หลังอรุณรุ่งของทุกวันบริเวณย่านหน้าอาคารอเนกประสงค์เทศบาลเมืองปัตตานีในละแวกชุมชนจะบังติกอ จะมีบรรดาแม่ค้าขายอาหารเช้าขนมพื้นถิ่นอยู่หลายร้าน เป็นย่านขายอาหารเช้าที่สำคัญของเมืองนี้ โดยเมนูอาหารหลากหลายแต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารตำรับพื้นเมืองเกือบทั้งสิ้น ครูฮาลีเมาะ อาแด กำลังง่วนกับการปรุงขนมหอยครกให้ลูกค้า  จากที่มีโอกาสได้ตระเวนซื้อหามา  มีอาหารหลายเมนูที่ชื่นชอบและที่อยากแนะนำในที่นี้มีอาหารชนิดหนึ่งที่ไม่ค่อยเคยเห็นจากแหล่งขายที่อื่นๆนั่นคือ “ขนมหอยครก” ซึ่งมีชื่อตามภาษาท้องถิ่นว่า  SURABI   KERENG  โดยขนมที่ว่านี้มีผู้ขายคือ  คุณครูฮาลีเมาะ อาแด  ครูจากโรงเรียนพัฒนาอิสลาม  อ.เมืองปัตตานี  ที่ยึดงานอดิเรกขายขนมหอยครกในบางเวลา เพื่อเลี้ยงครอบครัว ย่านตลาดขายของของเทศบาลเมืองปัตตานี   ปกติเราจะได้ยินหรือรู้จักแต่เพียง “ขนมครก” ชนิดแบบธรรมดา หรือไม่ก็ขนมครกชาววัง  แต่ที่นี่ทำไมถึงเป็น  “ขนมหอยครก” ? คุณครูฮาลีเมาะ เผยถึงที่มาของสูตรและการบัญญัติชื่อว่า ขนมชนิดนี้ตนเองได้มีการค้นคิดสูตรขึ้นมาจากการทำโครงงานการทำอาหารส่งเข้าประกวดของโรงเรียน  จนกระทั่งได้รับรางวัลชนะเลิศ   ต่อมาจึงคิดอยากจะขยายผลนำมาต่อยอดเพื่อทำขายต่อไป  โดยผลออกมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ลูกค้าที่มาซื้อแต่ละวัน  มีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจร    หน้าตาขนมหอยครก  ชวนให้น่าลิ้มลองยิ่งนัก ครูฮาลีเมาะ  ยังบอกต่ออีกว่า   ตนเองนอกจากจะเป็นครูสอนหนังสือแล้ว  ก่อนจะไปทำงานก็จะมีการทำขายที่บริเวณหน้าอาคารอเนกประสงค์เทศบาลเมืองปัตตานี ตั้งแต่เวลา 06.30-09.00น.(จะหยุดทุกวันพุธ-พฤหัสบดี)  โดยจะขายกล่องละ  20 บาท ในหนึ่งกล่องจะมีขนมหอยครก  5 ชิ้น ซึ่งเป็นราคาขายที่ถูกมาก  ผู้ซื้อสามารถซื้อไปรับประทานได้ในทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพ บรรจุลงกล่องพลาสติก 5 ชิ้น ในราคา 20 บาท  และในช่วงเดือนถือศีลออด(เดือนรอมฎอน) ของพี่น้องชาวมุสลิม   เธอจะเปลี่ยนสถานที่ขายแบบเฉพาะกิจมาขายยังบริเวณลานจอดรถของตลาดสดเทศบาลเมืองปัตตานี  เยื้องๆตรงข้ามมัสยิดกลางปัตตานี   ที่ทางเทศบาลจัดระบบระเบียบให้บรรดาร้านค้าช่วงรอมฎอนและเพื่อจะได้ดูแลในเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดโคโรน่าด้วย  มาจำหน่ายยังตรงนี้  ในช่วงระยะเวลาเพียง 1 เดือน เมื่อสิ้นเดือนรอมฎอนก็จะไปขายยังที่เดิมต่อไป หน้าตาน่ากิน    ขนมหอยครกตอนที่อยู่ในเตาร้อน น่ากินมากๆ ผู้เขียนสังเกต ในช่วงบ่ายหนึ่งของร้านขนมหอยครก ปรากฏว่ามีบรรดาแม่บ้านที่มาจับจ่ายซื้อหาของกิน   ได้อุดหนุนกันไม่ขาดสาย  ลองถามได้ความว่า ครูฮาลีเมาะขายขนมหอยครกในช่วงบ่ายเดือนรอมฎอนได้วันละไม่ต่ำกว่า 150 กล่อง   หอยแมลงภู่ คือส่วนผสมที่เป็นพระเอกของขนมเมนูนี้   เธอมิได้ปิดบังสูตรจากกต้นคิดของตนเองเลย  ซึ่งคนอื่นก็สามารถนำไปปรับได้  โดยเธอสาธยายสูตรขนมครก ที่มีหอยแมลงภู่เป็นพระเอกของความกลมกล่อมไว้ว่า วัตถุดิบ :  -แป้งข้าวเจ้า 1  ถ้วย -แป้งทอดกรอบ 1/4  ถ้วย -แป้งข้าวโพด  1/4  ถ้วย -เกลือ 1/2  ถ้วย -พริกไทย  1/2  ช้อนชา -ไข่ไก่ 4  ฟอง -ต้นหอมซอย  3  ช้อนชา -หอมใหญ่ซอย  3  ช้อนชา -แครอท   3  ช้อนชา -น้ำมันพืช -น้ำเปล่า  1 - 1/2  ถ้วย -หอยแมลงภู่ -ปูอัด    ลูกสาว  มาช่วยคุณแม่ขายขนมหอยครก ส่วนวิธีทำ : -ขั้นแรก ผสมแป้งทั้ง  3 ชนิด  เข้าด้วยกันใส่   เกลือ   น้ำ   พริกไทย   คนให้เข้ากันเพื่อรอหยอดลงเตาขนมครก -เอาไข่ไก่ตอกตอกใส่ชาม  ผสมต้นหอม  แครอท  หอมใหญ่ คนให้เข้ากันรอหยอดลงบนแป้งของขั้นแรก -หยอดน้ำมันลงกระทะหยอดขนมครกรอให้น้ำมันร้อนได้หยอดแป้งลงไป เมื่อแป้งได้ที่ก็หยอดหน้าส่วนผสมของขนมลงไป -จากนั้นเมื่อขนมสุกด้านหนึ่งแล้ว  ก็พลิกอีกด้านลงรอให้สุกเท่ากันทั้งสองด้าน แล้วตักขึ้นมาวางในตะแกรง  รอพร้อมเสิร์ฟให้บริการลูกค้าต่อไป ลูกค้าของครูฮาลีเมาะ ที่มาเหมาซื้อประจำ    นี่ก็อีกกลุ่มลูกค้าที่มาจับจองคิวซื้อ  ซึ่งลูกค้ามีทุกวัย ทุกอาชีพ ต่อข้อถามาที่ว่า ทำอย่างไรถึงจะแนะนำลูกค้าได้ในช่องทางอื่น  นอกจากลูกค้าประจำที่รู้พิกัดแล้ว่าร้านขายประจำอยู่ที่ไหน   เธอทิ้งช่องทางติดต่อสื่อสารได้โดยตรงที่  คุณครูฮาลีเมาะ  อาแด FB : Haleemoh A-dae LINE : 065-0648750 TEL.: 065-3812114, 089-5995044 ขนมหอยครกสูตรพิเศษที่ เป็นเจ้ารสชาติอร่อยของเมืองปัตตานี  หากใครมีโอกาสได้ลิ้มลอง  “ขนมหอยครก”ของครูฮาลีเมาะปัตตานี  รับรองว่าจะตรึงรสชาติอร่อยถูกปากอย่างแน่นอน อนุสรณ์ นินวน  : เรื่อง-ภาพ