หากเอ่ยถึงอาหารอินเดียแล้วนั้นหลายคนคงนึกถึง โรตี เป็นอับแรก ซึ่งแน่นอน โรตี เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของชาวภารตะ แต่วันนี้เรามีเมนูขนมจากอินเดียอีกหลายเมนู Street Food ยอดนิยมที่เรียกว่าเป็น ซิกเนเจอร์ ของอินเดีย มาแนะนำ เริ่มต้นกันที่ “ PANI PURI “ หรือ พานีปูรี จัดอยู่ในประเภทของว่างหรือจะจัดเข้าหมวดของหวานก็ไม่ผิดนัก เรียกว่าเดินไปตามท้องถนนที่อินเดียจะพบเห็นขนมชนิดนี้แทบทุกย่านในอินเดีย ซึ่งเมนูนี้เป็นมังสวิรัติซึ่งคนอินเดียส่วนใหญ่นิยมรับประทานเมนูมังสวิรัติ คำว่า พานี แปลว่า น้ำ ส่วนคำว่า ปูรี แปลว่าก้อนกลม เมื่อนำมารวมกันจึงได้ความหมายคล้ายๆว่า ขนมกลมๆพองๆเจาะรูตรงกลางใส่น้ำ นั่นเอง แต่ในเดลีส่วนใหญ่จะเรียกขนมชนิดนี้ว่า Golgappe แต่ถ้าเป็นทางตะวันออกจะเรียกว่า puchka พานีปูรี จะรสชาดิแตกต่างออกไปตามภูมิภาค บางภาคนิยมรสหวานนำ หรือบางภาคนิยมรสชาดเผ็ดนำ ตามแต่รสนิยมรสปากของคนท้องถิ่น เวลากินเขาจะเจาะให้มีรูตรงกลางก่อน แล้วตักมันฝรั่งบด และน้ำซอสปรุงรส (ที่รสชาติแล้วแต่ร้าน บางร้านก็มีหลายรสให้เลือก บางร้านก็มีรสเดียว) ส่วนใหญ่รสจะออกเผ็ดอมเปรี้ยว ใส่ลงไปจนท่วมเต็มชิ้น ซึ่งขนาดของมันก็พอดีที่จะกินได้หมดในคำเดียว ราสมาลัย (Rasmalai) ขนมราสมาลัย (Rasmalai) มาจากคำจากภาษาฮินดู 2 คำผสมกัน คือคำว่า Ras ซึ่งแปลว่า ชุ่มฉ่ำ(Juicy) และ Malia ซึ่งแปลว่า ครีม(Cream) ซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศ อินเดีย บังกลาเทศ และ ปากีสถาน เป็นขนมหวานในแถบอินเดียทางตอนเหนือ มีลักษณะเป็นก้อนชีสแช่ในนม ทำจากแป้งนุ่มหอมสูตรพิเศษที่ทำจากชีสและนม อาจจะโรยหน้าด้วยแผ่นเงินที่สามารถทานได้ ราดราสมาลัยซอส เพิ่มความมันด้วย ถั่วพิตาชิโอ อัลมอน คาราเมล ลักษณะจะคล้ายๆบัวลอยของไทยเรา ลอยอยู่ในน้ำนม ถ้าแช่ในตู้เย็นแล้วเอาออกมาทานจะหอมมากๆ ขนมหวานจานต่อมามีชื่อว่า จาเลบี หรือ จาเลบี้ เป็นขนมอินเดียดั้งเดิมที่มีรูปร่างเป็นเกลียวทำด้วยแป้งผสมกับแป้งชิคพีและโยเกิร์ตเล็กน้อย (ถึงแม้ว่าการเพิ่มโยเกิร์ตไม่จำเป็นอย่างยิ่ง) แป้งหมักแล้วทอดลึกและจุ่มในน้ำเชื่อม ขนมชนิดนี้มีรสชาดหวานมาก นิยมทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในงานเทศกาลต่างๆ ถัดมาคือเมนูขนมชื่อว่า ลฑฺฑู laddu (คนอินเดียออกเสียงว่า ‘หล่า-ดู๊’) อีกเวอร์ชั่นหนึ่งของขนมโมทกะ ทำจากแป้งถั่ว (แป้งจะนา) ปั้นเป็นก้อนกลม ทอดในน้ำมันเนย ใส่น้ำตาลหรือน้ำเชื่อม ทอดจนสุก ขนมชนิดนี้นิยมนำมาไหว้พระภิกขเณศ หลังจากการไหว้มักนิยมแจกจ่ายเพื่อให้คนได้ทานเป็นศิริมงคล เมนูขนมสุดท้ายสำหรับวันนี้ ขอแนะนำ Khaja ขนมขาชา (ขนมเบื้อง) ขนมที่มีกล่าวถึงในอรรถกถาพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นขนมที่นิยมรับประทานในตอนใต้และนิยมรับประทานพร้อมชาในยามเช้า ขาชาคือ ขนมหวานที่มีลักษณะคล้ายๆกับโรตีกรอบในบ้านเรา มี 2 รสชาติด้วยกันคือ หวานกับเค็ม เป็นอย่างไรกันบ้าง ดูน่าทานทุกเมนูเลยใช่ไหม ซึ่งหากท่านใดอยากลองลิ้มชิมรสชาดขนมอินเดีย สามารถไปหารับประทานได้ในย่านพาหุรัด หรือ ลองค้นหาร้านอาหารอินเดียไกล้บ้านสอบถามว่ามีเมนูขนมหวานอินเดียหรือไม่ รับรองว่าถูกใจท่านที่ชอบทานหวานแน่นอน! ภาพปกถูกลิขสิทธิ์ซึ่งออกแบบโดยผู้เขียนผ่านเว็บไซด์ canva รูปภาพประกอบจาก : shorturl.at/htGMT รูปภาพประกอบจาก : shorturl.at/tU079 รูปภาพประกอบจาก : shorturl.at/cqB07 รูปภาพประกอบจาก : shorturl.at/swIJP รูปภาพประกอบจาก : shorturl.at/cpyDQ