เคยกินกันไหมทุเรียนเทศ ชื่อต่อท้ายว่า ‘เทศ’ ย่อมเป็นพืชที่มาจากต่างประเทศ เช่น มะเขือเทศ, มันเทศ เป็นต้น ทุเรียนเทศมีอีกชื่อว่า ทุเรียนน้ำ ส่วนทางจังหวัดนราธิวาสบ้านผู้เขียน รู้จักกันในชื่อ ‘ทุเรียนเบา’ ภาษาท้องถิ่นของนราธิวาส มักเรียกผลไม้ที่คล้ายผลไม้หลักต่อท้ายด้วยเบา เช่น เรียกผลกระถินว่า สะตอเบา เพราะฝักมันคล้ายสะตอ เป็นต้น ทุเรียนเทศ มีถิ่นกำเนิดจากอเมริกากลาง เติบโตได้ดีในพื้นที่เขตร้อน จึงมาแพร่พันธุ์ในประเทศไทยในทุกภาค เพียงแต่อาจจะไม่ค่อยได้เห็นนัก ทุเรียนเทศ อยู่ในตระกูลน้อยหน่า เมล็ดก็คล้ายน้อยหน่า รูปร่างผลมองเผิน ๆ คล้ายทุเรียน จึงเรียกว่าทุเรียนเทศ เนื้อด้านในสีขาวคล้ายน้อยหน่า แต่ฉ่ำน้ำกว่า (กว่ามาก) จึงเรียกกันว่า ทุเรียนน้ำอีกชื่อ รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอม ข้อเสียของทุเรียนเทศ คือ เน่าเร็ว สุกแล้วเก็บไว้ได้ไม่นานนัก เพราะจะงอม และเน่าในที่สุด เท่าที่ผู้เขียนเก็บมาจากต้นที่ปลูกไว้ข้างบ้าน เพียงข้ามวัน ผลก็ช้ำแล้ว วิธีแก้ คือ รีบกินให้หมด ซึ่งไม่ยากเลยเพราะกินแล้ว มักหยุดไม่อยู่ ผลทุเรียน กับผลทุเรียนเทศ ด้วยผู้เขียนปลูกไว้ข้างบ้าน และบ้านก็เลี้ยงไก่แบบปล่อย ผลของทุเรียนเทศนั้นออกทั้งบริเวณลำต้น และกิ่ง ตรงโคนก็ออก ผลที่ออกโคนต้น มักมีหญ้าปกคลุม สายตามนุษย์จึงไม่ค่อยเห็น แต่เมื่อผลทุเรียนน้ำเริ่มสุก จะส่งกลิ่นหอมไปเตะจมูกไก่ ไก่จึงมาจิกกิน แต่ก็กินไม่หมดหรอก เมื่อผลเน่านั่นแหละ กลิ่นหอมปนเปรี้ยวฉุนจึงลอยเข้าจมูกคน ไอ้เราก็ได้แต่ก่นด่าไก่ เคยมีข่าวฮือฮาว่าใบของทุเรียนเทศ รักษามะเร็งได้ ช่วงหนึ่งต้นทุเรียนเทศจึงเป็นที่สนใจ ราคากล้าจึงสูง แต่แล้วก็หมดความนิยมลง ถึงจะหมดความนิยมในหมู่คนที่หวังนำใบไปขายเป็นยา หรือผู้ป่วยที่หวังหายจากโรค แต่รสชาติของทุเรียนเทศก็ไม่เคยหมดความอร่อย ใครเคยลิ้มลอง รับรองว่าหากเจอวางขายที่ไหน เป็นต้องซื้อแน่นอน ปิดท้ายบทความด้วยคำว่า นอกจากความอร่อยที่ยกมาข้างต้นแล้ว ทุเรียนเทศ เนื้อผลมีความเย็น กินยามอากาศร้อนชื่นใจมาก นำไปทำเป็นสมูทตี้ก็ไม่น้อยหน้าผลไม้ชนิดใด ภาพประกอบโดย ผู้เขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !