วิธีเลือกขนุนแกะแล้ว กรอบนอก นุ่มใน หวานอร่อย | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ขนุนสุกที่แกะวางขายพร้อมทาน เป็นผลไม้สดอีกรูปแบบที่หลายคนมักเลือกซื้อ เพราะมีความสะดวกและรวดเร็ว ประกอบกับราคามักเข้าถึงได้ง่ายกว่าการซื้อขนุนทั้งลูกค่ะ ที่ขนุนแบบนี้ผู้เขียนเองก็มีโอกาสได้เลือกซื้อบ้างเหมือนกันค่ะ ดังนั้นในบทความนี้เลยจะมาส่งต่อวิธีเลือกขนุนแกะแล้ว ที่จะได้พูดถึงในประเด็นที่ว่า แบบไหนกรอบนอก นุ่มใน และหวานอร่อยนะคะ งั้นเรามารู้จักไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าว่าต้องสังเกตยังไงดี ในเนื้อหาต่อไปนี้ค่ะ 1. ดูสีของเนื้อ สีของเนื้อขนุนเป็นตัวบ่งบอกถึงความสุกงอมและความหวานของขนุนได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยทั่วไปแล้วเนื้อขนุนที่สุกกำลังดีจะมีสีสันที่น่ารับประทาน ดังนี้ สีเหลืองทอง: เป็นสีที่บ่งบอกว่าขนุนสุกกำลังดี มีความหวานฉ่ำ เนื้อนุ่มละลายในปาก สีเหลืองอมส้ม: สีนี้อาจจะพบได้ในบางสายพันธุ์ของขนุน ซึ่งก็ยังคงมีความหวานอร่อยไม่แพ้กัน เนื้อดูฉ่ำน้ำ: เนื้อขนุนที่สุกกำลังดีจะดูฉ่ำน้ำ ไม่แห้งกร้าน หรือมีรอยช้ำ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความสดใหม่ 2. ดูความแน่นของของเนื้อ ความหนาแน่นของเนื้อขนุนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสดใหม่และคุณภาพของขนุนค่ะ เนื้อขนุนที่แน่น ไม่เละ ไม่ยุบตัวนั้น แสดงว่าขนุนลูกนั้นมีคุณสมบัติที่ดี เนื้อขนุนที่ยังสดใหม่จะมีความแน่น ไม่นิ่มยวบ เมื่อกดลงไปจะไม่ยุบตัวลงไปมากนัก เนื้อขนุนที่มีความหนาแน่นดี บ่งบอกว่าขนุนได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ถูกบีบอัด หรือกระทบกระเทือนมากจนเกินไป เนื้อขนุนที่แน่นมักจะมีรสชาติที่หวานอร่อยกว่าเนื้อขนุนที่นิ่มเละ เพราะเซลล์ของเนื้อยังคงสมบูรณ์ ทำให้รสชาติของขนุนเข้มข้นค่ะ ซึ่งวิธีสังเกตความหนาแน่นของเนื้อขนุนด้วยการใช้มือสัมผัส ให้ลองใช้ปลายนิ้วกดเบาๆ ที่เนื้อขนุน หากเนื้อขนุนมีความแน่น ไม่ยุบตัว แสดงว่าขนุนสดใหม่ค่ะ 3. ดมกลิ่น กลิ่นของขนุนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสุกงอมและคุณภาพของขนุนค่ะ ที่โดยทั่วไปแล้วขนุนสุกจะมีกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากกลิ่นของขนุนที่ยังดิบหรือบูดเสียค่ะ โดยกลิ่นของขนุนที่บ่งบอกถึงคุณภาพ มีดังนี้ กลิ่นหอมหวาน: เป็นกลิ่นที่บ่งบอกว่าขนุนสุกกำลังดี เนื้อในมีความหวานฉ่ำ และพร้อมรับประทาน กลิ่นเปรี้ยว: หากขนุนมีกลิ่นเปรี้ยว แสดงว่าขนุนเริ่มบูดเสียแล้ว เนื้อภายในอาจมีรอยช้ำหรือเน่าเสีย กลิ่นเหม็น: กลิ่นเหม็นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าขนุนเน่าเสียอย่างชัดเจน ไม่ควรนำมารับประทาน ไม่มีกลิ่น หากขนุนไม่มีกลิ่นเลย อาจเป็นเพราะขนุนยังดิบอยู่ หรืออาจจะบูดเสียแล้ว 4. ลองชิม การได้ชิมเนื้อขนุนก่อนซื้อ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบรสชาติ ความหวาน และความสดใหม่ของขนุนค่ะ หากร้านค้าอนุญาตให้ชิม ควรลองชิมเนื้อขนุนสักเล็กน้อย เพื่อเปรียบเทียบรสชาติและความหวานของแต่ละลูก เนื่องจากรสชาติของขนุนแต่ละลูกอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ความสุก และปัจจัยอื่นๆ การชิมจะช่วยให้คุณผู้อ่านได้ลิ้มลองรสชาติที่แท้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ เนื้อขนุนที่สดใหม่จะมีรสชาติหวานหอม ไม่เฝื่อน หรือมีรสชาติเปรี้ยว การชิมจะช่วยให้คุณผู้อ่านทราบได้ว่าขนุนสุกกำลังดีหรือไม่ หากขนุนสุกเกินไป เนื้อจะเละ และรสชาติอาจจะไม่หวาน โดยสิ่งที่ควรสังเกตขณะชิม ได้แก่ รสชาติ: รสชาติหวาน หอม มัน หรือมีรสชาติอื่นๆ ปน เนื้อสัมผัส: เนื้อนุ่ม ละเอียด หรือแข็งกระด้าง ความหวาน: หวานมาก หวานน้อย หรือหวานกำลังดี 5. ดูความสดของยาง การสังเกตสีของยางขนุน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ในการประเมินความสดใหม่ของขนุนค่ะ ยางขนุนที่สดใหม่จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่สังเกตได้ง่าย ดังนี้ สีขาวขุ่น: ยางขนุนที่เพิ่งไหลออกมาจากผล จะมีสีขาวขุ่นใสคล้ายน้ำนม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าขนุนยังสดใหม่และไม่บูดเสีย ไม่เหลืองหรือดำ: หากยางขนุนมีสีเหลืองหรือดำ แสดงว่ายางนั้นเริ่มออกซิไดซ์และเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจบ่งบอกว่าขนุนเริ่มแก่หรือบูดเสียแล้ว สีของยางขนุนสัมพันธ์โดยตรงกับความสดใหม่ของขนุน ยิ่งยางมีสีขาวขุ่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งบ่งบอกว่าขนุนนั้นสดใหม่มากขึ้นเท่านั้นค่ะ เมื่อขนุนเริ่มแก่หรือบูดเสีย ยางจะค่อยๆ เปลี่ยนสีจากขาวขุ่นเป็นเหลืองหรือดำ และยางขนุนที่มีสีผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าขนุนอาจติดเชื้อราหรือแบคทีเรีย 6. สังเกตเมล็ด เนื่องจากว่าตามธรรมชาติเมล็ดขนุนจะค่อยๆ สุกไปพร้อมๆ กับเนื้อขนุน การสังเกตเมล็ดจึงช่วยบ่งบอกถึงความสุกของผลขนุนได้ ดังนั้นการสังเกตเมล็ดขนุนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบ่งบอกถึงความสุกงอมของขนุนค่ะ โดยเมล็ดขนุนที่สุกกำลังดีจะมีลักษณะเฉพาะตัว ดังนี้ เมล็ดอ่อนนุ่ม: เมล็ดขนุนที่สุกกำลังดีจะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ไม่แข็ง เมื่อกดเบาๆ จะรู้สึกว่าเมล็ดมีความอ่อนตัว ทานได้: เมล็ดขนุนที่สุกสามารถนำมาต้มทานได้ โดยไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติม และมักจะมีรสชาติจะหวานมัน 7. เลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อขนุนจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณผู้อ่านได้ขนุนที่มีคุณภาพดี สดใหม่ และปลอดภัยต่อการบริโภคค่ะ ร้านค้าที่มีชื่อเสียง หรือตลาดสดที่คัดสรรวัตถุดิบดีๆ มักจะมีมาตรฐานในการคัดเลือกและจัดเก็บผลไม้ ทำให้คุณผู้อ่านมั่นใจได้ว่าจะได้ขนุนที่ดีที่สุดค่ะ ดังนั้นให้มองหาร้านค้าที่สะอาดและมีการจัดการที่ดี 8. ถามผู้ขาย การสอบถามผู้ขายโดยตรงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบความสดใหม่ของขนุน และเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน คุณผู้อ่านควรจะถามคำถามเหล่านี้ค่ะ ขนุนลูกนี้แกะมาเมื่อไหร่คะ: คำถามนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านทราบอายุของขนุน และประมาณการได้ว่าขนุนยังสดใหม่ดีอยู่หรือไม่ ขนุนพันธุ์อะไรคะ: ขนุนแต่ละพันธุ์จะมีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกัน การรู้พันธุ์จะช่วยให้คุณเลือกขนุนที่ถูกใจได้มากขึ้น ขนุนลูกนี้ปลูกที่ไหนคะ: การรู้แหล่งที่มาของขนุนจะช่วยให้คุณผู้อ่านทราบถึงคุณภาพของขนุนได้ในระดับหนึ่ง โดยสิ่งควรสังเกตขณะสอบถามเพิ่มเติมก็คือ สีหน้าและท่าทีของผู้ขาย: ผู้ขายที่มั่นใจในสินค้าของตน จะให้ข้อมูลกับคุณผู้อ่านอย่างตรงไปตรงมาและยินดีตอบคำถามทุกข้อ ความรู้ของผู้ขาย: ผู้ขายที่มีความรู้เกี่ยวกับขนุน จะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อและการดูแลรักษาขนุนได้อย่างละเอียด สภาพแวดล้อมของร้านค้า: ร้านค้าที่สะอาดและมีการจัดการที่ดี จะช่วยให้คุณผู้อ่านมั่นใจได้ว่าขนุนที่วางขายนั้นสดใหม่ 9. สังเกตบรรจุภัณฑ์ การสังเกตบรรจุภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณเลือกซื้อขนุนได้อย่างมั่นใจ เพราะบรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยรักษาความสดใหม่และคุณภาพของขนุนได้เป็นอย่างดี จากที่บรรจุภัณฑ์ที่สะอาดและปิดสนิทจะช่วยป้องกันไม่ให้ขนุนสัมผัสกับสิ่งสกปรก เชื้อโรคหรือแมลง บรรจุภัณฑ์บางชนิดสามารถควบคุมความชื้นภายในได้ ทำให้ขนุนไม่แห้งหรือเน่าเสียเร็ว และบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สามารถช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของขนุนได้นานขึ้นค่ะ และสิ่งที่ควรสังเกตในบรรจุภัณฑ์ เช่น ความสะอาด: บรรจุภัณฑ์ควรสะอาด ไม่มีรอยเปื้อนหรือรอยขีดข่วน ความแข็งแรง: บรรจุภัณฑ์ควรแข็งแรงพอที่จะป้องกันขนุนจากการกระแทก การปิดสนิท: บรรจุภัณฑ์ควรปิดสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปสัมผัสกับขนุน วัสดุที่ใช้: บรรจุภัณฑ์ควรทำจากวัสดุที่ปลอดภัยต่ออาหาร 10. ซื้อในปริมาณที่เหมาะสม การซื้อขนุนในปริมาณที่พอเหมาะเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณได้ทานขนุนที่สดใหม่และไม่ต้องทิ้งค่ะ หากซื้อขนุนมากเกินไป และเก็บไว้ไม่ถูกวิธี ขนุนอาจจะสุกเกินไป หรือเน่าเสียได้ก่อนที่จะได้รับประทาน โดยตัวอย่างที่สามารถนำมาใช้เป็นวิธีการประเมินปริมาณที่เหมาะสม เช่น วิธีการเก็บรักษาขนุนของร้านนั้น พิจารณาจำนวนสมาชิกในครอบครัว และประมาณการว่าจะใช้เวลาในการบริโภคขนุนทั้งหมดนานเท่าไหร่ค่ะ ซึ่งการเลือกซื้อขนุนในปริมาณที่พอดีกับการบริโภค ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ขนุนเสียคุณภาพค่ะ จบแล้วค่ะ กับเคล็ดลับดีๆ สำหรับเลือกขนุนสุกที่แกะขาย ที่ผู้เขียนเอก็ได้นำข้อมูลในนี้ไปใช้ด้วยเหมือนกัน โดยมักเลือกซื้อขนุนจากแหล่งที่นาเชื่อถือได้ก่อนเสมอค่ะ ที่มักจะลองกดดูเบาๆ ว่าขนุนยวงนั้นเนื้อแน่นไหม จากนั้นจะดูเรื่องของสีค่ะ ขนุนสีเหลืองมักเป็นขนุนที่ผู้เขียนได้ซื้อและทานบ่อยที่สุดค่ะ และมักซื้อมาแค่พอดีทานที่เวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะเคยสังเกตว่าขนุนสุกแล้วพอนำมาแช่ตู้เย็น ความอร่อยลดลงและมีเนื้อสัมผัสที่ไม่ค่อยชวนให้น่ารับประทานมากนักค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านก็อย่าลืมนำเคล็ดลับดีๆ ในนี้ไปใช้นะคะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/vgWnyW84zQm7 https://food.trueid.net/detail/4ovy2mKzmeaj https://food.trueid.net/detail/O7dmYXnN52m1 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !