บ่อยครั้งที่ซื้อแกงถุงจากร้านขายแกงสำเร็จ มากินแล้วรสชาติไม่ได้ดั่งใจ จนต้องทิ้ง แต่สำหรับยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ จะซื้อของมาเททิ้งเทขว้างก็คงไม่เข้าท่าเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแล้วจะดีกว่าไหม หากเราทำกินเองที่บ้านอาจใช้งบประมาณมากกว่าแกงถุง หนึ่งถุงแต่เราได้กินกับข้าวที่ถูกใจเรา และหากกินไม่หมดก็สามารถอุ่นเก็บไว้กิน ในมื้อถัดไปได้อีกด้วย วันนี้ผู้เขียนมีสูตรแกงเนื้อหน่อไม้ดอง (พริกแกงเผ็ดปักษ์ใต้) มาฝากทุกท่านเป็นวิธีง่าย ๆ ตามสไตล์ ครัวบุหงาอันดามัน วิธีที่ใคร ๆ ก็ทำตามได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไปเตรียมวัตถุดิบและเครื่องปรุงกันเลย :::ภาพโดยผู้เขียน::: :::ภาพโดยผู้เขียน::: วัตถุดิบและเครื่องปรุง 1. เนื้อวัว ประมาณ 3 ขีด สูตรของผู้เขียนจะใช้เนื้อลาย สังเกตง่าย ๆ คือจะมีเส้นขาว ๆ แทรกอยู่กับเนื้อสีแดง หากหาไม่ได้อาจจะใช้เนื้อแดงธรรมดาก็ได้เช่นกัน 2. หน่อยไม้ดอง เลือกเอาที่มีเนื้อสีขาวเพราะจะไม่เปรี้ยวมากจนเกินไป ใช้มากน้อยตามชอบ 3. กะทิ วันนี้ผู้เขียนใช้เป็นกะทิกล่อง เพราะร้านกะทิสดปิด จึงต้องใช้กะทิกล่องแทน 4. พริกแกงเผ็ดปักษ์ใต้ หรือถ้าหาพริกแกงปักษ์ใต้ไม่ได้ จะใช้พริกแกงภาคกลางแทนก็ได้ 5. ใบมะกรูด 4-5 ใบ 6. ใบโหรพา ตามชอบ 7. ซุปเนื้อก้อน 8. เกลือ 9. น้ำตาลทราย วิธีทำง่าย ๆ สไตล์ครัวบุหงาอันดามัน 1. หั่นเนื้อแนวขวางให้บางที่สุด ไม่ต้องทำชิ้นเล็กมาก เพราะเวลาแกงเนื้อจะหดจนชิ้นเล็กเกินไปไม่น่ากิน พักไว้ 2. ล้างหน่อไม้ดองด้วยน้ำสะอาดประมาณสองสามน้ำ เพื่อลดความเปรี้ยวและเค็ม :::ภาพโดยผู้เขียน::: 3. เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว นำหม้อตั้งไฟปานกลาง เทกะทิลงไปครึ่งกล่อง ผัดกับพริกแกง 1 ช้อนโต๊ะ (วันนี้แกงแบบเผ็ดน้อยเพราะมีเด็กกินด้วย)จนพริกแกงละลาย เติมน้ำสะอาด 1 แก้วต้มให้เดือด ตามด้วยเนื้อลายที่หั่นชิ้นเตรียมไว้ เติมเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ซุปเนื้อก้อนลงไป 1 ก้อน ใส่ใบมะกรูดฉีกหยาบ ๆ ปิดฝาโดยไม่ต้องคน รอจนน้ำเดือด เปิดฝาคนให้เนื้อไม่จับกันเป็นก้อน ปิดฝาต้มต่ออีกสัก 10 นาที ข้อดีของเนื้อลายคือไม่ต้องต้มนานเนื้อก็เปื่อยได้ที่ หลังจากนั้นใส่หน่อไม้ดองลงไปและเติมน้ำกะทิที่เหลือลงไป หากน้ำน้อยจนเกินไปสามารถเติมน้ำเปล่าลงไปเพิ่มได้ ปิดฝาต้มจนเดือด เปิดฝาชิมรสดูว่าเค็มมากน้อยแค่ไหน หากยังไม่เค็มพอดีก็เติมเกลือเพิ่ม ใส่น้ำตาลทรายลงไปเกือบเต็มทับพี หรือจะใช้ช้อนโต๊ะ ตัก 5-6 ช้อน หากท่านใดไม่ชอบหวานก็สามารถลดลงได้ ชิมรสชาติ หวานนำ เค็ม เผ็ด ต้มต่อให้เดือด หมั่นคนบ่อย ๆ กะทิจะได้ไม่แตกมัน :::ภาพโดยผู้เขียน::: :::ภาพโดยผู้เขียน::: เสร็จแล้วตบท้ายด้วยใบโหรพาตามชอบ ตักเสิร์ฟ พร้อมข้าวสวยร้อน ๆ อาจจะเจียวไข่เพิ่มก็เข้ากันดี ความพิเศษของเนื้อลายคือไม่ต้องต้มนาน และเวลากินจะเคี้ยวกรุบ ๆ เพราะมีเอ็นเนื้อแทรกอยู่ระหว่างเนื้อแดง กินเพลินจนต้องตักข้าวเพิ่มกันเลยทีเดียว เคล็ดลับคู่ครัว หากใช้กะทิกล่องในการประกอบอาหารคาว เราจะใช้น้ำตาลทรายแทนน้ำตาลปี๊บ เพราะน้ำตาลทรายมีรสหวานแหลม จะตัดกับกะทิกล่องที่มีความหวานอยู่ในตัวอยู่แล้ว อีกข้อคือแกงเนื้อเราจะใส่เกลือแทนน้ำปลา เพราะจะทำให้เนื้อไม่คาวนั่นเอง :::ภาพโดยผู้เขียน:::