สวัสดีค่ะทุกคน... คราวนี้นอกจากรีวิวเรื่องกินแล้ว คราวนี้จะมาแนะนำเรื่องกินค่ะ แน่นอนว่าตามที่เห็นในเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพนั้น จุดมุ่งหมายของทุกคนต้องการคือ...ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดี ต่อต้านอนุมูลอิสระได้ และสามารถลดอาการของโรคอันเนื่องมาจาก NCDs ได้ หลายคนคงเชื่อกันมาอย่างนั้นเต็ม ๆ แต่ก็มีไม่น้อยที่ยังเชื่อว่าผักผลไม้นี้ดี แต่ต้องซื้อเฉพาะชนิดที่แพง ๆ บ้าน ๆ ไม่ต้องซื้อเลยไม่มีประโยชน์ อย่าลืมว่าไม่ว่าจะแพงหรือไม่แพง มันคือผักผลไม้ที่ให้สารอาหารที่มีประโยชน์ทั้งสิ้น Credit pic : https://cdn.pixabay.com/photo/2019/04/04/01/02/celery-juice-4101755__480.jpg น้ำผักที่ถูกมองข้ามก็คือ...น้ำคื่นช่าย (ขึ้นฉ่าย) หรือ Celery Juice เป็นน้ำผักที่นิยมใส่สุกี้ ใส่กับชาบู แต่ในขณะเดียวกัน มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก โดยประโยชน์ของมันมีดังนี้ 1. มีโพแทสเซียมสูง น้ำคื่นช่ายมีโพแทสเซียมสูง ช่วยในเรื่องการเต้นของหัวใจ และไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดความดันโลหิตให้กลับมาปกติในกรณีที่มีภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension) อีกทั้งสามารถดื่มหลังออกกำลังกายเพื่อลดการเกิดตะคริว (Cramp) 2. ต่อต้านอนุมูลอิสระ ด้วยวิตามินซีเป็นวิตามินละลายในน้ำ จะต้องมีการเสริมอยู่ตลอด แล้วคื่นช่ายก็มีวิตามินซีสูง ช่วยต้านหวัด บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง และช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง เนื้อเยื่อเกี่ยวพันร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) 3. ตัว Detox ชั้นดี น้ำคื่นช่ายมีไฟเบอร์สูงช่วยอุ้มน้ำดีขึ้น กระตุ้นการขับถ่ายให้เป็นปกติ อีกทั้งยังมีฤทธิ์ช่วยขจัดคอเลสเตอรอลในเลือด เหมาะสำหรับดื่มในช่วงเช้าเพื่อกำจัดของเสียที่ตกค้างในร่างกาย เช่น อุจจาระ 4. บำรุงร่างกาย คื่นช่ายมีโฟเลตสูง ช่วยบำรุงเลือด บำรุงสมอง ให้สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา Credit pic : https://pixabay.com/photos/green-juice-cabbage-apple-green-769129/ วิธีการรับประทาน 1. ล้างคื่นช่ายให้สะอาด แล้วผึ่งไว้ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ พอสะเด็ดน้ำดีแล้วค่อยนำมาหั่น 2. ผสมคื่นช่ายที่หั่นไว้ ลงในโถปั่นที่ใส่น้ำในปริมาณ 450 ml ปั่นในอัตราส่วนของน้ำและคื่นช่าย ตามปริมาณดังนี้ - อัตราส่วนน้ำและคื่นช่าย 2:1 ดื่มเพื่อลดระดับความดันในกลุ่มความดันโลหิตสูง Hypertension หรือความดันโลหิตสูง - อัตราส่วนน้ำและคื่นช่าย 1:1 ดื่มเพื่อช่วยระบบการย่อยอาหารและการขับถ่าย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งสิ่งแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดมะเร็ง (Cancer) 3. โดยปกติร่างกายควรได้รับผักผลไม้ 3-4 สีโดยประมาณ เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารครบ ควรผสมผักผลไม้สีอื่นเข้าไปด้วย เช่น มะนาว บีทรูท ฟักทอง แครอท ฯลฯ หรือผสมให้เหมือนสมูทตี้ (Smoothie) เพื่อให้มีความหลากหลายทางโภชนาการมากขึ้น ไม่จำเจ 5. หากไม่มีคื่นช่ายฝรั่ง ใช้คื่นช่ายไทยแทนได้ คุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างกันเลย ข้อควรระวัง ไม่ควรให้ดื่มน้ำคื่นช่ายในกรณีที่มีภาวะเสี่ยง 1. ผู้สูงอายุ เนื่องจากไตเสื่อมสภาพ จะกรองของเสียออกได้ไม่ดี เสี่ยงต่อภาวะเลือดเป็นพิษง่าย 2. สตรีมีครรภ์ 3. ผู้ที่เป็นความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) 4. ผู้ที่มีปัญหาเรื่องไต หรือต้องฟอกไต ภายใต้การดูแลของแพทย์ Credit pic : https://image.shutterstock.com/image-photo/blended-green-smoothie-ingredients-superfood-260nw-572397712.jpg อย่าลืมว่าน้ำคื่นช่ายไม่ได้เป็นยารักษาโรคแต่อย่างใด ทั้งนี้ควรอยู่ในความดูแล และความเห็นสมควรของแพทย์ด้วยเช่นกัน นี่ก็เป็นแนวทางในการดื่มน้ำคื่นช่าย เพราะส่วนตัวชอบปั่นดื่มแบบเพียว ๆ แต่ก็ลองสลับปั่นกับอย่างอื่น แต่ถ้าจะให้ดี หากจะกินเพื่อลดไขมัน ควรกินแบบมีกากใย เพราะจะช่วยให้ลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ Yo-Yo Effect อีกด้วย ผู้เขียนหวังว่าจะเป็นแนวทางที่ดีในการดื่มน้ำผักผลไม้ เพื่อสุขภาพที่ดี และที่สำคัญ เลือกดื่มตามสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลไม่ต้องตามแฟชั่น อยากให้มองเหตุและผลเยอะ ๆ เอาเท่าที่เหมาะสมกับตัวเองก็พอค่ะ ขอจบบทความเพียงเท่านี้...บ๊ายบาย :) Credit pic ภาพปก : https://www.canva.com/images/celery/