ทำไมควรกินอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่ มีอะไรดีบ้าง ที่ควรรู้! | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล คุณผู้อ่านเคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมเราถึงต้องกินอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ ซึ่งคำพูดหนึ่งที่ติดปากและเรามักได้ยินตลอดเลยก็คือ “การกินอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่” ที่หลายคนอาจจะก็ยังมองภาพไม่ออกว่า นอกจากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของเราแล้ว การหันมาให้ความสำคัญกับอาหารหลัก 5 หมู่ มีข้อดีอะไรอีกบ้าง จริงไหมคะ? แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะในบทความนี้มีคำตอบมาให้ได้รู้กันแล้ว ดังนั้นในบทความนี้ผู้เขียนจะมาบอกต่อเกี่ยวกับข้อดีของการกินอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่ค่ะ โดยข้อดีในหลายข้อเป็นข้อมูลให้ที่คุณผู้อ่านอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน และเมื่ออ่านจบแล้วคุณผู้อ่านจะมองภาพออกและเข้าใจมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเกิดความตระหนักมากขึ้น และหันมาเอาจริงเอาจังกับการกินอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการทั้ง 5 หมู่ด้วยค่ะ และถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้าง งั้นเรามารู้จักไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ กับข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ 1. ลดความต้องการอาหารแปรรูป การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวัน ถือเป็นหัวใจสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพค่ะ เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอแล้ว ก็จะทำให้รู้สึกไม่โหยหาอาหารที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะอาหารแปรรูป การที่เราเลือกกินอาหารสดใหม่หลากหลายชนิดตามหลักโภชนาการ จึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดความอยากอาหารแปรรูป และส่งผลดีในระยะยาวได้ค่ะ 2. ลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง เมื่อเราวางแผนการกินให้มีความหลากหลายและสมดุล ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารที่ต้องการอย่างแท้จริง ทำให้เราอิ่มและพึงพอใจกับอาหารที่กิน ไม่ต้องตักเผื่อหรือสั่งเกินความจำเป็น ผลที่ตามมาคืออาหารที่เตรียมไว้ถูกบริโภคอย่างคุ้มค่า ไม่เหลือทิ้งให้เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม การใส่ใจเลือกกินอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการจึงเป็นการดูแลทั้งสุขภาพของเราและโลกไปพร้อมๆ กันค่ะ 3. สร้างความหลากหลายในมื้ออาหาร แทนที่จะจำเจอยู่กับเมนูเดิมๆ การใส่ใจเลือกสรรอาหารจากทุกหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ นม หรือถั่วต่างๆ จะช่วยให้เราได้ลิ้มลองรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป นอกจากจะทำให้มื้ออาหารไม่น่าเบื่อแล้ว ยังเป็นการฝึกให้เราได้เรียนรู้และสนุกกับการกินอาหารที่หลากหลาย ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาวอีกด้วยค่ะ 4. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตอาหาร แม้ว่าโดยตรงแล้วการกินให้ครบหมู่จะเน้นที่สุขภาพของเรา แต่การที่เราบริโภคอาหารที่หลากหลาย ไม่เน้นอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป ก็เป็นการลดแรงกดดันต่อระบบการผลิตอาหารบางประเภทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ยกตัวอย่างเช่น การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ใหญ่ลงบ้าง แล้วหันมาบริโภคโปรตีนจากพืช ผักผลไม้ตามฤดูกาล หรือเนื้อสัตว์ขนาดเล็กมากขึ้น ก็เป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนและก๊าซอื่นๆ ที่มาจากการเลี้ยงสัตว์ใหญ่ได้ นอกจากนี้การกินอาหารที่หลากหลายยังส่งเสริมการผลิตอาหารที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในระยะยาวค่ะ 5. ส่งเสริมการบริโภคพืชผักตามฤดูกาล หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่เป็นสถานการณ์ที่จะส่งเสริมการบริโภคพืชผักตามฤดูกาล ซึ่งผักและผลไม้ที่อยู่ในฤดูกาลนั้น มักจะมีรสชาติดี สดใหม่ และมีราคาถูกกว่า อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ร่างกายต้องการ การที่เราเปิดใจเลือกซื้อและนำพืชผักตามฤดูกาลมาปรุงอาหารให้หลากหลายในแต่ละมื้อ ก็เท่ากับว่าเราได้สนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น ได้กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งอาหารระยะไกลอีกด้วย การกินให้ครบ 5 หมู่จึงเป็นการเชื่อมโยงเราเข้ากับธรรมชาติและวงจรของอาหารอย่างลงตัวค่ะ 6. ส่งเสริมการใช้ส่วนประกอบของอาหารอย่างคุ้มค่า เมื่อเราใส่ใจที่จะเลือกซื้ออาหารที่หลากหลายและนำมาปรุงแต่งเอง เราก็มีโอกาสที่จะมองเห็นคุณค่าของวัตถุดิบในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นเปลือกผัก ผลไม้ หรือส่วนที่ปกติอาจถูกทิ้งไป ยกตัวอย่างเช่น การหันมาใช้ก้านผักบุ้งมากขึ้นมาผัด แทนที่จะตัดทิ้งไป การทำอาหารกินเองโดยเน้นความหลากหลายตามหลัก 5 หมู่ จึงเป็นการกระตุ้นให้เราคิดสร้างสรรค์ในการนำส่วนต่างๆ ของอาหารมาใช้ประโยชน์ ลดปริมาณขยะอาหาร และยังเป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับมื้ออาหารของเราอีกด้วยค่ะ 7. ลดการสะสมของบรรจุภัณฑ์อาหาร คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีส่วนช่วยอย่างมากในการลดการสะสมของบรรจุภัณฑ์อาหาร เพราะเมื่อเราเน้นการซื้อวัตถุดิบสดใหม่หลากหลายชนิดมาปรุงอาหารเองที่บ้าน เราก็ลดการพึ่งพาอาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง หรืออาหารแบบห่อกลับบ้าน ซึ่งอาหารเหล่านี้มักมาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก โฟม หรือกล่องต่างๆ การเลือกซื้อผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และธัญพืชต่างๆ จากตลาดสด หรือร้านค้าที่เน้นการขายแบบไม่บรรจุภัณฑ์ หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ก็เป็นการช่วยลดปริมาณขยะจากบรรจุภัณฑ์อาหารได้อย่างชัดเจน ดังนั้นการหันมากินอาหารปรุงเองให้ครบ 5 หมู่ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม 8. ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร เมื่อเราบริโภคผัก ผลไม้ และธัญพืชที่หลากหลายตามหลักโภชนาการ ก็เป็นการสนับสนุนความต้องการของตลาดสำหรับผลผลิตที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาใช้วิธีการปลูกแบบผสมผสาน หรือการทำเกษตรอินทรีย์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การที่เราเลือกซื้อผลผลิตตามฤดูกาลจากแหล่งผลิตในท้องถิ่น ก็มีแนวโน้มที่จะได้ผลผลิตที่ผ่านการใช้สารเคมีน้อย หรือปลอดสารเคมีมากกว่า เพราะมีความสดใหม่และลดขั้นตอนการเก็บรักษาที่อาจต้องพึ่งพาสารเคมีบางชนิด การกินอาหารครบ 5 หมู่จึงเป็นการสนับสนุนระบบอาหารที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสุขภาพในระยะยาวได้อีกทางหนึ่งค่ะ 9. ส่งเสริมการบริโภคอาหารจากแหล่งที่ยั่งยืน เมื่อเราใส่ใจเลือกสรรอาหารให้มีความหลากหลาย เราก็มีแนวโน้มที่จะมองหาแหล่งผลิตอาหารที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อปลาจากแหล่งประมงที่ยั่งยืน เนื้อสัตว์จากฟาร์มที่ใส่ใจในการดูแลสัตว์ หรือผักผลไม้ที่ปลูกโดยวิธีเกษตรอินทรีย์ การที่เราบริโภคอาหารจากแหล่งที่ยั่งยืนมากขึ้น ก็เป็นการสนับสนุนให้เกิดระบบการผลิตอาหารที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและชุมชนในระยะยาว การกินอาหารครบ 5 หมู่จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของสุขภาพส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการร่วมสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นด้วยค่ะ 10. สร้างความตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาหารและสิ่งแวดล้อม การใส่ใจเลือกสรรอาหารจากหลากหลายหมวดหมู่ เราจะเริ่มสังเกตว่าอาหารแต่ละชนิดมีที่มาอย่างไร ต้องผ่านกระบวนการผลิตแบบไหน และส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติอย่างไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น การเลือกบริโภคผักผลไม้ตามฤดูกาลทำให้เราเห็นความสำคัญของดิน น้ำ และสภาพอากาศ หรือการเลือกเนื้อสัตว์จากแหล่งที่ยั่งยืน ก็ทำให้เราเข้าใจถึงผลกระทบของการเลี้ยงสัตว์ต่อโลก การกินอาหารครบ 5 หมู่ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างอาหาร สุขภาพของเรา และความเป็นอยู่ของสิ่งแวดล้อม ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมการบริโภคที่เป็นมิตรต่อโลกมากขึ้นในที่สุดค่ะ และทั้ง 10 ข้อดีที่ผู้เขียนได้พูดเอาไว้นั้น จะเห็นได้ว่าก็เกี่ยวข้องกับเราทุกคน ซึ่งการหันมาดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่ เป็นแนวทางการดูแลสุขภาพที่ผู้เขียนใช้ตลอดค่ะ ซึ่งก็พบว่าจริงมากที่เราจะเกิดการคิดได้ในหลายเรื่องๆ เช่น การบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งต่อแวดล้อมมากขึ้น การลดการเกิดขยะจากอาหาร การเห็นคุณค่าของอาหารที่เรามีอยู่ การหันมาซื้อผักและผลไม้ตามฤดูกาลมากขึ้น ที่ในตอนแรกคุณผู้อ่านอาจจะไม่เชื่อหรือยังมองภาพไม่ออก แต่อย่างไรก็ตามหากเราหันมากินอาหารให้ครบตามหลักโภชนการแล้ว ยังไงๆ ก็มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นค่ะ ซึ่งตัวอย่างของข้อดีบางส่วน ผู้เขียนก็ได้นำเสนอไว้แล้วข้างต้น ยังไงลองอ่านทำความเข้าใจอีกสักรอบก่อนก็ได้ค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพทำหน้าปก โดย @freepik จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva ภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน แนวทางกินผักมากขึ้น เพื่อคุณค่าทางอาหาร ที่จำเป็นต่อร่างกาย วิธีเลือกร้านก๋วยเตี๋ยว น่าทาน แบบไหนดี มีคุณภาพ 8 วิธีเลือกข้าวโพดหวานต้ม แบบไหนดี น่าซื้อ ดูสะอาด หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !