ผักขี้เหล็ก ต้มยังไงดี ทำให้ไม่ขม ส่วนไหนกินได้ | บทความโดย Pchalisa ผู้เขียนเชื่อว่าหลายคนมีโอกาสทานแกงขี้เหล็ก ที่บางคนก็ได้ทำตั้งแต่ขั้นตอนแรก คือ เก็บผักขี้เหล็กมาต้ม ซึ่งอย่างหลังนี้เป็นกรณีของผู้เขียนเลยค่ะ เพราะที่นี่มีต้นขี้เหล็กปลูกเอาไว้จำนวน 2 ต้น ดังนั้นพอพูดถึงแกงขี้เหล็ก การเก็บผักขี้เหล็ก การต้มผักขี้เหล็ก และส่วนไหนทานได้ทานไม่ได้ สิ่งนี้ผู้เขียนมีประสบการณ์มาตรงๆ เลยค่ะ ดังนั้นในบทความนี้ผู้เขียนจะมาส่งต่อประเด็นนี้เอาไว้ในคุณผู้อ่านได้เรียนรู้กันค่ะ งั้นอ่านต่อให้จบกันเลยดีกว่า ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ดังข้อมูลต่อไปนี้ค่ะ ผักขี้เหล็กเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านของไทย ที่มีประโยชน์ในการนำมาประกอบอาหารค่ะ โดยเฉพาะยอดอ่อนและดอกที่นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงเลียง แกงส้ม แกงขี้เหล็กใส่กะทิ แกงขี้เหล็กใส่น้ำย่านาง เป็นต้น โดยลักษณะของผักขี้เหล็กตามธรรมชาติสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ดังนี้ค่ะ ต้น: เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-15 เมตร ใบ: เป็นใบประกอบแบบขนนก และใบย่อยมีสีเขียวเข้ม ดอก: มีสีเหลือง ออกเป็นช่อ ฝัก: มีลักษณะแบนยาว สีน้ำตาล ก็ได้พูดไปแล้วนะคะว่า ส่วนที่ทานได้ของผักขี้เหล็กส่วนใหญ่จะเป็นยอดอ่อนและดอกค่ะ โดยรสชาติของส่วนที่ยอดอ่อน มีรสชาติขมเล็กน้อย ในขณะที่ส่วนของดอกขี้เหล็ก มีรสชาติขมน้อยกว่ายอดอ่อนค่ะ ซึ่งส่วนมากในสถานการณ์จริงนั้น เรามักเห็นการนำยอดอ่อนมาทำอาหารมากกว่าดอกของผักชนิดนี้ค่ะ โดยความขมของผักขี้เหล็ก นั้นเกิดจากสารประกอบบางชนิดตามธรรมชาติค่ะ ซึ่งวิธีต้มผักขี้เหล็กให้ไม่ขมนั้นจากที่ผู้เขียนได้ทำมาประจำก็คือ การต้มในน้ำเดือดจัด เป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที จำนวนสองครั้งค่ะ อีกทั้งยังเลือกใช้การต้มกับน้ำใบย่านางอีกที หรือเรียกว่า แกงผักขี้เหล็กใส่น้ำย่างนางนั่นล่ะค่ะ ซึ่งการต้มผักขี้เหล็กกับน้ำใบย่านางนี้ สามารถช่วยลดความขมและเพิ่มความหอมอร่อยให้กับอาหารได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ และอีกวิธีการที่จะช่วยลดความขมได้ก็คือ การเลือกส่วนยอดอ่อนที่สุดของต้นขี้เหล็กมาปรุงอาหาร เพราะส่วนที่อ่อนจะมีรสขมน้อยกว่าส่วนที่แก่นะคะ อย่างไรก็ตามมีเคล็ดลับเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยว่า อย่าต้มนานเกินไปค่ะ เพราะการต้มนานเกินไปจะทำให้ผักขี้เหล็กเละ อีกทั้งควรเลือกหม้อที่สะอาด เนื่องจากหม้อที่สะอาดจะช่วยให้ผักขี้เหล็กไม่ติดก้นหม้อ และรสชาติไม่เฝื่อนค่ะ ปัจจุบันคนยังนิยมกินผักขี้เหล็กกันมาก เพราะมีเหตุผลหลายอย่างเลยค่ะ ได้แก่ รสชาติอร่อยและหลากหลาย: เมื่อนำผักขี้เหล็กมาปรุงอาหารจะได้รสชาติที่กลมกล่อม หอมเครื่องแกง และมีรสขมเล็กน้อย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่หลายคนชื่นชอบค่ะ เป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่าย: ผักขี้เหล็กเป็นพืชที่ปลูกได้ง่ายและพบได้ทั่วไปในประเทศไทย จึงหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพงนะคะ เป็นอาหารพื้นบ้าน: ผักขี้เหล็กเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินอาหารไทยมาช้านาน การทานผักขี้เหล็กจึงเป็นการอนุรักษ์อาหารพื้นบ้านและส่งต่อภูมิปัญญาทางอาหารให้คนรุ่นหลังค่ะ เป็นเมนูที่ทำง่าย: การนำผักขี้เหล็กมาปรุงอาหารไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้หลากหลายเมนูตามความชอบ ก็จบแล้วค่ะ เป็นยังไงบ้างค่ะ ถึงตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าผักขี้เหล็กทานส่วนไหนได้บ้าง และจะต้มยังไงดี จริงๆ เรื่องการต้มผักขี้เหล็กในชีวิตจริงๆ เลย ต้องบอกว่ามีความแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของแต่ละคนนะคะ เพราะถ้าคุณผู้อ่านไปถามน้าคนที่ข้างบ้านที่ผู้เขียนรู้จัก ก็จะได้ข้อมูลที่แตกต่างไปเล็กน้อย แต่โดยภาพรวมคือทุกคนจะใช้หลักการการต้มด้วยน้ำเดือดจัด ซึ่งบางคนก็ชอบผักขี้เหล็กเละค่ะ ที่ก็ไม่ได้มีกฎตายตัวในการทำอาหารของแต่ละคน ปัจจุบันผู้เขียนก็ยังหาโอกาสทานผักขี้เหล็กเรื่อยๆ ค่ะ ทั้งที่ทำเองและซื้อมาจากตลาด ซึ่งจะทานทั้งส่วนที่เป็นยอดอ่อนและดอก แต่ส่วนยอดอ่อนได้ทานบ่อยที่สุดค่ะ มักทานแกงขี้เหล็กใส่น้ำย่านางมากกว่าใส่กะทิค่ะ ก็อร่อยดีนะคะ และถ้าคุณผู้อ่านต้องการต้มผักขี้เหล็กก็ลองทำตามวิธีการข้างต้นได้ค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://food.trueid.net/detail/vXm6qdnJDgDW https://food.trueid.net/detail/QdR5LBprBVVj https://news.trueid.net/detail/2vOxoEQ674g8 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !