วิธีเลือกแตงไทย หอมหวาน อร่อยตามธรรมชาติ | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล พอพูดถึงเรื่องความหลากหลายของอาหารในประเทศไทยเรา ไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ เพราะด้วยความที่เราเป็นประเทศเขตร้อน จึงพบว่ามีพืชผักและผลไม้หลายชนิด แตงไทยเป็นสิ่งที่พบได้ในประเทศไทยของเรา ที่ล่าสุดนั้นผู้เขียนมีโอกาสได้พูดคุยกับแฟนของน้าที่มาจากประเทศนอร์เวย์ ก็ได้ข้อมูลมาว่าที่นั่นไม่มีแตงไทยค่ะ หมายถึงแตงไทยแบบปลูกในดินของคนนอร์เวย์นะคะ ดังนั้นคนไทยเราถือว่าโชคดีที่มีแตงไทย แต่ในความโชคดีก็ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาปะปนมาด้วย เพราะพอพูดถึงการเลือกแตงไทย แบบไหนคุณภาพดี แบบไหนน่าซื้อ แบบไหนอร่อยตามธรรมชาติ มีความหอมและหวานละมุน หลายคนอาจจะยังมองภาพไม่ออกเลย จริงไหมคะ? ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับเคล็ดลับในการเลือกซื้อแตงไทยกันค่ะ โดยหลายวิธีการผู้เขียนก็ได้ประยุกต์ใช้ประจำ เพราะเป็นคนที่ชอบแตงไทยค่ะ และถ้าอยากรู้แล้วว่าต้องทำยังไงบ้าง เรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ กับเคล็ดลับที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1. ดูที่เปลือก สีเหลืองนวลหรือเหลืองอมเขียว เป็นสัญญาณว่าแตงไทยเริ่มสุกและมีรสชาติหวานค่ะ สีเหลืองที่เข้มขึ้นบ่งบอกถึงความสุกที่มากขึ้น หลีกเลี่ยงสีเขียวเข้ม เนื่องจากสีแบบนี้แสดงว่าแตงไทยยังไม่สุกและจะมีรสชาติจืด และต้องหลีกเลี่ยงสีน้ำตาลหรือมีรอยคล้ำ เพราะแตงไทยอาจจะสุกเกินไปหรือเริ่มเน่าเสียแล้ว และให้ดูเปลือกว่ามีลายร่างแหเล็กน้อยหรือไม่ เพราะลายร่างแหเพียงเล็กน้อยนี้ เป็นสัญญาณว่าแตงไทยสุกพอดีและมีเนื้อที่หวานฉ่ำค่ะ หลีกเลี่ยงลายร่างแหที่น้อยเกินไป เพราะแตงไทยอาจจะยังไม่สุก และให้หลีกเลี่ยงลายร่างแหที่มากเกินไปหรือมีรอยแตกขนาดใหญ่ เพราะแตงไทยอาจจะสุกเกินไปหรือเสียหายแล้วค่ะ หากที่เปลือกของแตงไทยที่มีรอยช้ำ หรือรอยแตกขนาดใหญ่ แบบนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงค่ะ 2. ดมกลิ่น ถ้าแตงไทยมีกลิ่นหอมหวานชัดเจน เป็นสัญญาณว่าแตงไทยสุกพอดีและมีรสชาติหวานอร่อย เพราะกลิ่นหอมจะชัดเจนขึ้นเมื่อแตงไทยสุกมากขึ้นค่ะ ซึ่งกลิ่นหอมนี้เกิดจากน้ำตาลและสารประกอบระเหยที่เกิดขึ้นในแตงไทยเมื่อสุกแล้ว และวิธีการดมกลิ่นของแตงไทยก่อนเลือกซื้อที่ดีที่สุด คือ ดมบริเวณขั้วหรือรอบๆ เปลือกแตงไทยค่ะ ถ้าได้กลิ่นหอมหวานชัดเจน แสดงว่าแตงไทยมีโอกาสสุกและอร่อย อย่างไรก็ตามในบางครั้งแตงไทยอาจมีกลิ่นอ่อนๆ เท่านั้น ซึ่งอาจสังเกตได้ยาก หากไม่แน่ใจก็ควรใช้วิธีอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การดูสีเปลือก การจับดู หรือการสังเกตขั้วค่ะ ในทางตรงกันข้ามถ้าดมกลิ่นแล้ว แต่ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย ก็แสดงว่าแตงไทยยังไม่สุกและจะมีรสชาติจืด เพราะตามธรรมชาตินั้นแตงไทยที่ยังไม่สุกจะไม่มีกลิ่นหอมหวานค่ะ และถ้าได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยว แบบนี้แตงไทยเริ่มเน่าเสีย กลิ่นเหม็นเปรี้ยวเกิดจากการหมักของแบคทีเรียในแตงไทย ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงการซื้อแตงไทยที่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เพราะอาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ค่ะ 3. จับดู แตงไทยที่สุกพอดีจะมีความแน่น เมื่อกดเบาๆ จะรู้สึกได้ถึงความนุ่มเล็กน้อย แต่ไม่นิ่มเละ ถ้าแตงไทยนิ่มเละ แสดงว่าสุกเกินไปและเนื้ออาจจะเละ ถ้าแข็งเกินไป แสดงว่ายังไม่สุกและจะมีรสชาติจืด แตงไทยที่สุกและมีเนื้อ แน่นจะมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับขนาดค่ะ ซึ่งการจับดูหรือลองยกแตงไทยขึ้นมา ถ้ามีน้ำหนักมาก แสดงว่ามีเนื้อแน่นและมีโอกาสสุกอร่อยค่ะ และวิธีการจับดูว่าแตงไทยน่าซื้อไหม ให้ทำตามนี้ค่ะ ใช้ฝ่ามือสัมผัสเบาๆ ทั่วทั้งลูกแตงไทย กดเบาๆ บริเวณกลางลูกเพื่อตรวจสอบความแน่น ซึ่งมีข้อควรระวัง คือ อย่ากดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้แตงไทยช้ำได้ และให้เปรียบเทียบความแน่นและน้ำหนักของแตงไทยหลายๆ ลูก เพื่อให้ได้แตงไทยที่สุกพอดีที่สุดค่ะ 4. ดูที่ขั้ว หลายคนยังไม่รู้ว่า ลักษณะของขั้วแตงไทยที่ดี คือ ขั้วแห้งและมีรอยแตกเล็กน้อย เพราะเป็นสัญญาณว่าแตงไทยสุกพอดีค่ะ จากที่ปกติเมื่อแตงไทยสุกเต็มที่ ขั้วจะเริ่มแห้งและมีรอยแตกเล็กน้อยตามธรรมชาติ ถ้าขั้วยังเขียวสด แสดงว่าแตงไทยยังไม่สุก อีกทั้งขั้วที่ยังเขียวสดบ่งบอกว่าแตงไทยยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวค่ะ และถ้าเจอว่าขั้วเน่าหรือมีรา แบบนี้แสดงว่าแตงไทยอาจจะเน่าเสียแล้ว ที่ควรหลีกเลี่ยงแตงไทยที่มีขั้วเน่าหรือมีรา เพราะอาจทำให้เนื้อแตงไทยเสียหาย 5. สังเกตรูปร่าง ให้เลือกแตงไทยที่มีรูปร่างสมบูรณ์ เนื่องจากรูปร่างที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงการเจริญเติบโตที่ดีและสม่ำเสมอค่ะ หลีกเลี่ยงแตงไทยที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวหรือมีรอยบุบ เนื่องจากรอยบุบหรือเบี้ยวอาจเกิดจากการกระแทกหรือการเก็บรักษาที่ไม่ดี ตลอดจนรอยบุบอาจทำให้เนื้อแตงไทยเสียหายและมีรสชาติไม่อร่อยค่ะ เลือกแตงไทยที่มีขนาดเหมาะสมกับสายพันธุ์ รูปร่างของแตงไทยอาจแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ โดยแตงไทยบางสายพันธุ์จะมีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่โดยสรุปแล้วการสังเกตรูปร่างเป็นเพียงหนึ่งในวิธีเลือกแตงไทย แต่ก็ควรใช้ร่วมกับวิธีอื่นๆ เพื่อให้ได้แตงไทยที่มีคุณภาพดีที่สุดค่ะ 6. ประเมินจากน้ำหนัก คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การประเมินแตงไทยจากน้ำหนักเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราเลือกแตงไทยที่สุกและมีเนื้อแน่นได้ดี แตงไทยที่สุกและมีเนื้อแน่นจะมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับขนาดของแตงไทยลูกนั้น แตงไทยที่มีน้ำหนักมากบ่งบอกว่ามีปริมาณน้ำและความหนาแน่นของเนื้อสูง ซึ่งเป็นสัญญาณของความสุกและคุณภาพที่ดี ส่วนแตงไทยที่ยังไม่สุกหรือสุกเกินไปจะมีเนื้อที่เบาและมีน้ำหนักน้อยกว่า และแตงไทยที่เก็บไว้นานหรือสุกเกินไปอาจสูญเสียน้ำ ทำให้มีน้ำหนักลดลง ดังนั้นเมื่อเลือกซื้อแตงไทย ควรลองยกแตงไทยหลายๆ ลูกเพื่อเปรียบเทียบน้ำหนัก และให้เลือกลูกที่มีน้ำหนักมากที่สุดเมื่อเทียบกับขนาดที่ใกล้เคียงกัน โดยควรพิจารณาน้ำหนักโดยเปรียบเทียบกับแตงไทยในสายพันธุ์เดียวกันค่ะ 7. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ การเลือกซื้อแตงไทยจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้แตงไทยที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยต่อสุขภาพค่ะ ตลาดสดเป็นแหล่งที่นิยมในการซื้อผลไม้สด รวมถึงแตงไทย ให้เลือกซื้อจากร้านค้าที่ดูสะอาด และควรสอบถามผู้ขายเกี่ยวกับแหล่งที่มาของแตงไทย เพื่อใช้ประเมินคุณภาพของแตงไทยที่เรากำลังเลือกซื้อค่ะ และการซื้อแตงไทยจากเกษตรกรโดยตรงเป็นวิธีที่ดีในการได้แตงไทยสดใหม่และมีคุณภาพดีค่ะ 8. เลือกตามฤดูกาล การเลือกแตงไทยตามฤดูกาลเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการได้แตงไทยที่มีรสชาติอร่อยและมีคุณภาพดีที่สุด เพราะผลไม้ตามฤดูกาลจะมีความสดใหม่และมีรสชาติที่ดีกว่าผลไม้ที่ปลูกนอกฤดูกาลค่ะ โดยแตงไทยเป็นผลไม้ที่ชอบอากาศร้อน ดังนั้นฤดูกาลหลักของแตงไทยคือช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมของประเทศไทยเรา โดยในช่วงฤดูร้อนนี้ แตงไทยจะมีรสชาติหวานฉ่ำและมีกลิ่นหอมมากที่สุดค่ะ 9. ฟังเสียง การฟังเสียงแตงไทยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณประเมินความสุกและความแน่นของเนื้อแตงไทยได้ค่ะ โดยเมื่อเคาะแตงไทยเบาๆ ถ้ามีเสียงทึบ แสดงว่าเนื้อแตงไทยแน่นและมีน้ำหนักมาก ซึ่งเป็นสัญญาณของความสุกและคุณภาพที่ดี แต่ถ้าเคาะแตงไทยแล้วได้ยินเสียงกลวง แสดงว่าเนื้อแตงไทยอาจจะไม่แน่น หรืออาจจะมีช่องว่างภายใน ซึ่งอาจบ่งบอกถึงความไม่สมบูรณ์ของเนื้อ หรืออาจจะสุกเกินไปค่ะ และวิธีการฟังเสียง มีดังนี้ ถือแตงไทยไว้ในมือข้างหนึ่ง และใช้นิ้วมืออีกข้างเคาะเบาๆ ที่เปลือกแตงไทย ฟังเสียงที่เกิดขึ้น และเปรียบเทียบกับแตงไทยลูกอื่นๆ อย่างไรก็ตามการฟังเสียงเป็นเพียงหนึ่งในวิธีประเมินความสุกของแตงไทย ควรใช้ร่วมกับวิธีอื่นๆ เช่น การดูสีเปลือก การดมกลิ่น และการจับดู เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น และความดังของเสียงอาจแตกต่างกันไปตามขนาดและสายพันธุ์ของแตงไทยค่ะ และทั้งหมดนั้นคือเทคนิคดีๆ ที่จำเป็นต้องใช้ตอนไปเลือกซื้อแตงไทยค่ะ โดยจะเห็นได้ว่ามีหลายวิธีการมากๆ ซึ่งวิธีการที่ผู้เขียนมักใช้ประจำคือการดูที่เปลือกของแตงไทยค่ะ และมักจับดูแตงไทยก่อนซื้อเสมอๆ และถ้าสามารถดมกลิ่นของแตงไทยได้ ผู้เขียนก็มักทำเสมอค่ะ ซึ่งล่าสุดได้ซื้อแตงไทยจากน้าคนข้างบ้าน ที่นำแตงไทยมาจากสวนของญาติมาขายที่ตลาด และปกติผู้เขียนก็ชอบซื้อแตงไทยจากที่คนในชุมชนปลูกได้ค่ะ เพราะแตงไทยแบบนี้หอมหวานอร่อยและสดใหม่ด้วย ยังไงนั้นหากคุณผู้อ่านต้องการแตงไทยอร่อยๆ ก็อย่าลืมนำเคล็ดลับข้างต้นไปใช้นะคะ และผู้เขียนหวังว่าเนื้อในบทความนี้จะสามารถเป็นแนวทางให้กับคุณผู้อ่านได้บ้าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน 8 วิธีเลือกข้าวโพดหวานต้ม แบบไหนดี น่าซื้อ ดูสะอาด วิธีเลือกน้ำตาลทรายขาว ดูยังไงดี 9 วิธีเลือกมันฝรั่ง หัวสดใหม่ ดูยังไงดี น่าซื้อ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !