บอกเลยว่ากระแสพี่จอง คุณคัลแลน และคุณจูดี้มาแรงสุดๆ จนฉุดๆ ไม่อยู่กับคลิปทำข้าวหลามด้วยตัวเองทุกๆ ขั้นตอน จนไอตัวเราก็รู้สึกอินไปด้วยต้องหาข้าวหลามมากินให้ฉ่ำใจ แค่นี้ก็คงไม่พอเพราะข้าวหลามยังมีเรื่องราวน่ารู้ซ่อนอยู่อีกมากมาย หลายๆ ข้อเราก็อาจยังไม่เคยรู้เลยด้วย เรื่องน่ารู้ของข้าวหลามมีอะไรบ้าง ความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความหนึบเหนียว หวาน มัน อร่อย คืออะไรมาดูกันเลยจ้า คำว่า “หลาม” เป็นอีกหนึ่งกรรมวิธีการปรุงอาหารให้สุกคำว่า “หลาม” เป็นกรรมวิธีการปรุงอาหารให้สุกของคนในสมัยก่อนด้วยการเอาเนื้อสัตว์อย่างเช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อหมู รวมไปจนถึงพวกข้าวบรรจุเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่แล้วนำไปเผาจนสุกดี การปรุงอาหารด้วยวิธีนี้เรียกว่าการหลาม ต่อมาเมื่อมีการเอาข้าวเหนียวมาปรุงรสให้อร่อยแล้วบรรจุในกระบอกไม้ไผ่จึงมีชื่อเรียกว่าข้าวหลาม ข้าวหลามเป็นอาหารที่มีรากฐานมาจากการหุงข้าวด้วยไม้ไผ่อย่างที่บอกไปในข้อแรกว่าการหุง การทำอาหารให้สุกของคนสมัยก่อนนั้นไม่มีภาชนะเครื่องเงิน เหล็ก สแตนเลสเหมือนอย่างในยุคปัจจุบัน แต่จะเป็นการใช้วัสดุจากธรรมชาติมาพลิกแพลงในการประกอบอาหารแทนโดยมักใช้กระบอกไม้ไผ่สำหรับการหุง ต้มหรือตุ๋น อย่างเช่นการหุงข้าวในกระบอกไม้ไผ่ที่ทำให้ข้าวสุกเรียงตัวสวย ข้าวมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน จึงมีการสันนิษฐานว่าเมนูข้าวหลามถูกพัฒนามาจากการหุงข้าวธรรมดาทั่วไป เปลี่ยนมาเป็นข้าว ข้าวเหนียวปรุงรสให้มีรสหวานอร่อย กลายเป็นเมนูของหวานเพิ่มขึ้นมา บ้างก็ว่ากันว่าข้าวหลามนั้นนิยมทำในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวอย่างบ้านเราที่เป็นภาคใต้ก็จะมีการปลูกข้าวไร่ทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว (ปลูกข้าวในสวนต้นยางพาราอ่อน) เมื่อมีการเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงต้นปีก็มักจะมีการทำข้าวหลามเหมือนกันค่ะ ซึ่งส่วนนี้ก็ตรงกับข้อมูลที่เราค้นเจอมาว่าการทำข้าวหลามนิยมทำกันในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเพราะข้าวที่ได้นั้นเป็นข้าวใหม่ เมื่อนำมาทำข้าวหลามก็จะยิ่งหอมอร่อยสุดๆ แถมยังเป็นการทำข้าวหลามเพื่อแบ่งปันของกินให้กับผู้ที่ช่วยมาลงแขกเกี่ยวข้าวได้นำไปกินกันอีกด้วยล่ะ ส่วนผสมพื้นฐานของข้าวหลามนั้นมีเพียงไม่กี่อย่างสำหรับส่วนผสมในการทำข้าวหลามนั้นมีเพียงไม่กี่อย่าง ได้แก่ ข้าวเหนียว กะทิ น้ำตาลและเกลือ เน้นการปรุงรสข้าวหลามให้ออกหวาน มัน เค็ม โดยในปัจจุบันมีการเพิ่มส่วนผสมที่ใช้ในข้าวหลามให้มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น งาดำ ถั่วดำ ถั่วแดง เม็ดแปะก๊วย มะพร้าวอ่อน ขนุน ฯลฯ เพื่อปรับรสชาติของข้าวหลามให้มีความอร่อยและแตกต่างมากขึ้น ไม้ไผ่สำหรับการทำข้าวหลามก็ต้องเป็นไม้ไผ่เฉพาะกระบอกไม้ไผ่สำหรับทำข้าวหลามก็ไม่ใช่ไม้ไผ่ทั่วไปแต่จะต้องเลือกเป็นไม้ไผ่สำหรับทำข้าวหลามโดยเฉพาะซึ่งมีชื่อเรียกว่า “ไผ่ข้าวหลาม” ที่มีคุณลักษณะเหมาะกับการทำข้าวหลามได้เป็นอย่างดีทั้งทนร้อน สามารถเผาให้ข้าวหลามด้านในสุกได้โดยไม่ทำให้กระบอกไม้ไผ่แตกไปเสียก่อน ขนาดของกระบอกไม้ไผ่กำลังพอเหมาะไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไป มีความเป็นเลาตรงสวย นอกจากนี้ยังมีเยื่อหุ้มไผ่ด้านในกระบอกไม้ไผ่ทำให้เวลากินข้าวหลามจะมีความกรุบกรอบที่ผิวด้านนอก แคลอรีข้าวหลามเนื่องจากข้าวหลามเป็นการนำเอาข้าวเหนียวมาปรุงรสด้วยน้ำกะทิ น้ำตาลและเกลือป่นเล็กน้อย ปริมาณแคลอรีของข้าวหลามจึงไม่น้อยเหมือนกันค่ะ โดยข้าวหลาม 100 กรัมให้พลังงานมากถึง 200-250 kcal ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นแคลอรีก็อาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับส่วนผสมในข้าวหลามกระบอกนั้นๆ ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วควรกินข้าวหลามในปริมาณที่พอเหมาะโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด ข้าวหลามแฟนซีกับการปรับตัวร่วมยุคสมัยในปัจจุบัน เดี๋ยวนี้ข้าวหลามไม่ได้มีแค่เพียงข้าวหลามข้าวเหนียวขาว ข้าวเหนียวดำเท่านั้น แต่การปรับตัวของข้าวหลามให้ร่วมยุคสมัยนั้นมีทั้งข้าวหลามแฟนซีสีสันสดใส ข้าวหลามยัดไส้ที่มีการเพิ่มไส้เผือก ไส้สังขยา แถมยังมีการปรับเพิ่มรสชาติชาไทย ชาเขียว นมชมพู ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการทำข้าวหลามช็อตแบบเล็กๆ พอดีทาน เพื่อทำให้เมนูข้าวหลามดูน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วยล่ะและนี่ก็เป็นรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับข้าวหลามที่เราขอรวบรวมมาฝากเพื่อนๆ ทุกคนกัน ส่วนตัวเราเป็นอีกคนที่ชอบกินข้าวหลามอยู่บ่อยๆ เพราะชอบรสชาติ หวาน มัน ลงตัวของข้าวเหนียวที่ถูกปรุงจนสุกในกระบอกไม้ไผ่ ยิ่งเยื่อไผ่หนาๆ ดีๆ ก็จะยิ่งทำให้ข้าวหลามกินสนุกมากขึ้นไปอีก ข้าวหลามร้านโปรดของคุณคือร้านไหน มีส่วนผสมอะไรบ้างมาแชร์กันได้เลยนะคะ ภาพหน้าปก โดย ผู้เขียน แต่งด้วย canvaภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !