11 วิธีเลือกแคบหมูใหม่ ไม่เหม็นหืน ดูยังไงดี และน่าซื้อ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ถ้าพูดถึงเรื่องอาหารการกินในประเทศไทยเราแล้วนั้น ต้องบอกว่าค่อนข้างหลากหลายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นของทานเล่น อาหารจานเดียว ของหวาน และอาหารที่นำมารับประทานแก้เผ็ดได้ โดยแคบหมูคืออาหารที่หลายคนรู้จักในลักษณะที่นำมารับประทานคู่กับอาหารที่มีรสเผ็ด เช่น ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น ซึ่งหลายคนเวลาจะเลือกซื้อแคบหมูหรือเปิดแคบหมูออกมาชิมนั้น ลืมนึกและสังเกตอะไรบางอย่างที่บ่งบอกถึงคุณภาพของแคบหมู โดยอาจเป็นเพราะว่าไม่มีข้อมูลหรือมองไม่ออกว่าจะต้องดูและสังเกตอะไรบ้าง จึงทำให้ไม่ได้เลือกแคบหมูแบบละเอียดก่อนซื้อ จริงไหมคะ? และปัญหาหนึ่งที่หลายคนเจอบ่อยๆ ก็คือ แคบหมูเหม็นหืน จนต้องทิ้งเป็นขยะ ซึ่งในบทความนี้เราจะมารู้กันค่ะว่า จะต้องทำยังไงดีนะ เลือกแคบหมูแบบไหนดี ลักษณะแบบไหนมีคุณภาพ และแบบไหนไม่ควรซื้อเลย หากคุณผู้อ่านได้นำเทคนิคในบทความนี้ไปใช้ รับรองว่าได้แคบหมูคุณภาพดีแบบหมูๆ แน่นอนค่ะ งั้นอย่าช้าที่จะอ่านทำความเข้าใจและนำไปใช้กันค่ะทุกคน กับเคล็ดลับดีๆ ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. ดูสี การดูสีของแคบหมูเป็นวิธีเบื้องต้นที่สำคัญในการประเมินคุณภาพและความสดใหม่ แคบหมูที่มีสีเหลืองทองบ่งบอกถึงแคบหมูที่ทำจากหนังหมูที่สดใหม่ และผ่านกระบวนการทอดที่เหมาะสม สีเหลืองทองควรสม่ำเสมอทั่วแผ่นแคบหมู ไม่ควรมีสีอื่นปะปน ถ้าแคบหมูมีสีดำคล้ำ อาจปรากฏเฉพาะบางส่วน หรือทั่วทั้งแผ่นสีดำคล้ำ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ใช้หนังหมูที่ไม่สดใหม่ ทอดในน้ำมันที่ใช้ซ้ำหลายครั้ง ทอดนานเกินไป หรือใช้ไฟแรงเกินไป สีของแคบหมูอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของหนังหมูที่ใช้ และวิธีการทอด แต่ไม่ควรมีรอยไหม้เกิดจากการทอดแคบหมูด้วยไฟแรงเกินไป หรือทอดนานเกินไป เพราะรอยไหม้จะมีสีดำ หรือน้ำตาลเข้ม และอาจมีกลิ่นเหม็นไหม้ค่ะ หากพบแคบหมูที่มีสีผิดปกติ ก็ไม่ควรซื้อนะคะ 2. ดมกลิ่น การดมกลิ่นเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการเลือกแคบหมู เพราะกลิ่นสามารถบ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของแคบหมูได้ค่ะ แคบหมูที่สดใหม่และมีคุณภาพดี จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ซึ่งเกิดจากการผสมผสานของกลิ่นเครื่องเทศที่ใช้ในการปรุงรส และกลิ่นหอมของหนังหมูที่ทอดจนสุก กลิ่นหอมนี้ควรจะหอมละมุน ไม่ฉุน หรือเหม็นหืน กลิ่นเหม็นหืนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแคบหมูนั้นอาจจะเก่า หรือเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ทำให้ไขมันในแคบหมูเกิดการออกซิเดชัน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยกลิ่นเหม็นหืนนี้มักจะมีกลิ่นคล้ายน้ำมันเก่า หรือกลิ่นเหม็นอับ หากพบว่าแคบหมูมีกลิ่นแปลกปลอมก็ไม่ควรซื้อ กลิ่นแปลกปลอมอาจเป็นกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย หรือกลิ่นที่แตกต่างจากกลิ่นหอมของเครื่องเทศและหนังหมูทอด ซึ่งกลิ่นแปลกปลอมอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การปนเปื้อนของสารเคมี การใช้หนังหมูที่ไม่สดใหม่ การเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธี ดังนั้นควรดมกลิ่นแคบหมูก่อนซื้อ หากมีกลิ่นเหม็นหืนหรือกลิ่นแปลกปลอม ก็ไม่ควรซื้อนะคะ หากพบแคบหมูที่มีกลิ่นผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยง หากไม่แน่ใจควรสังเกตสี และสัมผัสของแคบหมู เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ 3. สัมผัสดู การสัมผัสแคบหมูเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบ่งบอกถึงคุณภาพและความสดใหม่ของแคบหมูได้ โดยเฉพาะความกรอบ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของแคบหมูที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ แคบหมูที่ดีควรมีความกรอบและแข็ง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความแห้งและไม่เหนียว หากแคบหมูนิ่มหรือเหนียว แสดงว่าอาจจะไม่สดใหม่ หรืออาจจะเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ทำให้แคบหมูสูญเสียความกรอบไป แคบหมูที่กรอบมักจะมีความแข็ง เมื่อลองบีบหรือหัก จะต้องรู้สึกได้ถึงความแข็ง ไม่ควรจะนิ่มหรืออ่อนยวบ แคบหมูที่ไม่ดีอาจจะมีความเหนียว ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ทอดไม่สุก หรืออาจจะมีความชื้น ทำให้แคบหมูไม่กรอบและเหนียว แคบหมูที่กรอบและมีคุณภาพดี เมื่อหักจะต้องแตกหักง่าย ไม่เหนียวติดกัน อย่างไรก็ตามความกรอบของแคบหมูอาจจะแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของหนังหมูที่ใช้และวิธีการทอด หากไม่แน่ใจในคุณภาพของแคบหมู ควรลองชิมเพื่อดูรสชาติและความกรอบ โดยควรเลือกซื้อแคบหมูที่มีความกรอบและแข็ง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความแห้งและไม่เหนียว หากพบแคบหมูที่มีลักษณะนิ่ม เหนียว หรืออ่อนยวบ ก็ไม่ควรซื้อ 4. ดูที่ไขมัน การดูที่ไขมันของแคบหมูเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการพิจารณาคุณภาพของแคบหมู โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องปริมาณไขมันที่ได้รับค่ะ แคบหมูที่ดีควรมีปริมาณไขมันที่พอเหมาะ ไม่ควรมีไขมันมากจนเกินไป หรือมีแต่มันล้วนๆ เพราะไขมันที่มากเกินไปอาจทำให้แคบหมูเลี่ยน และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ไขมันในแคบหมูควรมีลักษณะที่ใส ไม่ขุ่น หรือมีสีคล้ำ ไขมันควรมีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่มีไขมันมากเกินไป แคบหมูที่ดีควรมีความสมดุลระหว่างส่วนของเนื้อและไขมัน ไม่ควรมีส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป ปริมาณไขมันในแคบหมูอาจจะแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของหนังหมูที่ใช้และวิธีการทอด หากพบแคบหมูที่มีลักษณะไขมันผิดปกติ เช่น มีไขมันมากเกินไป หรือไขมันมีสีคล้ำ ก็ไม่ควรซื้อ 5. ดูที่ขนาด การเลือกแคบหมูโดยดูที่ขนาดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณได้แคบหมูที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของเรา แคบหมูที่ดีควรมีขนาดที่ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ขนาดที่พอดีจะช่วยให้แคบหมูมีความกรอบที่สม่ำเสมอ และรับประทานได้ง่าย ขนาดที่พอดีอาจแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของแคบหมูและผู้ผลิต แต่โดยทั่วไปแล้ว แคบหมูที่ดีควรมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน ไม่ควรมีชิ้นที่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป แคบหมูที่ดีควรมีขนาดที่สม่ำเสมอ ไม่ควรมีชิ้นที่เล็กบ้างใหญ่บ้าง การมีขนาดที่สม่ำเสมอจะช่วยให้แคบหมูมีความกรอบที่เท่ากัน และดูน่ารับประทาน ควรสังเกตว่าแคบหมูในถุงหรือแพ็คนั้นมีขนาดที่ใกล้เคียงกันหรือไม่ หากมีชิ้นที่เล็กหรือใหญ่ปะปนกันมากเกินไป ไม่ควรเลือกซื้อค่ะ ทั้งนี้ขนาดของแคบหมูอาจแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของหนังหมูที่ใช้และวิธีการทอด โดยที่แคบหมูบางชนิดอาจจะถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อความสะดวกในการรับประทานนะคะ 6. สังเกตลักษณะของหนังหมู การสังเกตลักษณะของหนังหมูเป็นขั้นตอนสำคัญ ในการเลือกแคบหมูที่มีคุณภาพดี ซึ่งจะส่งผลต่อรสชาติและความกรอบของแคบหมู และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า หนังหมูที่นำมาทำแคบหมูควรมีลักษณะที่เรียบเนียน ไม่มีรอยแตก หรือรอยฉีกขาด เพราะรอยแตกหรือรอยฉีกขาดอาจทำให้แคบหมูมีลักษณะที่ไม่น่ารับประทาน และอาจทำให้แคบหมูอมน้ำมันมากเกินไป หนังหมูควรมีความหนาที่พอเหมาะ ไม่หนาหรือบางจนเกินไป หนังหมูที่หนาเกินไปอาจทำให้แคบหมูแข็งกระด้าง ในขณะที่หนังหมูที่บางเกินไปอาจทำให้แคบหมูไม่กรอบ หนังหมูที่ดีควรมีขนติดอยู่น้อยที่สุด หรือไม่มีเลย เพราะขนหมูที่ติดอยู่บนแคบหมูอาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่สบายใจ และอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความไม่สะอาดในการผลิต ดังนั้นควรเลือกซื้อแคบหมูที่ทำจากหนังหมูที่มีลักษณะเรียบเนียน ไม่มีรอยแตก หรือรอยฉีกขาด และมีขนติดอยู่น้อยที่สุด หากพบแคบหมูที่ทำจากหนังหมูที่มีลักษณะไม่ดี เช่น มีรอยแตก หรือมีขนติดอยู่มาก ก็ไม่ควรซื้อ ซึ่งลักษณะของหนังหมูอาจแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของหมูที่ใช้และวิธีการผลิตค่ะ 7. เลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อแคบหมูจากร้านที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และความสำคัญของการเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ก็เพราะว่าร้านค้าที่น่าเชื่อถือมักจะเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี เช่น หนังหมูที่สดใหม่ และเครื่องปรุงรสที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลต่อรสชาติและคุณภาพของแคบหมู ร้านค้าที่น่าเชื่อถือมักจะมีกระบวนการผลิตที่สะอาดและได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนของเชื้อโรคและสารเคมี ร้านค้าที่น่าเชื่อถือมักจะมีการจัดการสินค้าที่ดี ทำให้แคบหมูมีความสดใหม่ ไม่เหม็นหืน หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ร้านค้าที่น่าเชื่อถือมักจะมีชื่อเสียงที่ดี และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงคุณภาพของสินค้าและบริการ โดยวิธีการเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีดังนี้ สังเกตความสะอาดของร้าน: ร้านค้าที่สะอาดจะแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในเรื่องสุขอนามัย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการผลิตอาหาร สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผลิต: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการผลิต สามารถสอบถามข้อมูลจากเจ้าของร้านหรือพนักงานได้ อ่านรีวิวจากลูกค้า: การอ่านรีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าจากร้านนั้นๆ จะช่วยให้เราได้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้าและบริการ เลือกซื้อจากร้านค้าที่เราคุ้นเคย: หากมีร้านค้าที่เราคุ้นเคยและมั่นใจในคุณภาพของสินค้าและบริการ ก็ควรเลือกซื้อจากร้านนั้น สังเกตวันผลิตและวันหมดอายุ: หากมีการระบุวันผลิตและวันหมดอายุ ควรตรวจสอบก่อนซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าแคบหมูยังสดใหม่ 8. ดูวันผลิตและวันหมดอายุ การดูวันผลิตและวันหมดอายุของแคบหมูเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าแคบหมูยังสดใหม่และมีคุณภาพดี วันผลิตจะช่วยบอกว่าแคบหมูถูกผลิตเมื่อไหร่ ซึ่งจะช่วยให้เราประเมินได้ว่าแคบหมูยังสดใหม่อยู่หรือไม่ แคบหมูที่เก็บไว้นานเกินไปอาจสูญเสียคุณภาพ เช่น ความกรอบลดลง รสชาติเปลี่ยนไป หรืออาจมีกลิ่นเหม็นหืน แคบหมูที่หมดอายุแล้วอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามวันหมดอายุเป็นเพียงวันที่โดยประมาณที่แคบหมูยังคงคุณภาพที่ดีที่สุด หลังจากวันหมดอายุ คุณภาพของแคบหมูอาจลดลง หากไม่แน่ใจควรดมกลิ่นและสัมผัสแคบหมู เพื่อประกอบการตัดสินใจ ควรเลือกซื้อแคบหมูที่มีวันผลิตใหม่ และวันหมดอายุเหลืออีกนาน หากพบแคบหมูที่วันหมดอายุแล้ว หรือวันผลิตนานเกินไป ไม่ควรซื้อ ตลอดจนหลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์แล้ว ควรบริโภคแคบหมูให้หมดโดยเร็ว เพื่อรักษาความสดใหม่และคุณภาพค่ะ 9. สังเกตบรรจุภัณฑ์ การสังเกตบรรจุภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการเลือกซื้อแคบหมูที่มีคุณภาพ เพราะบรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกและรักษาความกรอบของแคบหมูได้ บรรจุภัณฑ์ควรทำจากวัสดุที่แข็งแรงและปลอดภัยต่ออาหาร เช่น พลาสติกที่ได้มาตรฐาน หรือถุงซิปล็อคที่สามารถปิดผนึกได้สนิท บรรจุภัณฑ์ควรมีการปิดผนึกที่มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศและความชื้นเข้าไปสัมผัสกับแคบหมู ซึ่งจะทำให้แคบหมูนิ่มและไม่กรอบ บรรจุภัณฑ์ควรสะอาด ไม่มีรอยเปื้อนหรือรอยฉีกขาด บรรจุภัณฑ์ควรมีข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ น้ำหนัก วันผลิต วันหมดอายุ และข้อมูลของผู้ผลิต บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมีการเปิดผนึกแล้ว อาจทำให้แคบหมูสัมผัสกับอากาศและความชื้น ซึ่งจะทำให้แคบหมูนิ่มและไม่กรอบ แคบหมูที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นควรเลือกซื้อแคบหมูที่บรรจุในภาชนะที่ปิดมิดชิด ทำจากวัสดุที่แข็งแรงและปลอดภัยต่ออาหาร ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ให้แน่ใจว่าสะอาด ไม่มีรอยเปื้อน หรือรอยฉีกขาด และอ่านข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบส่วนประกอบ วันผลิต วันหมดอายุ และข้อมูลของผู้ผลิตค่ะ 10. เลือกซื้อแคบหมูที่บรรจุในถุงสูญญากาศ การเลือกซื้อแคบหมูที่บรรจุในถุงสูญญากาศเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการแคบหมูที่สดใหม่และสามารถเก็บไว้ได้นานค่ะ จากที่การบรรจุในถุงสูญญากาศจะช่วยลดปริมาณออกซิเจนในถุง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้แคบหมูเหม็นหืนและสูญเสียความกรอบ การลดปริมาณออกซิเจนจึงช่วยรักษาความสดใหม่ของแคบหมูได้นานขึ้น ถุงสูญญากาศจะช่วยป้องกันแคบหมูจากการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้แคบหมูมีความสะอาดและปลอดภัยต่อการบริโภค แคบหมูที่บรรจุในถุงสูญญากาศจะมีอายุการเก็บรักษาที่นานกว่าแคบหมูที่บรรจุในถุงธรรมดา เนื่องจากความชื้นและอากาศไม่สามารถเข้าไปสัมผัสกับแคบหมูได้ และถึงแม้ว่าการบรรจุในถุงสูญญากาศจะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของแคบหมูได้นานขึ้น แต่ก็ควรบริโภคแคบหมูภายในวันที่กำหนด หรือโดยเร็วที่สุดหลังจากเปิดถุง เมื่อเปิดถุงสูญญากาศแล้ว ควรเก็บแคบหมูในภาชนะที่ปิดมิดชิด เพื่อรักษาความกรอบและป้องกันการปนเปื้อน 11. ลองชิมรสชาติ การลองชิมแคบหมูก่อนตัดสินใจซื้อ ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการประเมินรสชาติและความกรอบของแคบหมูด้วยตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้คุณผู้อ่านเลือกรสชาติและลักษณะที่ตรงกับความชอบของคุณผู้อ่านได้มากที่สุดค่ะ โดยรสชาติของแคบหมูที่ดีควรมีความกลมกล่อม เค็ม มัน และมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ หากแคบหมูมีรสชาติขม เหม็นหืน หรือมีรสชาติแปลกปลอม ก็ไม่ควรซื้อ แคบหมูที่ดีควรมีความกรอบและแข็ง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความแห้งและไม่เหนียว หากแคบหมูนิ่มหรือเหนียว แสดงว่าอาจจะไม่สดใหม่ หรืออาจจะเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ทำให้แคบหมูสูญเสียความกรอบไป ระดับความเค็มของแคบหมูเป็นเรื่องส่วนบุคคล บางคนอาจชอบรสชาติเค็มมาก ในขณะที่บางคนอาจชอบรสชาติเค็มน้อยกว่า ดังนั้นการลองชิมจะช่วยให้เราเลือกระดับความเค็มที่ตรงกับความชอบของเราได้ ในขณะที่ชิมก็ควรดมกลิ่นด้วย กลิ่นของแคบหมูที่ดีควรหอมของเครื่องเทศและหนังหมูทอด หากมีกลิ่นเหม็นหืน หรือกลิ่นแปลกปลอม ก็ไม่ควรซื้อ อย่างไรก็ตามการลองชิมแคบหมูอาจไม่สามารถทำได้ในทุกร้านค้า บางร้านอาจมีนโยบายที่ไม่อนุญาตให้ลูกค้าลองชิมสินค้าก่อนซื้อ หากร้านค้าอนุญาตให้ลองชิม ควรลองชิมเพียงเล็กน้อย เพื่อประเมินรสชาติและความกรอบ หากไม่สามารถลองชิมได้ ควรสังเกตลักษณะภายนอก และสอบถามข้อมูลจากผู้ขาย เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ และนั่นคือ 11 เทคนิคสำหรับนำไปใช้ตอนเลือกซื้อแคบหมูค่ะ ได้ทุกที่ ทุกสูตรและทุกยี่ห้อค่ะ โดยหลายเทคนิคเป็นการสังเกตจากภายนอก และที่สำคัญ คือ อย่าลืมชิมแคบหมู หากเจ้านั้นมีตัวอย่างให้ชิม เพราะการทำแบบนี้จะช่วยให้เราได้ข้อมูลที่มากขึ้น และนำมาประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้นค่ะ โดยส่วนตัวผู้เขียนมีโอกาสได้ซื้อแคบหมูบ้าง ทั้งที่ตั้งใจซื้อจากตลาด กับหยิบมาเปิดรับประทานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหรือร้านส้มตำ ซึ่งผู้เขียนมักดูสีของแคบหมูเป็นอันดับแรก จากนั้นจะสัมผัสดูค่ะ และมักดมกลิ่นก่อนรับประทานเสมอ ยังไงก็ตามเทคนิคเดียวกันกับที่ผู้เขียนใช้ คุณผู้อ่านก็สามารถนำไปใช้ได้เหมือนกันค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/MWDMyBe0A3ap https://food.trueid.net/detail/BDNEQKmlx81q https://food.trueid.net/detail/XqgJwQ5wgWYR หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !