หากพูดถึงเมนูอาหารเหนือแล้วละก็ คนทั่วไป คงจะนึกถึงเมนูยอดฮิต อย่าง ข้าวซอย น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ขนมจีนน้ำเงี้ยว ไส้อั่ว ลาบคั่ว หรือ แกงฮังเล แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่า อาหารเหนือบ้าน ๆ ที่ชาวบ้านทำทานกันในชีวิตประจำวันนั้น ส่วนมากจะเป็นเมนูที่คนทั่วไปไม่ค่อยมีโอกาสได้ลิ้มลองตามร้านอาหารกันสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าเมนูเหล่านั้นแปลกประหลาด หรือทานยากสำหรับคนทั่วไป แต่อาจเป็นเพราะตลาดคงไม่ได้มีพื้นที่มากมายให้ทุกจานได้มีโอกาสเป็นเมนูที่คนรู้จักหรือนิยมชมชอบ แต่ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเพียงเมนูบ้าน ๆ ที่ไม่ใช่เมนูขายดีหรือเป็นที่รู้จักของคนในท้องถิ่นอื่น ๆ มีหลายเมนูทีเดียวที่จัดว่าเป็นอาหาร HEALTHY ดีต่อสุขภาพอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเห็นได้ชัดจากวัตถุดิบที่ใช้ และจากการปรุงที่ค่อนข้างง่าย ไม่ซับซ้อน ในบทความนี้ ขอนำเสนอ 4 เมนู อาหารเหนือบ้าน ๆ ที่ทานอร่อย และดี๊ดีต่อสุขภาพค่ะ 1. "แก๋งปี๋" (แกงหัวปลี) คงพอเดากันได้จากชื่อ ว่าวัตถุดิบหลักของเมนูนี้ก็คือ "หัวปลี" นั่นเอง นอกจากหัวปลีที่อุดมไปด้วยแคลเซี่ยมจะมีดีเรื่องการช่วยขับน้ำนมอย่างที่คนส่วนมากทราบแล้ว หัวปลียังมีสรรพคุณเด็ด ๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น บำรุงเลือด ช่วยรักษาโรคกระเพาะ มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ การนำหัวปลี (ส่วนเนื้ออ่อนด้านใน) มาแกงแบบเหนือนั้นไม่ได้ยุ่งยาก โดยมากนิยมแกงใส่ปลาแห้ง (หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ตามชอบ แต่นิยมย่างเนื้อสัตว์ให้แห้งก่อน บางบ้านใช้แคบหมูแทนเนื้อสัตว์) และโขลกพริกแกงง่าย ๆ ที่ประกอบด้วยพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง ถั่วเน่า กะปิ (ปรุงรสเพิ่มตามชอบ) และเมื่อแกงใกล้สุก เติมผักซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ของแกงหัวปลีอีก 3 อย่าง คือ มะเขือเทศ ชะอม และใบชะพลู เมนูนี้จึงเต็มไปด้วยวัตถุดิบที่มีคุณค่าทางสารอาหาร แถมรสชาติอร่อยกลมกล่อม น้ำแกงมีสีขุ่นจากน้ำนมหัวปลี หอมปลาย่างและผักใบสองชนิดที่เพิ่มเข้าไป และที่สำคัญ เมนูนี้ไม่เพิ่มความอวบให้แก่คุณ ๆ ที่กำลังรักษาหุ่นเพรียวแต่อย่างใด เคล็ดลับพิเศษสำหรับแก๋งปี๋ : ไม่ควรนำหัวปลีไปแช่น้ำก่อนแกง แต่ให้ใช้วิธีทุบหัวปลีทั้งหัวก่อนแกะ ทุบพอแตกแล้วกรีดเอาเนื้อด้านในโดยแยกแกนหัวปลีทิ้ง ไม่ต้องล้างเนื้อหัวปลี หั่นใส่หม้อ (น้ำแกงเดือด ๆ ) ทันทีที่แกะ 2. ต๋ำบะเขือ (ตำมะเขือยาว) แม้หน้าตาของเมนูนี้จะมีความคล้ายกับน้ำพริกหนุ่มเอามาก ๆ แต่เมนู "ตำมะเขือ" นี้มีวัตถุดิบหลักเป็นมะเขือยาวย่างสุก โดยเมื่อย่างมะเขือยาวสุกดีแล้ว แกะเอาเปลือกออก นำเนื้อมะเขือมาโขลกเบา ๆ รวมกับ พริกย่างสุก (ใช้พริกหนุ่มและพริกชี้ฟ้าปนกัน) กระเทียมย่างสุก และกระเทียมสดเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือตามชอบ เมื่อชิมรสพอดีแล้ว ใส่ใบขิงอ่อนซอยละเอียดลงไป จะให้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมนูนี้ (ใบขิงอ่อนถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของเมนูตำมะเขือยาว อาจเป็นวัตถุดิบที่ไม่ได้หาง่ายในทุกพื้นที่ แต่ชาวบ้านส่วนมากมีต้นขิงในบ้าน) สุดท้ายโรยด้วยผักชีต้นหอมซอย คนเหนือนิยมทานคู่สะระแหน่ และแมงลัก ซึ่งเป็นผักเคียงที่เข้ากั๊นเข้ากัน และด้วยความที่มะเขือยาวเป็นผักที่มีใยอาหารค่อนข้างมาก และมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ เมนูนี้จึงถือเป็นอีกเมนูที่ปรุงแสนง่าย อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย และทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนด้วยจ้า เคล็ดลับพิเศษสำหรับต๋ำบะเขือ : ปรุงรสเค็มด้วยเกลือแทนน้ำปลา จะทำให้เมนูนี้คงกลิ่นหอมของวัตถุดิบหลักไว้เป็นอย่างดี 3. น้ำพริกป๋า (น้ำพริกปลา) "กินข้าวน้ำพริก สิจ๊ะ ถึงได้สะได้สวย" เนื้อเพลงท่อนนี้ช่วยยืนยันความ HEALTHY ของอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิด และเป็นเมนูที่คนทั่วไปทำรับประทานได้ง่าย ๆ เองที่บ้าน "น้ำพริกปลา" แบบบ้าน ๆ ของคนเหนือจานนี้สามารถใช้เนื้อปลานิล ปลาช่อน หรือปลาดุก ก็ได้ทั้งนั้น โดยต้มเนื้อปลาให้สุก แกะเอาเฉพาะส่วนเนื้อ (และไม่เอาหนังปลา) นำเนื้อปลามาโขลกกับพริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียม ที่ย่างสุกแล้ว ปรุงรสด้วยเกลือตามชอบ โรยด้วยต้นหอมผักชีซอย เวลารับประทานนิยมบีบมะนาวเล็กน้อย และทานคู่กับแตงกวา ใบบัวบก และผักสดอื่น ๆ ตามชอบ เมนูนี้จึงเป็นอีกเมนู เพื่อสุขภาพที่ไม่ต้องอธิบายให้มากความ เพราะวัตถุดิบหลักคือปลา และมีผักต่าง ๆ ที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ และยังเป็นเมนูที่ไร้ไขมันด้วยค่าาา เคล็ดลับพิเศษสำหรับน้ำพริกปลา : ขณะที่ต้มเนื้อปลา ใส่ผงขมิ้นลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาวของปลา 4. ป๋าแอ๊บ (หมกปลาแบบเหนือ) "แอ๊บ" (ภาษาเหนือ) เป็นคำเรียกประเภทการปรุงแบบห่อด้วยใบตองแล้วทำไปย่างไฟให้สุก (หมก) เมนูนี้อาจใช้ความพิถีพิถัน และมีรายละเอียดมากหน่อย แต่นับเป็นอีกเมนูที่ทั้ง HEALTHY และรสชาติชวนฟิน ถือว่าคุ้มค่ากับการใช้เวลาลงมือทำ โดยมากนิยมใช่เนื้อปลาดุก (แต่ก็สามารถใช้ปลาชนิดอื่นได้เช่นกัน) หั่นชิ้นกำลังดี ไม่หนาเกินไป นำมาคลุกในเครื่องแกงแบบเหนือที่โขลกไว้แล้ว ซึ่งประกอบไปด้วย ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง (หรือใช้พริกสดก็ได้) กะปิ ผงขมิ้น และเกลือเล็กน้อย และเพิ่มผักชีต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย และมะเขือเทศหั่นบาง ๆ ตอนคลุกเนื้อปลาในเครื่องแกง จากนั้นนำเนื้อปลาที่คลุกเครื่องแกงดีแล้วมาห่อใบตอง นำไปย่างไฟอ่อนจนสุก จะได้หมกเนื้อปลาที่หอมเครื่องแกงและกลิ่นใบตอง ทานกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยอร่อยเหาะ และยังคงเป็นเมนูที่ไม่พาอ้วน แถมได้ประโยชน์จากสมุนไพรหลากชนิดในเครื่องแกงด้วยนะเออ เคล็ดลับพิเศษสำหรับป๋าแอ๊บ : ห่อใบตองหลาย ๆ ชั้น และย่างไฟอ่อน ๆ ให้เนื้อปลาสุก (ภาพประกอบโดยผู้เขียน)