึกความสุขเหล่านั้นไว้มากมายเลยทีเดียว กับสถานที่แห่งนี้ คาเฟ่เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว Cr ภาพปก ถ่ายโดยผู้เขียน ภาพประกอบที่ 1 ถ่ายโดยผู้เขียน ภาพประกอบที่ 2 https://web.facebook.com/DeddokmaiBangpu ภาพประกอบที่ 3 - 21 ถ่ายโดยผู้เขียน