11 ทริคเลือกมะม่วงกวน แบบไหนของดี ดูสะอาดน่าซื้อ และมีคุณภาพ อ่านต่อเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล การแปรรูปผลไม้ในประเทศไทยมาเป็นของกินได้ ในแบบที่แตกต่างออกไปนั้นผลไม้ตั้งต้นนั้น ต้องบอกว่ามีค่อนข้างหลากหลาย และหลายคนก็สามารถทำขึ้นมาไว้กินเองหรือนำมาขายได้ง่ายๆ จากจุดนี้เราจึงพบว่ามีการทำมะม่วงกวนเพื่อขายเป็นของว่างทานเล่น ที่หลายคนก็ชื่นชอบด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ โดยคุณผู้อ่านอาจจะยังไม่รู้ว่าในสถานการณ์จริงนั้น นอกจากเราจะต้องหาให้ได้ว่า ใครทำมะม่วงกวนได้ถูกปากและเหมาะกับเงินในกระเป๋าแล้ว รู้ไหมคะว่าการที่เราต้องรู้ว่าจะเลือกยังไงดี คืออีกหนึ่งจุดสำคัญที่ทำให้เราได้มะม่วงกวนแบบมีคุณภาพได้ง่ายๆ และจากที่ผู้เขียนได้สังเกตมานั้น ในหัวข้อนี้หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า ต้องสังเกตอะไรตรงไหนบ้าง หากต้องดูเรื่องสี แบบไหนคือใช่ แบบไหนไม่ควรซื้อ แล้วปกติมะม่วงแบบของแท้จริงๆ เนื้อสัมผัสต้องเป็นแบบไหน ประเด็นต่างๆ เหล่านี้เพื่อนๆ ยังไม่รู้ใช่ไหมค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะความรู้ดีๆ สำหรับเลือกมะม่วงกวนมีมาให้อ่านแล้วในบทความนี้ และถ้าต้องการรู้แล้วว่าต้องทำยังไงดี งั้นก็อ่านต่อกันเลยค่ะ 1. พิจารณาลักษณะเนื้อสัมผัส หลายคนอาจจะมองหามะม่วงกวนที่มีสีสันที่สดใส หรือกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหลเป็นอันดับแรกๆ แต่รู้ไหมคะว่า เนื้อสัมผัสคือตัวบ่งชี้คุณภาพที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งเลยค่ะ เพราะถ้าจะให้มะม่วงกวนอร่อยถูกใจจริงๆ นั้น เนื้อจะต้องมีความเหนียวนุ่มหนึบกำลังดี ไม่แข็งกระด้างจนเคี้ยวลำบาก และก็ต้องไม่เหลวเละหรือเปียกชื้นจนเกินไป ที่สำคัญคือต้องไม่มีผลึกน้ำตาลเกาะอยู่บนผิวด้วยนะคะ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่บอกว่ามีการใส่น้ำตาลมากเกินไป หรือเก็บรักษาไม่ดีพอ การที่เนื้อสัมผัสดีแสดงว่ามะม่วงที่นำมากวนสุกกำลังดี กรรมวิธีการผลิตสะอาด และผ่านการตากแห้งที่ได้มาตรฐานจริงๆ ค่ะ ดังนั้นครั้งหน้าถ้าอยากได้มะม่วงกวนคุณภาพพรีเมียม ลองหยิบขึ้นมาสัมผัสเบาๆ ดูก่อน เลือกที่เนื้อเนียน เหนียวนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง เพราะคือตัวเลือกที่ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ 2. ตรวจสอบวันผลิต เวลาที่เรากำลังเลือกซื้อมะม่วงกวนแสนอร่อย นอกจากการลองสัมผัสเนื้อแล้ว อีกหนึ่งจุดที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือวันผลิตค่ะ เพราะมะม่วงกวนก็เหมือนกับอาหารอื่นๆ ยิ่งผลิตใหม่เท่าไหร่ คุณภาพ ความสด และรสชาติก็จะยิ่งดีเท่านั้น การได้มะม่วงกวนที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ จะทำให้เรามั่นใจได้ว่า กลิ่นหอมของมะม่วงจะยังคงชัดเจน เนื้อสัมผัสจะยังเหนียวนุ่มกำลังดี และที่สำคัญคือจะไม่มีกลิ่นอับหรือหืนที่เกิดจากการเก็บไว้นานเกินไป ซึ่งการตรวจสอบวันผลิตบนฉลากหรือสอบถามจากแม่ค้าโดยตรงว่าเขาทำวันไหน หรือจุดที่เขาไปรับมาขายทำวันไหนจึง เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราได้มะม่วงกวนที่สดใหม่ มีคุณภาพ และอร่อยถูกใจมากที่สุดค่ะ รับรองว่าแค่พลิกดูฉลากอีกนิด ก็ได้มะม่วงกวนชั้นเลิศกลับบ้านไปฟินกันแล้วนะคะ 3. สังเกตบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่ได้เป็นแค่เพียงหีบห่อที่สวยงามเท่านั้นนะคะ แต่สิ่งนี้คือปราการด่านแรกที่ช่วยปกป้องคุณภาพ และความสะอาดของมะม่วงกวนที่เรากำลังจะกินเข้าไป ซึ่งการเลือกซื้อมะม่วงกวนในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิท ไม่มีรอยฉีกขาด รอยรั่วซึม หรือรอยบุบ จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า มะม่วงกวนด้านในไม่ได้สัมผัสกับอากาศ ความชื้น หรือสิ่งสกปรกจากภายนอก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มะม่วงกวนเสียเร็วขึ้นหรือปนเปื้อนได้ง่าย นอกจากนี้การที่บรรจุภัณฑ์ระบุข้อมูลสินค้าครบถ้วน เช่น ชื่อผู้ผลิต ส่วนประกอบ หรือวันที่ผลิต ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าผู้ผลิตใส่ใจในคุณภาพและความโปร่งใส ดังนั้นก่อนหยิบมะม่วงกวนใส่ตะกร้า ให้สังเกตบรรจุภัณฑ์ให้ดี แค่นี้ก็ได้มะม่วงกวนที่สะอาด มีคุณภาพ และอร่อยกลับบ้านไปอิ่มอร่อยได้อย่างสบายใจแล้วล่ะค่ะ! 4. ดูสีสัน แน่นอนว่าสิ่งแรกๆ ที่ดึงดูดสายตาเราเลยก็ คือ สีสันของมะม่วงกวนค่ะ โดยหลายคนอาจคิดว่าแค่สีเหลืองทองสวยๆ ก็พอแล้ว แต่จริงๆ แล้วสีของมะม่วงกวนบอกอะไรเราได้มากกว่าที่คิดนะคะ ปกติมะม่วงกวนที่ดีควรมีสีเหลืองทองหรือส้มอ่อนๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้สดจัดจนผิดสังเกต เพราะนั่นเป็นสิ่งที่บอกว่าผู้ผลิตไม่ได้ใส่สีสังเคราะห์ และใช้วัตถุดิบอย่างมะม่วงสุกจริงๆ นอกจากนี้สีที่สม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น ไม่มีรอยด่างดำหรือจุดคล้ำๆ ก็เป็นอีกข้อที่ควรใส่ใจสังเกตค่ะ เพราะบ่งบอกถึงความสะอาดในกระบวนการผลิต และการที่มะม่วงกวนไม่เก่าเก็บจนคุณภาพลดลง ดังนั้นให้ลองใช้สายตาพิจารณาสีสันของมะม่วงกวนดูให้ดีก่อน แค่มองด้วยตาเปล่าก็ช่วยให้เราได้มะม่วงกวนที่ทั้งสวย สะอาด มีคุณภาพและอร่อยได้ไม่ยากแล้วค่ะ 5. ใช้การดมกลิ่น การเลือกมะม่วงกวนที่อร่อยและมีคุณภาพ เราไม่ได้อาศัยแค่การดูด้วยตาเท่านั้นนะคะ แต่การดมกลิ่นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญและง่าย ต่อการนำไปใช้ได้จริงสำหรับทุกคนค่ะ และโดยธรรมชาติแล้วมะม่วงกวนที่ดี มักมีกลิ่นหอมหวานอมเปรี้ยวตามธรรมชาติของมะม่วง ไม่ใช่กลิ่นที่หืน ฉุน หรือมีกลิ่นแปลกปลอมที่เกิดจากสารเคมี และกลิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพที่ดี จะเป็นกลิ่นของมะม่วงสุกที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเป็นกลิ่นที่แสดงถึงความสดใหม่และความสะอาดในกระบวนการผลิต หากดมแล้วรู้สึกว่ากลิ่นจางเกินไป ไม่มีเอกลักษณ์ หรือมีกลิ่นคล้ายแป้ง นั่นบ่งบอกว่ามีส่วนผสมของสิ่งอื่นที่ไม่ใช่มะม่วงแท้ๆ ค่ะ หรืออาจเป็นมะม่วงกวนที่ไม่ได้ทำจากมะม่วงคุณภาพดี ดังนั้นให้ลองใช้จมูกของเราช่วยประเมิน และนำข้อมูลนั้นมาประกอบในการตัดสินใจครั้งต่อไปที่ซื้อมะม่วงกวนค่ะ 6. ชิมรสชาติ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การชิมรสชาติ คือ หัวใจสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ! โดยทั่วไปมะม่วงกวนที่ดีจะมีรสชาติกลมกล่อม หวานอมเปรี้ยวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่หวานจัดจนบาดคอ หรือเปรี้ยวโดดจนไม่น่ากิน ที่สำคัญคือต้องไม่มีรสชาติเฝื่อน ขม หรือรสแปลกปลอม ที่บ่งบอกว่ามีการใส่สารกันบูดหรือส่วนผสมอื่นที่ไม่พึงประสงค์เข้าไป หากชิมแล้วรู้สึกถึงรสชาติมะม่วงแท้ๆ ที่เข้มข้น เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับ ไม่แข็งกระด้างหรือเหลวเละ แสดงว่าเรากำลังเจอกับมะม่วงกวนคุณภาพดีที่ผ่านการผลิตอย่างพิถีพิถันแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นให้ลองชิมสินค้าตัวอย่างสักเล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้มะม่วงกวนที่อร่อยถูกปากและได้มาตรฐานนะคะ 7. ดูความสะอาดและสิ่งเจือปน หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การเลือกมะม่วงกวนที่อร่อยและคุณภาพจัดเต็มนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะตัดสินแค่รสชาติถูกปากเท่านั้นนะคะ แต่การสังเกตความสะอาดและสิ่งเจือปน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษอีกหัวข้อหนึ่ง โดยปกติมะม่วงกวนที่ดีมีสีสันที่สม่ำเสมอ เป็นไปตามธรรมชาติของมะม่วงที่ใช้ ไม่คล้ำจนเกินไปจนเหมือนไหม้ หรือซีดจนผิดปกติ ที่สำคัญคือต้องไม่มีจุดด่างดำ เชื้อรา หรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ ปะปนอยู่เลย เช่น เส้นผม แมลงตัวเล็กๆ หรือเศษวัสดุอื่นๆ ซึ่งการลองสังเกตดูว่าบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สะอาดและปิดสนิทดีหรือไม่ รวมถึงฉลากที่แสดงวันผลิต วันหมดอายุ และส่วนผสมต่างๆ ชัดเจนครบถ้วนหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างดูสะอาดตา ไม่มีตำหนิ และบรรจุภัณฑ์อยู่ในสภาพดี ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่า มะม่วงกวนกล่องหรือถุงนั้นผลิตด้วยความใส่ใจในสุขอนามัยค่ะ ซึ่งการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตามนั้นจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า กำลังเลือกมะม่วงกวนที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อสุขอนามัยของเราจริงๆ ค่ะ 8. ดูความสม่ำเสมอของความหนาแผ่น การสังเกตความสม่ำเสมอและความหนาแน่นของเนื้อมะม่วงกวน ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญในการเลือกมะม่วงกวนคุณภาพค่ะ! มะม่วงกวนที่ดีถ้าสังเกตดีๆ มักมีเนื้อสัมผัสที่เนียนสม่ำเสมอกันทั่วทั้งชิ้น ไม่มีส่วนที่แข็งกระด้างเกินไป หรือเหลวเละจนไม่เป็นรูปทรง และการมีความหนาแน่นที่พอเหมาะ บ่งบอกถึงกระบวนการเคี่ยวที่ได้ที่ ไม่เคี่ยวนานเกินไปจนแห้งแข็ง หรือเคี่ยวไม่พอดีจนมีน้ำเยอะเกินไป และไม่จับตัวกันเป็นก้อน ยังไงนั้นให้ลองสังเกตดูว่า แต่ละชิ้นมีขนาดและรูปร่างที่ใกล้เคียงกันหรือไม่ และเมื่อลองสัมผัสดูแล้วรู้สึกเหนียวนุ่ม หนึบหนับ ไม่ยวบยาบหรือยุ่ยง่าย นั่นแหละค่ะคือลักษณะของมะม่วงกวนที่ได้คุณภาพ เพราะความสม่ำเสมอและความหนาแน่นที่ลงตัวจะส่งผลต่อรสสัมผัสที่อร่อยถูกใจ และยังบ่งบอกถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วยนะทุกคน 9. เลือกที่ไม่ใส่สารกันบูดและสีสังเคราะห์ เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่า การเลือกซื้อมะม่วงกวนในปัจจุบัน เราไม่ได้มองแค่ความอร่อยอย่างเดียวแล้วนะคะ แต่ความปลอดภัยและสุขอนามัยของคนกิน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสารกันบูดและสีสังเคราะห์ที่ผู้ผลิตบางรายอาจใช้เพื่อยืดอายุหรือเพิ่มความน่ากินให้กับสินค้า แต่มะม่วงกวนที่ดีและมีคุณภาพจริงๆ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสารเหล่านี้เลยค่ะ ดังนั้นสังเกตได้ง่ายๆ จากฉลากผลิตภัณฑ์ ที่ควรระบุส่วนผสมอย่างชัดเจน หากมีส่วนผสมของสารกันบูดก็ควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อน รวมถึงสีสันของมะม่วงกวน หากดูแล้วสีสดใสผิดธรรมชาติ เช่น ส้มจัด แดงจัด จนเกินจริง ก็เป็นสัญญาณว่ามีการใช้สีสังเคราะห์ผสมลงไป เพราะมะม่วงกวนจากธรรมชาติแท้ๆ จะมีสีเหลืองอมส้มไปจนถึงน้ำตาลอ่อนๆ ตามสายพันธุ์มะม่วงที่ใช้ และเมื่อเวลาผ่านไปสีอาจจะเข้มขึ้นเล็กน้อยได้บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะคะ ดังนั้นการอ่านฉลากอย่างละเอียดและสังเกตสีสันที่เป็นธรรมชาติ จะช่วยให้เราเลือกมะม่วงกวนที่อร่อย คุณภาพดี และดีต่อสุขอนามัยได้อย่างแท้จริงค่ะ 10. สังเกตวิธีการจัดเก็บของร้านค้า วิธีการจัดเก็บของร้านค้า ก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องสังเกตให้ดีค่ะ เนื่องจากมะม่วงกวนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไวต่อความชื้นและอุณหภูมิ หากเก็บไม่ดีก็อาจขึ้นราหรือเสื่อมสภาพเร็วได้ ร้านขายที่ดีจะต้องจัดเก็บมะม่วงกวนไว้ในที่แห้ง เย็น และพ้นจากแสงแดดโดยตรง ซึ่งจะช่วยคงคุณภาพ รสชาติ และความสดใหม่ของมะม่วงกวนไว้ได้นาน หากเราเห็นมะม่วงกวนวางตากแดดร้อนๆ หรืออยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่เปิดตลอดเวลา จนทำให้มีฝุ่นเกาะ หรือมีความชื้นเกาะอยู่ภายใน ก็ควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะนั่นบ่งบอกถึงการจัดเก็บที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และสามารถส่งผลต่อความปลอดภัยในการบริโภคได้ การเลือกซื้อจากร้านที่ใส่ใจเรื่องการจัดเก็บ ก็เปรียบเสมือนการเลือกซื้อมะม่วงกวนที่ได้รับการดูแลอย่างดีตั้งแต่ต้นทาง ที่จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะได้ผลิตภัณฑ์ที่อร่อยและมีคุณภาพถึงมือเราจริงๆ ค่ะ 11. เลือกจากแหล่งที่มาที่ไว้ใจได้ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คนทั่วไปควรรู้ คือ การเลือกซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ค่ะ โดยคำว่า “แหล่งที่ไว้ใจได้” ในที่นี้ ผู้เขียนหมายถึงร้านค้าที่มีชื่อเสียง ร้านค้าที่มีมาตรฐาน มีการรับรอง หรือเป็นแหล่งผลิตที่เราสามารถตรวจสอบได้ หากเป็นร้านค้าท้องถิ่น ลองสังเกตป้ายรับรองมาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐานสินค้าโอท็อป (OTOP) หรือเครื่องหมายรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะช่วยรับประกันได้ระดับหนึ่งว่า สินค้าผ่านการผลิตและตรวจสอบตามเกณฑ์มาตรฐาน แต่ถ้าเป็นมะม่วงกวนที่ไม่ได้บรรจุหีบห่อจากโรงงานใหญ่ ก็ควรเลือกซื้อจากร้านที่ดูสะอาดสะอ้าน คนขายมีการแต่งกายที่ถูกสุขลักษณะ และมีข้อมูลที่มาที่ไปของสินค้าชัดเจน เช่น ทำมาจากมะม่วงสายพันธุ์อะไร หรือผลิตจากที่ไหน การเลือกซื้อจากแหล่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่า เราจะได้มะม่วงกวนที่ผลิตด้วยความใส่ใจในคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และไร้สารเคมีที่เป็นอันตราย ทำให้เราทานได้อย่างสบายใจค่ะ ก็จบแล้วนะคะทุกคน พอจะมองภาพออกกันบ้างไหมเอ่ย? ยากหรือง่ายในการนำไปใช้นั้น อย่าเพิ่งกังวลใจไปค่ะ เพราะโดยสรุปแล้วสำหรับมือใหม่ที่อยากได้มะม่วงกวนคุณภาพดี ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องใช้หลายทริคจนยุ่งยากนะคะ เพราะจริงๆ แล้วการเลือกมะม่วงกวนแบบรวดเร็วและได้ผลดี มีจุดสำคัญที่ต้องจำและนำไปใช้ไม่มาก นั่นคือกลิ่น สี และบรรจุภัณฑ์ค่ะ โดยให้เริ่มจากการดมกลิ่นก่อนเลย มะม่วงกวนที่ดีต้องมีกลิ่นหอมมะม่วงแท้ๆ ไม่เหม็นหืนหรือมีกลิ่นแปลกปลอม จากนั้นให้ดูสี ที่ควรมีสีเหลืองอมส้มไปจนถึงน้ำตาลอ่อนๆ ตามธรรมชาติของมะม่วง ไม่สดใสผิดปกติจนเกินจริงเหมือนใส่สี และสุดท้ายคือบรรจุภัณฑ์ ต้องสะอาดและปิดสนิท ไม่มีร่องรอยการฉีกขาดหรือความชื้น หากทั้งสามจุดนี้ผ่านเกณฑ์ ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าเรากำลังได้มะม่วงกวนที่มีคุณภาพในระดับที่น่าพอใจแล้วค่ะ ส่วนจุดที่บอกได้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นทำได้ดีที่สุด คือ จะเกิดขึ้นเมื่อเราได้ชิมแล้วรู้สึกถึงรสชาติมะม่วงแท้ๆ หวานอมเปรี้ยวกลมกล่อม เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับ ที่รู้สึกได้ถึงคุณภาพของมะม่วงกวนชิ้นนั้นค่ะ ซึ่งทริคต่างๆ ในนี้ก็เป็นแนวทางให้กับผู้เขียนได้มะม่วงกวนคุณภาพดีได้ง่ายๆ ที่ปกติแล้วไม่ได้ซื้อบ่อยนะคะ แต่จะซื้อตอนไหนก็ไม่เคยลืมเคล็ดลับที่ต้องใช้ โดยการเลือกซื้อจากคนในพื้นที่ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดค่ะ แต่ผู้เขียนจะสอบถามวันที่ทำด้วย ประเมินสี กลิ่นและบรรจุภัณฑ์ หากพบว่าโดยภาพรวมคือดีในตอนนั้น ก็ตัดสินเลือกเลยค่ะ โดยคำแนะนำจากในบทความนี้คุณผู้อ่านเองก็สามารถนำไปใช้ได้เหมือนกัน ดังนั้นอย่าลืมนำไปใช้ปรับใช้กันนะคะทุกคน ด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไป และถ้าต้องการอ่านบทความทั้งหมดโดยผู้เขียน ให้กดที่รูปโปรไฟล์ใต้ชื่อบทความนี้ได้เลยค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 8 ทริคเลือกข้าวหลามทำใหม่ ไม่ค้างคืน หอมอร่อย และน่าซื้อ 10 ทริคเลือกซูชิญี่ป่นในตลาด แบบไหนดี ถูกสุขลักษณะ น่าซื้อ 9 วิธีเก็บคุกกี้ที่เหลือ ให้กรอบนาน เปิดแล้วกินไม่หมด ทำไง หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !