อาหารบางอย่างกว่าจะมาวางอยู่บนโต๊ะให้เรานั้นได้ลิ้มลองรสชาติ กว่าได้มาเป็นจานโปรดที่วางอยู่ตรงหน้าของเรานั้น ต้องดั้นดุ้นฝ่าทะเล เข้าป่าลึก เพื่อเป็นอาหารให้เรานั้นได้ลิ้มลองรสชาติที่แสนอร่อย และที่มาของอาหารเหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่มีกรรมวิธี และที่มาที่แตกต่างกันไป เหมือนกับอาหารอีสานที่หลายคนชื่นชอบกันอย่างมากเรียกว่าเมื่อกลับบ้านช่วงสงกรานต์ต้องได้กินแน่ ๆ คือ แมงจีซอน หรือ แมงกระชอน ที่หลายคนรู้จัก และมักจะเห็นได้บ่อยตามร้านขายแมลงทอดซึ่งหลายคนนั้นชื่นชอบกันด้วยรสชาติมันส์ เต็มคำ เนื้อแน่น จึงอดใจไม่ได้ที่หลายคนจะต้องมีติดมืออย่างแน่นอนเมื่อเดินผ่านร้านขายแมลงทอด แต่รู้หรือไม่ว่าตามชนบทนั้นกว่าจะได้แมงจีซอนมารับประทานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เราคิด แมงจีซอน หรือ แมงกระชอน อาศัยอยู่ตามดินเลนและจะออกหากินตอนกลางคืน ซึ่งโดยมากแล้วคนทั่วไปถ้าอยากจะกินก็แค่เดินไปตามร้ายขายแมลงทอดก็ได้กินแล้ว แต่หากเป็นในชนบทตามภาคอีสานแล้วละก็ไม่นิยมที่จะซื้อมารับประทานจะออกไปหามารับประทานกันเองมากกว่า ด้วยหน้าแล้งไม่ได้ทำนาอยู่ว่างทำไมถือถังเดินลงทุ่งนาหรือตามดินเลนออกไปย่ำหาแมงจีซอนกันดีกว่าใช่แล้วได้ยินไม่ผิดย่ำแมงจีซอน การย่ำแมงจีซอนคือการเดินย่ำเพื่อให้ดินนั้นยุบตัวลงไปทำให้แมงจีซอนนั้นออกมาจากที่อยู่ของมันที่อยู่ใต้นพื้นดินที่ไม่ลึกเท่าไหร่ วิธีการหาแมงจีซอนแบบนี้จะใช้แรงเยอะพอสมควรคือจะเดินย่ำไปเรื่อย ๆ ถ้าตรงไหนพื้นดินแข็งก็จะสาดน้ำใส่เพื่อให้เป็นดินโคลนแล้วเดินย่ำไปเรื่อย ไม่นานแมงจีซอนตัวน้อยก็จะออกมาจากที่อยู่ให้เหล่านักหาแมงจีซอนทั้งหลายได้หยิบจับใส่ถังกันอย่างสนุกสนาน หลายคนมองว่าดูแล้วเหมือนจะลำบาก แต่ที่จริงไม่ได้ลำบากขนาดนั้น แถมยังสนุกอีกต่างหากเพราะการหาแบบนี้จะเป็นหาเป็นหมู่คณะ ลูกเด็กเล็กแดงยิ่งชอบที่ได้เล่นน้ำเล่นโคลนสนุกสนาม แต่ก็มีอีกวิธีหนึ่งที่เป็นวิธีสมัยใหม่คือเปิดเสียงของแมงจีซอนเพื่อล่อเหล่าแมงจีซอนให้บินมาตกในหลุมหรือในถังที่เตรียมเอาไว้ อีกวิธีหนึ่งคือการใช้ไฟของแสงนีออนในยามค่ำคืนเป็นตัวล่อให้แมลงทั้งหลายรวมถึงแมงจีซอนที่ออกหากินตอนกลางคืนบินไปตามแสงไฟ โดยจะมีถังน้ำรองเอาไว้เพื่อไม่ให้แมลงเหล่านั้นบินหนีขึ้นได้เมื่อตกลงไปในถังหรือกะละมังที่รองเอาไว้ โดยมากแล้วแมงจีซอนนั้นจะนิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น คั่วเกลือ หรือ แกงใส่หน่อไม้ดอง นับว่าเป็นอาหารอันโอชะเลยก็ว่าได้ ด้วยตัวของแมงจีซอนนั้นเต็มไปด้วยไขมัน เนื้อแน่น ๆ อร่อยลิ้นอุดมไปด้วยโปรตีนจากธรรมชาติ ในทางการเกษตรนั้นแมงจีซอนเองยังมีประโยชน์ในเรื่องช่วยพรวนหน้าดินให้ร่วนซุยได้ดีอีกด้วย วิธีการทำเมนู แมงจีซอนคั่วเกลือ 1. เริ่มจาการนำแมงจีซอนนั้นล้างน้ำให้สะอาดสองถึงสามครั้ง ตั้งกะทะให้ร้อน นำแมงจีซอนลงไปคั่วใครกระทะอาจจะเติมน้ำลงไปเล็กน้อย คั่วประมาณ 15 - 30 นาที แล้วโรยเกลือลงไปประมาณ 100 กรัม (จะมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณของแมงจีซอนด้วย บางที่อาจจะใช้น้ำปลาหรือซอสปรุงรสแทนก็ได้) 2. คั่วต่ออีกประมาณ 10 นาที แล้วหั่นตะไคร้ ใบมะกรูด ลงไปเพื่อเพิ่มความหอม คั่วตออีก 5 นาทีตักใส่จานรับประทานร้อน ๆ บางบ้านจะกินเป็นอาหารหลักพร้อมข้าวเนียวก็ได้ไม่ว่ากัน วิธีการทำเมนู แมงจีซอนแกงหน่อไม้ดอง 1. ล้างหน่อไม้ดองด้วยน้ำประมาณ 2 - 3 ครั้ง ตั่งหม้อให้ร้อน ตำพริก ตะไคร้ ลงไปในหม้อตามด้วยหน่อไม่ดอง เติมน้ำให้ท่วมหน่อไม้ดอง ต้มประมาณ 15 นาที 2. นำแมงจีซอนล้างน้ำ 2 - 3 ครั้ง นำลงไปในหม้อ เติมรสชาติด้วยน้ำปลา เกลือเล็กน้อย น้ำปลาร้า ผงปรุงรส เพิ่มความหอมด้วย ใบแมงลัก ใบมระกูด เพิ่มความเผ็ดนิดหน่อยด้วยพริกเม็ดอ่อน ต้มต่ออีก 15-20 นาที ตกใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักเคียงที่หาได้กับสวนครัวหลังบ้าย ซดน้ำแกงนัว ๆ ร้อน ๆ คล่องคอดีแท้น้อ อันที่จริงแล้วในปัจจุบันเห็นน้อยมากที่เหล่าผู้คนชนบทนั้นจะออกไปตามหนองเพื่อย่ำแมงจีซอน ด้วยวิธีการหาสมัยใหม่ที่ง่ายกว่าทำให้บางวิถีชีวิตนั้นเปลี่ยนไป ผู้เขียนเองจำได้ว่าการออกไปย่ำแมงจีซอนไม่ใช่เพียงแค่ออกไปหาของกิน แต่เป็นการเรียนรู้วิถีชีวิต การเอาตัวรอด และในระหว่างที่ย่ำไปก็จะได้ยินเสียงผู้ใหญ่คอยพร่ำสอนสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ นับว่าเป็นอีกช่วงเวลาของครอบครัวที่ใช้สอนลูกหลานได้เป็นอย่างดี แต่ในตอนนี้สิ่ง เหล่านั้นเริ่มที่จะไม่มีให้เห็นแล้วในยุคปัจจุบัน เครดิตภาพปก เทพ สุวรรณ ผู้เขียน เครดิตภาพประกอบ เทพ สุวรรณ ผู้เขียน