ไม่ไกลจากสี่แยกโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล อ.เมือง จ.ปัตตานี (ถนนเกษมสุข) มีร้านส้มตำเจ้าอร่อยที่ถือเป็นจุดนัดพบของผู้ชื่นชอบเมนูอีสานอยู่ร้านหนึ่ง ลักษณะร้านเรียบ ๆ ง่ายๆ ไม่มีสิ่งใดแสดงถึงความหรูหรา ทว่าต้อนรับลูกค้าอย่างไม่ขาดสายตลอดวัน ที่นำร้านส้มตำลัดดามารีวิว เพราะร้านแห่งนี้นอกจากเด็ดเรื่องเมนูแซ่บ ๆ สไตล์ที่ราบสูงแล้ว ยังถือเป็นร้านของชาวพุทธที่ชาวมุสลิมให้ความไว้วางใจ เข้ามาอุดหนุนรับประทานอาหาร ปกติชาวมุสลิมต้องเน้นอาหารฮาลาล งดหมู ปรุงสะอาดตามหลักศาสนาอิสลาม และต้องปรุงด้วยแม่ครัวพ่อครัวมุสลิม จะมียกเว้น ก็อาหารประเภทเครื่องดื่ม และผลไม้ ซึ่งส้มตำก็ถือว่าอยู่ในหมวดที่ชาวมุสลิมรับประทานได้ ต่อให้แม่ครัวต่างศาสนาปรุงก็เถอะ แม้จะเป็นย่างนั้น ก็ใช่ว่าทุกร้านจะเป็นที่ไว้วางใจ ด้วยเป็นแหล่งนัดพบของทั้งพุทธและมุสลิม ร้านส้มตำลัดดาจึงปราศจากเมนูหมู หลายครั้งที่ผมเข้าไปนั่งแล้วเผลอสั่ง “ลาบหมู” “น้ำตกหมู” แต่เจ้าของร้านก็เพียงตอบกลับมาว่า “เราไม่มีหมูค่ะ” ไม่ได้ถือเป็นเรื่องเลวร้ายอะไร ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เมื่อนั่งโต๊ะได้ ผมก็เขียนเมนูหมูลงไปทันที รู้ตัวก็ต้องรีบขีดฆ่าให้วุ่นไป ร้านส้มตำลัดดาเปิดให้บริการความแซ่บมาหลายปี จนเป็นที่คุ้นเคยของชาวปัตตานี หากแขกบ้านต่างเมืองมาเยือนแล้วเอ่ยว่า ขอให้พาไปกินร้านอาหารอีสานสักมื้อ (อาจจะเพราะเลี่ยนโรตี หรืออะไรก็ว่าไป) ชาวปัตตานีจะพามาร้านส้มตำลัดดาเป็นอันดับต้น ๆ ที่เขียนบทความรีวิวครั้งนี้ เป็นมื้อที่หลายสิบแล้วสำหรับผม คนเดียวผมก็แวะมากินขอให้นึกอยากของแซ่บ ๆ ขึ้นมาเถอะ หนนี้มานั่งตอนโรงเรียนเลิก พบเด็กนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งรีบเข้ามาจับจองโต๊ะ ล่วงหน้ามาก่อน 3 คน สั่งเน้นเมนูยำ ปูยำ กุ้งยำ ส้มตำ แต่ “ปูสด” หมด เด็กสาวถามเจ้าของร้านว่าแล้วมีปูอะไรบ้าง คำตอบที่ได้กลับมา คือ มีแต่ “ปูเค็มนะหนู ปูม้าสด เขาไม่มาส่งวันนี้” เด็กสาวขอดูปูเค็ม เห็นสภาพแล้วรีบโทร. ไปถามเพื่อนที่กำลังจะตามมาว่า ปูสดหมด มีปูเค็ม เอาไหม ยำปูเค็ม...ได้ยินอย่างนั้น ผมแทบสำลักลาบเนื้อ ‘หนูนั่นปูเค็มใส่ส้มตำนะ ไม่ใช่ปูดองไว้ยำ’ เคราะห์ดี เพื่อนปลายสายไม่สนปูเค็มยำ (ข้อนี้ผมรู้ได้อย่างไรนะหรือ ก็คนที่โทร. ไป พูดว่า อ้อ ๆ งั้นมาสั่งเองละกันนะ จะกินอะไร) เมนูเกี่ยวกับเนื้อวัวทางใต้ ใครหลายคนบอก ต้องยกให้ชาวมุสลิมทำถึงจะอร่อย แต่ผมยืนยันว่า หากคุณได้มาลองกินทั้งลาบ น้ำตก หรือเสื้อร้องไห้ ฝีมือร้านส้มตำลัดดา รับรองว่า จะติดใจ อร่อย ไร้กลิ่นคาว โดยเฉพาะเสือร้องไห้ จานเดียวไม่เคยพอ นอกจากเมนูอีสาน ที่ร้านส้มตำลัดดา มีก๋วยเตี๋ยวเป็ดด้วย และสายของหวานหากอิ่มของคาวแล้ว แนะนำ กล้วยปิ้งครับ เป็นอีกเมนูที่อร่อย กล้วยปิ้งสุกพองาม พอหอม น้ำเชื่อมก็ข้นเหนียว ทั้งหวานและหอม เรียกได้ว่ามาที่ร้านส้มตำลัดดา จบและครบเลยครับ มาที่ร้านส้มตำลัดดานอกจากคุณจะได้อร่อยกับอาหารอีสานแล้ว ยังได้เห็นความเป็นพหุวัฒนธรรมจากชีวิตจริงที่ไม่ใช่การนำนักวิชาการหอคอยงาช้างมานั่งพูดว่าพหุวัฒนธรรมเป็นแบบไหนอย่างจืดชืดแน่นอน ข้อมูลขยาย ท้ายเรื่อง ฉบับกวาดตาอ่าน ชื่อร้าน : ส้มตำลัดดา ที่ตั้ง : ถนนเกษมสุข ห่างจากสี่แยกโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล อ.เมือง จ.ปัตตา ประมาณ 50 เมตร บรรยากาศ : เป็นกันเอง ร้านเปิดโล่ง ทีมงานรุ่นป้า ยิ้มแย้มแจ่มใส จุดเด่น : อาหารอีสานของชาวพุทธที่มุสลิมไว้วางใจ รสชาติ : แซ่บ แค่ได้กลิ่นน้ำลายก็สอแล้ว การบริการ : เป็นกันเอง ห้องน้ำสะอาด นั่งนานได้เลย ราคา : ย่อมเยาเริ่มต้นที่ 40 บาท (เฉพาะที่ผู้เขียนแวะไปในบทความนี้ ส้มตำปูปลาร้า ราคา 40 บาท, เนื้อย่าง 80 บาท, ขนมจีน 10 บาท, ลาบเนื้อ 60 บาท แต่พอเก็บเงินแล้ว กลายเป็น 500 กว่าบาท ทางร้านคิดไม่ผิดหรอกครับ เพราะมีเบียร์อีก 3 ขวด)