Beaker and Bitter คาเฟ่น้องใหม่ย่านอารีย์มาในแนวห้องทดลอง ร้านนี้เค้ารีโนทเวทจากโรงงานยาเก่า เวลาเข้าไปได้กลิ่นอายเหมือนดูการ์ตูนห้องแลปของ Dexterสมัยก่อนเลยครับ สไตล์ร้านจะเน้นสีขาว ๆ ดูแล้วเหมือนห้องทดลอง ด้านในสว่างเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่สุด สาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูปทางร้านก็ได้จัดอุปกรณ์พวกมีเสื้อแลปวิทยาศาสตร์ แว่นทอดลอง กล้องจุลทรรศน์ให้ถ่ายรูปไว้อัพลงโลกโซเชียลกันด้วยนะ แต่งตัวออกมาก็จะได้ในแบบนักทดลองจริง ๆ เลยครับ ใส่แล้วดูมีความเป็นหมอเป็นที่สุด เราสะดุดตาตั้งแต่ป้ายทางเข้าแล้วครับ ทำสวยดึงดูดมาก ๆ ป้ายมีความล้ำ ภายในร้านค่อนข้าวกว้างมาก ๆ มีหลายโซนเลย ตั้งแต่โซนถ่ายรูป โซนคาเฟ่ติดแอร์ โซนอ่านหนังสือ หรือแม้แต่ห้องประชุมก็มีบริการด้วยนะครับ เรียกได้ว่ามาแค่ที่เดียวครบทุกความต้องการเลยจ้า มาเริ่มกันที่โซนเคาน์เตอร์ขายของกันก่อน อย่างห้องนี้เป็นห้อง Alpha Lab เป็นห้องเงียบ มีปลั๊กไฟ โคมไฟบริการ เหมาะแก่การอ่านหนังสือมาก ๆ ครับ สำหรับเครื่องดื่มมีให้เลือกไม่เยอะครับ เน้นขายกาแฟ ชาเขียว โกโก้ แล้วก็มีเบเกอรีกรุบกริบให้ทานเล่นอีกด้วย เวลาเสิร์ฟเครื่องดื่มนี่ทางร้านจะเน้นแบบเสิร์ฟด้วยแก้ว Beaker ดูแล้วเหมือนเป็นนักวิทยาศาสตร์ไปอีกจ้า... ใครที่อยากถ่ายรูปมีโซนให้ถ่ายแบบเหลือเฟือมาก ๆ มารีวิวกาแฟ กับขนมที่เราสั่งทานไปกันครับ อย่างแรกเลย R.I.P (Rose in Peach) (145บาท) กาแฟดำกลิ่นพีช กุหลาบ เวลากินกลิ่นมันตบตีกันในปาก หอมละมุนมากครับ หวานติดปลายลิ้นนิด ๆ ด้วยรสชาติของกาแฟ ใครชอบแนว ๆ กาแฟดำกลิ่นผลไม้ ตัวนี้ตอบโจทย์ ถ่ายรูปตอนเค้าเทกาแฟ เก็บไว้ดูกันสักหน่อยครับ Cold Cocoa Latte (145บาท) โกโก้เข้มข้น หวานกำลังดี แต่งด้วยครีมด้านบน ดื่มแล้วสดชื่นไปอีก Dirty Latte (135บาท) Espresso shot ราดลงบนนมสดเย็น แยก Layer กันลงตัวมาก ถ่ายรูปออกมาคือสวย น่าทานมาก รสชาติบางไปนิด แต่โดยรวมโอเคเลย Coconut Cake (145บาท) เค้กมะพร้าวเนื้อนุ่มละมุน 3 ชั้น แทรกด้วยครีมเข้มข้น ไม่พอแค่นั้นนะครับ ด้านบนยังทอปด้วยครีมเนื้อมะพร้าวเข้มข้น รสชาติดีงามมาก รองด้านล่างด้วยหนังสือพิมพ์ถ่ายรูปออกมาคือดีงาม สำหรับใครที่อยากไปถ่ายรูป ไปลองกินกาแฟ ไปกันได้ครับตามรายละเอียดข้างล่าง - ซอยพหลโยธินซอย 8 - ร้านมีที่จอดรถกว้างขวาง - เดินทางโดย BTS อารีย์ (ถ้ามาด้วย BTS ต่อ Taxi นิดนึงนะครับ) - เวลาเปิด-ปิด : 08.00 - 22.00น. เครดิตภาพทั้งหมดโดย : นักเขียน(เจ้าของ Page Facebook กูไปมาแล้ว-Gupaimalaew)