วิธีเลือกพริกขี้หนูสวน มาทำอาหาร สดใหม่ น่าซื้อ | บทความโดย Pchalisa พริกขี้หนูสวนเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ขาดไม่ได้ในครัวไทย ไม่ว่าจะเป็นการทำน้ำพริก แกงหรืออาหารรสจัดต่างๆ หรือแม้แต่การนำพริกขี้หนูสวนมาทานเป็นผักเพื่อเพิ่มความเผ็ด เช่น สาคูไส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ เป็นต้น ดังนั้นเราจึงพบเห็นการขายพริกขี้หนูสวน ที่พอจะพูดถึงเรื่องการเลือกพริกขี้หนูสวนมาใช้นั้น ก็อาจดูเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ต้องเลือกอย่างถูกวิธีเท่านั้น ดังนั้นในบทความนี้เราจะมารู้เคล็ดลับดูพริกขี้หนูสวนมาทำอาหารกันค่ะ โดยเราจะมารูกันว่าแบบไหนสดใหม่ คุณภาพดีและน่าซื้อ และได้พริกขี้หนูสวนที่มีรสชาติเผ็ดจัดจ้าน จนทำให้เมนูอาหารของเราอร่อยยิ่งขึ้นค่ะ และต่อไปนี้คือแนวทางเลือกพริกขี้หนูสวนค่ะ 1. ดูสีสัน เนื่องจากสีของพริกจะเปลี่ยนไปตามระดับความสุก หากสีไม่สม่ำเสมอ อาจบ่งบอกว่าพริกถูกเก็บเกี่ยวเร็วเกินไปหรือเก็บไว้นานเกินไป ดังนั้นการสังเกตสีสันของพริกขี้หนูสวนสด เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการประเมินความสดใหม่ค่ะ ซึ่งสีที่สดใสบ่งบอกว่าพริกเพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ และยังคงความสดอยู่ โดยเราต้องเลือกซื้อพริกขี้หนูสวนที่สุกแล้วจะมีสีแดงสดใสทั่วทั้งผล ไม่มีรอยด่างหรือจุดสีขาว แต่ถ้าชอบพริกขี้หนูสวนสีเขียว พริกแบบนี้จะมีสีเขียวเข้มสดใสทั่วทั้งผล ผิวเรียบเนียนค่ะ และถ้าเจอว่าพริกเริ่มเหี่ยวหรือเน่าเราจะเห็นพริกมีสีซีดจาง ไม่สดใสเหมือนพริกสดใหม่ค่ะ ถ้าพริกขี้หนูมีรอยด่างสีน้ำตาลหรือดำบ่งบอกถึงการติดเชื้อราหรือเน่าเสีย และพริกที่มีสีไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นเพราะการเก็บเกี่ยวที่ไม่เหมาะสมหรือการเก็บรักษาที่ไม่ดีค่ะ 2. สัมผัสผิว การสัมผัสผิวพริกเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญในการเลือกซื้อพริกขี้หนูสวนสดค่ะ การสัมผัสจะช่วยให้เราประเมินความสดและคุณภาพของพริกได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นค่ะ โดยผิวพริกควรเรียบลื่น ไม่มีรอยขรุขระหรือรอยแตก เมื่อกดเบาๆ ที่ตัวพริก เนื้อพริกควรมีความแน่น ไม่ยุบตัว หรือรู้สึกนิ่ม ผิวพริกไม่ควรมีรอยเหี่ยว หรือมีลักษณะแห้งกร้าน เมื่อกดแล้วเนื้อพริกควรคืนตัวกลับมาสู่สภาพเดิมได้ค่ะ เนื่องจากว่าพริกที่เก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ จะมีเนื้อแน่นและผิวเรียบเนียน หากพริกเริ่มเหี่ยวหรือเน่า เนื้อจะนิ่มและยุบตัว พริกที่สดใหม่จะมีปริมาณน้ำในตัวสูง ทำให้เนื้อแน่นและมีน้ำหนัก แต่ถ้าพริกถูกเก็บรักษาในสภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิสูงเกินไป หรือความชื้นต่ำเกินไป จะทำให้ผิวพริกเหี่ยวและเนื้อนิ่มค่ะ และตัวอย่างผิวพริกขี้หนูสวนที่ไม่น่าซื้อ ได้แก่ ผิวเหี่ยว: พริกที่มีผิวเหี่ยวแสดงว่าสูญเสียน้ำและเริ่มแห้ง เนื้อนิ่ม: พริกที่มีเนื้อนิ่มเมื่อกด อาจเนื่องมาจากการเก็บไว้นานเกินไป หรือการบูดเสีย มีรอยยุบ: รอยยุบที่ผิวพริกบ่งบอกว่าพริกถูกกระแทกหรือบีบแรง 3. ดมกลิ่น กลิ่นของพริกขี้หนูสวนสดเป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้ความสดใหม่และคุณภาพของพริกค่ะ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของพริกขี้หนูสวนจะช่วยให้เราแยกแยะได้ว่าพริกนั้นสดใหม่หรือไม่ และมีคุณภาพดีเพียงใด พริกที่สูญเสียความสดใหม่ไปแล้ว จะไม่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยกลิ่นของพริกขี้หนูสวนสดที่ดีควรมีลักษณะดังนี้ค่ะ กลิ่นหอมฉุน: กลิ่นหอมของพริกขี้หนูสวนจะมีความฉุนเล็กน้อย เป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างจากพืชชนิดอื่นๆ กลิ่นสดชื่น: กลิ่นของพริกสดใหม่จะให้ความรู้สึกสดชื่น ไม่เหม็นอับหรือมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ไม่มีกลิ่นแปลกปลอม: พริกที่เน่าเสียหรือเก็บไว้นานเกินไป จะมีกลิ่นเหม็นอับ หรือมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวปนอยู่ กลิ่นเหม็นอับหรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพริกเริ่มบูดเสีย 4. สังเกตว่ามีรอยช้ำหรือรอยแมลงกัดกิน คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? การสังเกตรอยช้ำและรอยแมลงกัดกินเป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกซื้อพริกขี้หนูสวนสด เพราะจะบ่งบอกถึงคุณภาพและความสดใหม่ของพริกได้เป็นอย่างดี จากที่รอยช้ำบนพริกขี้หนูสวน มักเกิดจากการกระแทก การบีบอัดหรือการถูกกระแทกขณะขนส่ง ที่จะพบว่าเป็นรอยสีม่วงเข้มหรือน้ำตาลเข้ม อาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ โดยผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ก็คือ รอยช้ำจะทำให้เนื้อพริกเสียหาย ส่งผลต่อรสชาติและอายุการเก็บรักษา ดังนั้นสังเกตผิวพริกให้ทั่วทุกด้าน หากพบรอยช้ำ ควรหลีกเลี่ยงการเลือกซื้อค่ะ และสำหรับรอยแมลงกัดกินบนพริกขี้หนูสวนนั้น มักเกิดจากแมลงต่างๆ เช่น เพลี้ยไฟ ไรแดง หรือหนอนเจาะผล กัดกินเนื้อเยื่อของพริก ที่จะมีลักษณะเป็นรอยกัดเล็กๆ สีขาวหรือน้ำตาล อาจมีรูเล็กๆ หรือร่องรอยของแมลง พอเป็นแบบนั้นจะทำให้พริกเสียหาย เนื้อในเน่าเสีย และอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน ที่เราควรสังเกตผิวพริกให้ทั่วทุกด้าน โดยเฉพาะบริเวณขั้วและปลายของพริกค่ะ 5. สังเกตขั้ว การสังเกตขั้วพริกขี้หนูสวนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราประเมินความสดใหม่ของพริกได้ค่ะ ขั้วพริกที่แข็งแรงและสดใสจะบ่งบอกว่าพริกถูกเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ และยังคงความสดอยู่ ที่เราต้องเลือกพริกที่มีลักษณะตามนี้ค่ะ ได้แก่ ขั้วพริกควรติดแน่นกับตัวพริก ไม่หลุดล่อนง่าย เมื่อดึงเบาๆ ขั้วพริกไม่ควรหลุดออกจากตัวพริก เลือกดูขั้วพริกที่สดใหม่จะมีสีเขียวสดใส ไม่เหลืองหรือมีรอยด่าง และขั้วพริกไม่ควรมีรอยช้ำหรือรอยแตกค่ะ หากพริกถูกเก็บรักษาในสภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิสูงเกินไป หรือความชื้นต่ำเกินไป ขั้วพริกจะเหี่ยวและหลุดล่อนง่าย อีกทั้งพริกที่ถูกขนส่งอย่างรุนแรง ขั้วพริกอาจได้รับความเสียหายและหลุดออกจากตัวพริกได้ค่ะ 6. เลือกตามขนาด ขนาดของพริกขี้หนูสวนนั้นสัมพันธ์โดยตรงกับความเผ็ดและการนำไปใช้ประกอบอาหารค่ะ ที่โดยทั่วไปแล้วพริกขี้หนูสวนจะมีขนาดเล็กถึงกลาง และความเผ็ดก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดด้วย และเหตุผลที่ขนาดของพริกส่งผลต่อความเผ็ด เพราะว่าแคปไซซินที่เป็นสารที่ทำให้พริกมีรสเผ็ด ที่โดยทั่วไปในพริกขนาดเล็กจะมีปริมาณแคปไซซินสูงกว่าพริกขนาดใหญ่ จึงทำให้มีรสเผ็ดจัดกว่า ตลอดจนพริกขนาดเล็กมักจะมีเนื้อพริกที่หนาแน่นกว่า ทำให้เมื่อนำไปปรุงอาหารจะให้รสเผ็ดเข้มข้นกว่าค่ะ โดยความสัมพันธ์ระหว่างขนาดและความเผ็ด เป็นดังนี้ พริกขี้หนูสวนขนาดเล็ก มักจะมีรสเผ็ดจัดจ้าน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติเผ็ดจัด หรือใช้ในการปรุงอาหารที่ต้องการรสชาติเผ็ดเข้มข้น เช่น น้ำพริกต่างๆ เครื่องจิ้มหรือการทำอาหารรสจัด พริกขี้หนูสวนขนาดกลาง จะมีความเผ็ดปานกลาง ไม่เผ็ดจัดมากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรสชาติเผ็ดที่พอดี หรือใช้ในการปรุงอาหารที่ต้องการความเผ็ดแบบกลมกล่อม เช่น แกงส้ม หรืออาหารประเภทยำค่ะ และคำแนะนำในการเลือกขนาดพริกให้เหมาะสมกับเมนูอาหารต่างๆ มีดังนี้ เมนูที่ต้องการความเผ็ดจัด ให้เลือกพริกขี้หนูสวนขนาดเล็ก เมนูที่ต้องการความเผ็ดปานกลาง ควรเลือกพริกขี้หนูสวนขนาดกลาง เมนูที่ต้องการปรับระดับความเผ็ด สามารถผสมพริกขี้หนูสวนขนาดเล็กและขนาดกลางเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ระดับความเผ็ดที่ต้องการ 7. สังเกตใบพริก ในบางครั้งตอนเราไปซื้อพริกขี้หนูสวนจะมีใบติดมาด้วย ที่หลายคนยังไม่รู้ว่าการสังเกตใบพริกที่ติดมากับพริก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราประเมินความสดใหม่ของพริกได้ค่ะ โดยให้เลือกใบพริกที่สดและแข็งแรงจะบ่งบอกว่าพริกถูกเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ และยังคงความสดอยู่ และใบพริกไม่ควรมีรอยเหี่ยว หรือดูแห้งกรอบ ที่ใบพริกไม่ควรมีรอยด่างดำ รอยไหม้ หรือรอยกัดจากแมลง 8. สังเกตเมล็ด การสังเกตเมล็ดพริกเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราประเมินความสดใหม่ของพริกได้ค่ะ โดยเฉพาะพริกขี้หนูสวนที่มักมีเมล็ดติดอยู่ภายใน เมื่อเมล็ดเรียงตัวสวยงามและติดแน่น จะบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของผลพริก เนื่องจากเมล็ดพริกที่เรียงตัวสวยงามและติดแน่น แสดงว่าพริกถูกเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม และยังคงความสดใหม่ เมล็ดพริกที่สมบูรณ์จะช่วยให้เราได้พริกที่มีรสชาติอร่อยและเผ็ดจัดจ้าน และพริกที่ได้รับการดูแลอย่างดี จะมีเมล็ดที่สมบูรณ์และแข็งแรง พริกขี้หนูสวนที่ดีควรมีเมล็ดพริกควรมีสีสันสดใส ไม่ซีดจาง เมล็ดพริกไม่ควรมีรอยแตก รอยบุบ หรือรอยเน่าเสีย สำหรับพริกที่มีเมล็ดไม่สมบูรณ์ อาจมีรสชาติที่จืดชืด หรือความเผ็ดลดลง และพริกที่มีเมล็ดเสียหาย จะเน่าเสียได้เร็วกว่าพริกที่สมบูรณ์ค่ะ และนั่นคือ 8 เคล็ดลับเลือกพริกขี้หนูสวนสดใหม่มาทำอาหารนะคะ ที่ไม่ได้ยากจนเกินไปที่จะนำไปใช้ใช่ไหมคะ? อย่างไรก็ตามตอนไปเลือกซื้อพริกชนิดนี้แนะนำว่า ให้ปรับใช้หลายเคล็ดลับไปพร้อมกัน เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เราเลือกพริกขี้หนูสวนได้เร็วขึ้น และทำให้เราได้พริกขี้หนูสวนคุณภาพดีแบบไม่จกตาได้จริงค่ะ ที่การดูใบที่ติดมาด้วยเป็นสิ่งที่ผู้เขียนทำก่อนเสมอ จากนั้นจะดูเรื่องสีของพริก ขั้วของพริกและจับดูความแน่นของพริกค่ะ ที่พบว่าก็ได้พริกขี้หนูสวนคุณภาพดีเสมอ ที่โดยส่วนมากมักเลือกพริกขี้หนูสวนมาทำน้ำพริกกะปิ ส่วนเมนูอื่นๆ ใช้พริกชนิดนี้แค่เพียงบางครั้งค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://news.trueid.net/detail/dkD3jKXr4A3G https://food.trueid.net/detail/n6RDrQY4yxr0 https://food.trueid.net/detail/6zqlKJj2yy5R หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !