วันนี้ ผู้เขียนเอาเมนูน้ำพริกกะปิ แบบง่าย ๆ มาฝาก นะครับ เผื่อเป็นไอเดียสำหรับผู้ใช้แรงงานอย่างเรา ๆ ได้นำไปใช้ทำกินกัน เพราะได้ทั้งความสะดวก ประหยัด ปลอดภัย แถมอร่อยด้วยนะ เพื่อน ๆ ก็ได้กินกันด้วย ปกติแล้วที่ทำงานของผู้เขียนจะมีกับข้าวฟรีให้สองมื้อคือมื้อเช้ากับมื้อเที่ยง ส่วนใครที่อยู่รอบกะดึกกลางคืน ก็จะมีให้ในส่วนนั้น เวลาทานข้าวกันตอนเที่ยง แต่ละแผนกก็จะมาทานกันที่โรงอาหารหรือที่เรียกกันว่าแคนทีน โต๊ะนี้ แผนกนี้ โต๊ะนั้น แผนกนั้น หรือ บางทีก็แจม ๆ ไปด้วยกันหากมีที่นั่งพอ สำหรับผู้เขียนแล้ว แผนกผู้เขียนมีแค่คนเดียวคือผู้เขียนเอง ฉะนั้นเวลาทานข้าวเที่ยงผู้เขียนก็จะไปพร้อมพี่อีกคนในแผนกอื่น ซึ่งพี่ท่านนี้จะมีฝีมือในการทำน้ำพริก ในแต่ละมื้อ หรือเว้นมื้อ จะต้องมีเมนูน้ำพริกกะปินี้ บนโต๊ะเสมอ พร้อมผักบางมื้อมาเป็นสวน ฮ่า ๆ คำนี้โต๊ะอื่น จะชอบมาแซว เพราะโต๊ะเราขาดผักกับน้ำพริกกันไม่ได้ มื้อนั้นไม่อร่อย ภาพโดย : ผู้เขียน สำหรับผักนั้น ผู้เขียน บ่อยครั้งจะเป็นคนจัดหามา เพราะมีร้านประจำคือร้านพี่ดาว ติดกับวัดเก็ตโฮ่ กะทู้ พี่ดาวจะทำเป็นเพิงเล็ก ๆ หน้าบ้านเป็นร้านขายผัก บางวันก็มีผลไม้ เช่น กล้วย มะละกอ มะม่วง ส่วนผักก็มีมากมาย เช่น พริกสด พริกแห้ง ถั่วพู มะนาว มะเขือ เห็ด ต้นหอม ผักซี ใบแมงลัก ใบกะเพรา ผักชีฝรั่ง ยอดผักเหมียง ยอดมะรุม ฝักมะรุม บางวันก็มี น้ำเต้า ฟักเขียว และฟักทอง ข่า ตะไคร้ หัวหอม กระเทียม ผักดอง พี่ดาวมีเกือบหมด โดยผักจะใส่เป็นถุงเล็ก ๆ ถุงละ 10 บาท บางวันก็มีไข่เค็มด้วยนะ ผู้เขียนจะแวะซื้อประจำเพราะเป็นทางผ่านไปที่ทำงาน ผักพี่ดาวสด สะอาด แกบอกปลูกเอง แต่บางอย่างบ้านใกล้เคียงก็เอามาฝากขาย วันนี้ผู้เขียนได้พริก แตงกวา มะเขือและก็ถั่วพู มีไข่เค็ม เค็มน้อยอีก 1 แพ็ค เที่ยงแล้วทุกวัน พี่ที่ทำงานจะโทรเข้ามาที่โต๊ะของผู้เขียน เพื่อชวนไปกินข้าว ผู้เขียนก็หยิบวัตถุดิบที่แช่ไว้ในตู้เย็นห้องแม่บ้านไปด้วย ในนั้นก็จะมีกระปุกกะปิ พริก มะนาว และ ผักต่าง ๆ ที่ใช้กินกับน้ำพริก มีมีดอีกเล่มสำหรับหั่นพริก หั่นหอม หั่นมะนาว ภาพโดย : ผู้เขียน เมื่อถึงโต๊ะอาหาร ผู้เขียนก็จัดเตรียมวัตถุดิบให้พี่เขา เพื่อทำน้ำพริกกะปิ มาดูกันก่อนไหมครับว่ามีอะไรบ้าง ง่ายมาก 1.กะปิ 2.พริกสด 3.มะนาว 4.หัวหอม 5.น้ำตาล เราใช้กะปิน้ำพริกจากเกาะลันตา พี่เขาหามาจากร้านที่ประจำที่เคยสั่ง รสชาติอร่อย สีสวย เวลาทำน้ำพริกออกมาสีจะสวย ไม่เค็มมาก ส่วนพริกเป็นพริกเม็ดยาวเล็ก เรียกไม่ถูกว่าพริกอะไร แต่รับประกันความเผ็ด หอม ถาดที่เราจะใช้ทำและใส่น้ำพริก คือ ถาดหลุม ที่ทำงานของผู้เขียนยังใช้แบบนี้อยู่ อารมณ์เหมือนนักเรียนที่โรงเรียนตอนเด็ก ๆ เลย ฮ่า ๆ แต่มันก็สะดวกดีนะ ข้าวหลุมหนึ่ง แกงหลุมหนึ่ง น้ำพริกหลุมหนึ่ง ผักหลุมหนึ่ง ยกทีเดียว มีหลุมเล็ก ๆ ไว้ใส่พริกน้ำปลาได้ด้วย มาต่อน้ำพริกกะปิง่าย ๆ กันดีกว่า พี่เขาก็หยิบมีดออกมาหั่นพริก หั่นหอม ตักกะปิจากกระปุกใส่ลงไป ไม่มีการชั่งตวงวัด จากความรู้สึกของพี่เขาล้วน ๆ เราจะไม่ทำกันเยอะ ทำพอกินในมื้อนี้เท่านั้น เมื่อพริก หอม กะปิ พร้อม ก็ตามด้วยหั่นมะนาวบีบน้ำลงไป จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน ผู้เขียนรอชิมเป็นแผนกชิม ก่อนปรุงอย่างอื่นต่อ หากเค็มไป พี่เขาก็จะใส่น้ำตาล ใส่มะนาวลงไปเพิ่ม หากเข้มข้นไป พี่เขาก็จะใส่น้ำแกง หรือน้ำลงไปเพิ่ม วันนี้ผู้เขียนชิมแล้วรู้สึกพอดี ๆ ภาพโดย : ผู้เขียน เท่านี้เองครับ ก็ได้น้ำพริกกะปิง่าย ๆ อร่อย สะดวก สะอาด ประหยัด และปลอดภัย กินกับผัก กินกับข้าวกลางวันได้มื้อหนึ่งแล้วครับ เดี๋ยวสักพักน้องโต๊ะข้าง ๆ ก็จะมาขอตักน้ำพริกนี้ไปคลุกกับข้าว ได้ข้าวคลุกกะปิอีก 1 จาน ฮ่า ๆ สำหรับผักวันนี้มีเพิ่มเติม คือ ยอดหมุย เป็นผักมีกลิ่นฉุน แต่อร่อย โดยเฉพาะกินกับขนมจีน สำหรับบางคนไม่ชอบกิน แต่สำหรับผู้เขียนแล้วของโปรดเลยหล่ะครับ ภาพโดย : ผู้เขียน นี่คือหน้าตาของน้ำพริกกะปิ ในแบบฉบับง่าย ๆ สไตล์คนใช้แรง ได้เวลากินข้าวกันแล้วครับ มื้อนี้ ผู้เขียน เติมข้าวไปสองรอบ เพราะน้ำพริกอร่อย แป๊ปเดียวน้ำพริกกะปิก็หมดลงก่อนผักเสียอีก แต่ไม่เป็นไร ผักเราเก็บไว้กินต่อพรุ่งนี้ได้ นี่ละครับ อาหารง่าย ๆ ที่เราทำกินกันยามเที่ยง บางวันจะมีเมนูยำปลากระป่องเพื่อสลับกับน้ำพริกกะปิ เพราะจะกินแต่น้ำพริกทุกวันก็ไม่ไหว ปรับเปลี่ยนรสชาติบ้าง วันไหนทำยำปลากระป๋องจะเขียนเรื่องราว ขั้นตอนวิธีการทำมาฝากเพื่อน ๆ ผู้อ่านอีกสักบทความนะครับ ผู้เขียนอยากฝากถึงทุกคน ในยุคที่พวกเราต้องเจอวิกฤติโรคร้ายโควิด 19 กันแบบนี้ ที่ทำงานของผู้เขียนก็ได้รับผลกระทบ ต้องลา With out pay ในเดือนนี้ คนละ 3 วัน เดือนหน้า คนละ 5 วัน เดือนต่อไปรอดูสถานการณ์อีกที แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสมัครใจ ยามนี้เราต้องช่วยเหลือกัน ทุกคนต้องรอดจากสถาณการณ์นี้ไปด้วยกัน ฉะนั้น สิ่งไหนที่เราควรประหยัดกันได้ก็ต้องประหยัด สิ่งไหนที่งดได้ก็งด โดยเฉพาะอาหารการกินที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินอาหารแพง ๆ หรู ๆ ออกไป เพียงเท่านี้เราก็ประคับประคองกันไปได้แล้วครับ สู้ ๆ นะครับทุกคน