เปิดความนัวกับต้มปลาร้าปลาดุกทำกินเองที่บ้าน พร้อมผักต้มร้อน ๆ และพริกป่นรสเด็ด…เมนูบ้าน ๆ แต่อร่อยจับใจในช่วงเวลาที่อากาศเย็น ๆ หรือวันที่เราคิดถึงรสชาติอาหารบ้าน ๆ แบบไทยอีสาน “ต้มปลาร้าปลาดุก” นับเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ขาดไม่ได้ รสชาติกลมกล่อม เค็ม เผ็ด เปรี้ยวนิด หอมกลิ่นปลาร้าและสมุนไพรที่ซึมซาบเข้าเนื้อปลาดุก ยิ่งกินคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ และผักต้ม หรือแม้แต่แค่ข้าวสวยก็อร่อยได้ไม่แพ้กัน บทความนี้จะพาไปสัมผัสประสบการณ์การทำ “ต้มปลาร้าปลาดุก” ทำเองง่าย ๆ ที่บ้าน พร้อมแบ่งปันความรู้สึกและกลิ่นอายของความสุขในครัว กับเมนูที่ราคาไม่แพง แต่รสชาติแพงเกินคาด! 🌶️ วัตถุดิบที่ใช้ (สำหรับ 2-3 ที่) ปลาดุกสดหั่นท่อน 1 ตัว (ประมาณ 500 กรัม) ปลาร้าต้มกรองเอาแต่น้ำ 1 ถ้วย ข่าอ่อนทุบ 3 แว่น ตะไคร้ทุบ 2 ต้น หอมแดงบุบ 4 หัว ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ พริกแห้งคั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มความเปรี้ยว) น้ำปลาหรือน้ำปลาอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ (ปรุงเพิ่มตามชอบ) ผักต้ม (เช่น ผักบุ้ง, ถั่วฝักยาว, ฟักทอง, มะเขือเปราะ ฯลฯ) 🥘 วิธีทำต้มปลาร้าปลาดุก 1. เตรียมน้ำปลาร้า นำปลาร้าเนื้อดี ๆ มาต้มกรองเอาแต่น้ำ ปลาร้าแบบที่ใช้มีทั้งชนิดหมักจากปลากระดี่ ปลานิล หรือปลาช่อน เลือกตามความชอบ แต่ครั้งนี้เราเลือกปลาร้าปลากระดี่ หอมกำลังดี กลิ่นไม่แรงเกินไป กรองน้ำปลาร้าออกมาประมาณ 1 ถ้วย 2. เตรียมปลาดุก ล้างปลาดุกให้สะอาด หั่นเป็นท่อนขนาดพอคำ ใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อดับคาว แล้วล้างอีกครั้ง 3. ต้มสมุนไพร ตั้งหม้อใส่น้ำพอประมาณ ใส่ตะไคร้ ข่า หอมแดง และใบมะกรูด ต้มให้เดือดจนมีกลิ่นหอมสมุนไพร 4. ใส่ปลาดุก ใส่ปลาดุกลงไปต้มต่อจนเนื้อปลาเริ่มสุก น้ำจะขุ่นเล็กน้อยจากไขปลาซึมออกมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับน้ำแกง 5. ใส่น้ำปลาร้าและปรุงรส เติมน้ำปลาร้าลงไปตามความเข้มข้นที่ต้องการ ใส่น้ำมะขามเปียกเล็กน้อย และพริกป่นคั่วหอม คนเบา ๆ พอให้น้ำซึมเข้าเนื้อปลา ต้มต่ออีกสักพักให้ทุกอย่างเข้าเนื้อ 6. ชิมรส เติมน้ำปลาเล็กน้อยหากต้องการเค็มเพิ่ม ชิมให้ได้รสเค็มนัว เปรี้ยว เผ็ด หอมกลิ่นปลาร้าและสมุนไพร 7. เสิร์ฟร้อน ๆ ตักใส่ชาม โรยพริกป่นเพิ่มตามความชอบ เสิร์ฟพร้อมผักต้มร้อน ๆ และข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อน ๆ ก็เข้ากันเมนูนี้เราเริ่มจากความอยากกินของรสจัดหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน อาหารในตู้เย็นไม่ได้เยอะนัก แต่พอมีปลาดุกที่ซื้อมาไว้ และน้ำปลาร้าที่แม่ให้มาจากบ้าน จึงคิดถึงต้มปลาร้าขึ้นมา ตอนเตรียมทุกอย่าง รู้สึกเหมือนได้กลับไปครัวบ้านเกิด กลิ่นข่าตะไคร้ที่ลอยขึ้นมาตอนต้มปลาร้าทำให้ใจเย็นลงอย่างน่าประหลาด เสียงเดือดของน้ำแกงในหม้อก็คือเสียงแห่งความสุขเล็ก ๆ ที่เราได้ทำอะไรให้ตัวเองกิน เมื่อแกงเริ่มได้ที่ กลิ่นหอม ๆ ของปลาร้าผสมกับกลิ่นสมุนไพรลอยฟุ้งไปทั้งบ้าน ความสุขแบบง่าย ๆ ที่ทำให้รู้สึกภูมิใจในฝีมือตัวเอง พอได้ลองชิมคำแรก บอกเลยว่า “โอ้โห...นัวมาก!” เนื้อปลาดุกนุ่ม ไม่คาว น้ำแกงเค็มนัวพอดี ปรุงเปรี้ยวเล็กน้อยให้ตัดเลี่ยน ผักต้มที่ลวกไว้ก็พอดีคำ ทุกอย่างลงตัวจนนึกว่าได้นั่งกินอยู่ในบ้านสวนริมทุ่ง! หากคิดเรื่องต้นทุนแล้ว เมนูนี้ใช้ของที่มีในบ้านเป็นส่วนใหญ่ ปลาดุก 1 ตัวประมาณ 60-70 บาท น้ำปลาร้าต้มเองไม่เสียเงินเพิ่ม สมุนไพรและผักก็มาจากสวนหลังบ้านหรือซื้อรวม ๆ ไม่เกิน 30 บาท รวมแล้วเมนูนี้อยู่ที่ประมาณ 100 บาท กินได้ 2-3 คน อิ่ม อร่อย และสุขใจแบบไม่ต้องพึ่งร้านแพง ๆ เลย เลือกปลาร้าให้เหมาะ: หากไม่คุ้นกลิ่นแรง ๆ แนะนำปลาร้าต้มกรองใส ที่ไม่มีกาก จะช่วยลดกลิ่นแรงและเพิ่มความกลมกล่อม อย่าต้มนานเกินไป: ปลาดุกสุกเร็ว ต้มนานอาจทำให้เนื้อยุ่ยเกินไป เสียสัมผัส ใส่สมุนไพรเยอะ ๆ: ตะไคร้ ข่า หอมแดง ช่วยดับกลิ่นคาว และเพิ่มความหอมอย่างธรรมชาติ ผักต้มต้องสด: ยิ่งผักสด น้ำจิ้มอร่อย ความสุขก็ยิ่งมาก! แม้จะเป็นเมนูง่าย ๆ แต่ในวันที่เหนื่อยล้า มันกลับกลายเป็นอาหารที่ปลอบประโลมใจได้ดีที่สุด เพราะมันเต็มไปด้วย “ความตั้งใจ” และ “ความเป็นบ้าน” อยู่ในทุกคำ ใครที่ยังไม่เคยลอง ลองเปิดครัว หยิบหม้อ ต้มน้ำ แล้วใส่ใจลงไปในหม้อดูสักครั้ง...คุณอาจจะพบว่า เมนูนี้ ไม่ได้แค่นัวลิ้น แต่นัวหัวใจด้วยจริง ๆ 😊 ภาพประกอบ/ภาพหน้าปกโดย:ผู้เขียน #ต้มปลาร้าปลาดุก #อาหารบ้านๆแต่รสชาติแพง #ทำกินเองที่บ้าน #ผักต้มพริกป่นคือชีวิต #ความสุขจากครัวเล็กๆ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !