การทำบุญตักบาตรเป็นสิ่งที่ชาวพุทธนิยมปฏิบัติ เพราะการใส่บาตรทำได้ในง่าย ทำได้ในทุกโอกาส และเมื่อตั้งใจจะใส่บาตรด้วยจิตที่บริสุทธิ์และเป็นกุศลแล้ว เราจึงจัดเตรียมภัตตาหารนั้นอย่างเต็มที่ ทั้งแกงกะทิรสมันย่อง ข้าวสวยขัดขาวอย่างดี ขนมหวานรสหวานชุ่มคอแถมด้วยสีสันสวยสด น้ำปาณะรสหวานชื่นใจ อีกทั้ง หลักในการฉันอาหารของพระภิกษุนั้น พระไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอาหารที่ได้รับมาจากการบิณฑบาต แต่สิ่งดี ๆ ที่ตั้งใจก็ไปทำลายสุขภาพพระสงฆ์ได้ Photo by Mateusz Feliksik on Unsplash ใส่บาตรตามสะดวก พระมีโรค Photo by Artyom PJ on Unsplash ญาติโยมมักจะเลือกซื้ออาหารถุงเพื่อถวายพระ เพราะสะดวก โดยเมนูหลัก ๆ เช่น แกงเขียวหวาน กะเพรา แกงส้ม พะโล้ ซึ่งส่วนมากจะใช้กะทิ น้ำมัน น้ำตาล เครื่องชูรส เกลือ เป็นส่วนประกอบ ซึ่งนั่นส่งผลต่อสุขภาพของพระโดยตรง โดยมีรายงานจากสาธารณสุขที่ชี้แจงว่าอาหารที่ญาติโยมตั้งใจทำและนำมาถวายนั้นส่งผลให้พระอาพาธหรือเจ็บป่วยและมีโรคประจำตัวกันแทบทั้งนั้น ได้แก่ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไต ข้อเข่าเสื่อม เบาหวาน แน่นอนว่าส่วนใหญ่มาจากอาหารที่มากับการทำบุญ อีกส่วนหนึ่งคือพระเองก็มีกิจนิมนต์มากทำให้ไม่มีเวลาได้ขยับเขยื่อนเคลื่อนตัว แม้แต่จะกวาดลานวัด Photo by Pixabay from Pexels ใส่ใจก่อนถวาย พระห่างโรค ดังนั้นสาธุชนคนรักการทำบุญตักบาตรควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยการทอด อาหารรสจัดทั้งเค็ม หวาน เผ็ด อาหารที่มีไขมันสูง อาหารหมักดอง ด้วยการใส่ใจเลือกวัตถุดิบให้ครบทั้ง 5 หมู่ หรือหากไม่มีเวลาจริง เลือกซื้อข้าวกล้อง เนื้อสัตว์ก็เลือกเป็นอาหารที่ปรุงจากเนื้อปลา หรือไก่ และใส่ผักต้ม หรือเมนูผัก และผลไม้ตามสัดส่วน ส่วนน้ำปานะที่มีรสหวาน หลีกเลี่ยงก็ใส่เป็นน้ำเปล่า หรือนมรสจืด หรือหวานน้อยลง Photo by Niels Steeman on Unsplash แม้ว่าทุกอย่างคือความตั้งใจ แต่ชาวพุทธคงต้องใส่ใจอีกสักนิด เลือกภัตตาหารที่ห่างไกลโรคให้กับพระสงฆ์ เพราะเมื่อพระสงฆ์องคเจ้าสุขภาพดีไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนก็สามารถสืบต่อพระพุทธศาสนาไห้เจริญรุ่งเรืองต่อไป และชาวพุทธเองก็จะได้มีที่พึ่ง โดยมีพระสงฆ์สอนและเผยแผ่คำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไปเช่นกัน ภาพปก Photo by Washarapol D BinYo Jundang from Pexels