Cr. ภาพปกจาก https://pixabay.com/images/id-537652/ สมัยก่อนนิยมขบเคี้ยวเมล็ดแตงโม ปัจจุบันเมล็ดทานตะวันก็เข้ามายืนหนึ่งแทนที่อย่างสง่างาม จากเดิมที่เคยเป็นแต่อาหารนกกับกระรอก เมล็ดทานตะวันคั่วหรืออบแห้ง ขบแกะเปลือกได้รสชาติ ยิ่งกินยิ่งเพลิน และยังสามารถกะเทาะเปลือก นำเมล็ดมาปรุงแต่งรสชาติได้หลายแบบ ทำให้กินง่าย ชมชอบทุกเพศทุกวัย ในร้านขนมร้านสะดวกซื้อวางขายสะดุดตา Cr. ภาพจาก https://pixabay.com/images/id-699266/ ดอกทานตะวันมีความสวยงามฉูดฉาด ดอกโตหันหน้าหาแสงแดด พอปลูกเป็นทุ่งนอกจากเก็บเกี่ยวเมล็ดขายได้ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้คนลุยแหวกเข้าไปถ่ายภาพ เมล็ดพันธุ์ทานตะวันที่เกษตรกรนิยมปลูก อาทิเช่นพันธุ์อาร์ตูเอล พันธุ์จัมโบ้ มักจะปลูกกันในพื้นที่เดียวกับที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวโพดแล้ว ก็จะเตรียมพื้นที่ปลูกทานตะวัน ไร่ทานตะวันไม่ต้องการน้ำปริมาณมากนัก มีโรคและแมลงศัตรูพืชน้อย ระยะเวลาปลูกประมาณ 2 เดือน เมล็ดทานตะวันนอกจากนำไปอบแห้งแล้ว ยังเป็นวัตถุดิบในการสกัดเป็นน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันของดอกทานตะวันมีลักษณะใสและไม่มีกลิ่น ซึ่งนิยมนำมาใช้ในอาหารผัดและทอด Cr. ภาพจาก https://pixabay.com/images/id-4508366/ เมล็ดทานตะวันมีคุณค่าทางอาหาร ให้พลังงาน มีไขมัน มีโปรตีนสูง ยังมีแร่ธาตุ ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบีสอง วิตามินอี ไนอะซิน การบริโภคเมล็ดทานตะวัน จึงช่วยลดไขมันในเลือด บำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ อีกทั้งยังช่วยในการขับถ่าย เนื่องจากเป็นธัญพืชมีเส้นใย การได้ขบเคี้ยวทำให้ช่วยคลายเครียดได้ด้วย เมล็ดทานตะวันที่ยังไม่กะเทาะเปลือก มีแบบเมล็ดทานตะวันอบเกลือ เมล็ดทานตะวันอบเนย เมล็ดทานตะวันอบวอลนัท เมล็ดทานตะวันอบพุทราจีน เมล็ดทานตะวันอบคาราเมล เมล็ดทานตะวันอบบ๊วย สำหรับคนที่ไม่อยากแกะเปลือก ก็มีแบบกะเทาะเปลือกแล้ว มีทั้งแบบกะเทาะเปลือกแล้วใส่เกลือเล็กน้อย แบบเมล็ดทานตะวันเคลือบธัญพืชใส่เครื่องปรุงรส เมล็ดทานตะวันกระเทาะเปลือกอบขิง เมล็ดทานตะวันกระเทาะเปลือกอบน้ำผึ้ง Cr. ภาพจาก https://pixabay.com/images/id-1139/ ดูจากสินค้าที่มีวัตถุดิบเป็นเมล็ดทานตะวันแล้ว ถือว่าเป็นยุคทองของเมล็ดทานตะวันอย่างแท้จริง คนชอบขบเคี้ยวมีให้เลือกมากมาย ทั้งหน้าร้านและสินค้าขายแบบออนไลน์