โต๊ะสีแดงยาวอยู่กลางร้านอาหาร “โต๊ะแดง” นอกจากโต๊ะแดงแล้ว เก้าอี้ม้ายาวก็แดงเข้ากันด้วย “โต๊ะแดง” เป็นร้านอาหารไทยน้องใหม่ แต่รสชาติไม่ธรรมดา อยู่ในบริเวณเดียวกับ บ้านอาจ้อ บูติคโฮมสเตย์ ที่ภูเก็ตนั่นเอง มีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยม ที่เห็นขอบกำแพงสีเขียวนั่น เกิดจากการทุบห้องเพื่อให้มีพื้นที่มากขึ้นเพื่อรองรับลูกค้า ดูคลาสสิคไปอีกแบบ เราได้สิทธิ์มาพักและทานอาหาร ฝีมือเชฟกบ ( แต่ตัวไม่กบ ตัวอวบอวบ) ฝีมือชาววัง เลยทีเดียว มื้อแรกอาหารกลางวันประเดิมด้วย ผัดไทยกุ้งสด เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี หมี่กรอบชาววัง ทานเข้าไปแบบว่ากรอบละลายในปาก และชามะนาว ทั้งหมดนี้เราทานคนเดียว แบบว่าฟิตอร่อยมาก ที่ร้านบอกว่า กุ้ง ปลาที่นี้ซื้อมาสด ๆ จากชาวมอร์แกนเลยทีเดียว ทานเสร็จ ไม่ต้องบอกว่าทำอะไรต่อ ก็นอนสิคะ อิ่มขนาดนี้ ตื่นมามื้อเย็น จัดโรตีแกงไก่ เนื้อแป้งโรตีหอมนุ่ม ขนาดกำลังดี ตามด้วยขนมหม้อแกง (หอมเจียวหอมมาก) ที่เชฟทำขนาดกำลังดี ขายดีเทน้ำเทท่า ถ้าไม่สั่งไว้ อาจจะไม่ได้ทาน (แนะนำให้โทรจองก่อน) ตามด้วยน้ำสัปปะรดภูเก็ต ช่วยย่อยก่อนนอน เช้าวันที่สอง ออกไปวิ่งสูดลมทะเลรับโอโซนกลับมา เชฟกบเตรียมข้าวผัดกุ้ง ดูง่าย ๆ แต่อร่อย เมล็ดข้าวเรียงตัวกันแบบสวยงาม น้ำเต้าหู้ และขนมสารพัดอย่างของภูเก็ต ที่อยากให้ลูกค้าที่ได้มาถึงภูเก็ต ได้ลองชิม มื้อกลางวัน : อยากกินหมี่กรอบอีกครั้ง เพราะมันอร่อย กับปอเปี้ยทอดเบา ๆ ก่อนออกไปไหว้พระวัดฉลองและช้อปปิ้งในเมืองภูเก็ตจนเย็นค่ำ กลับมาหิวโส สั่งข้าวสวย ไข่เจียวกุ้งม้วน กับ ต้มยำน้ำใส เข้ากันมาก ๆ และ น้ำสัปะรดภูเก็ต ถ้าใครทานเผ็ด จะมีเมนูจานเด็ดอีกหลายเมนู คืนที่สอง เข้านอนด้วยอาการแน่นจุก จากอาหารที่อร่อยแล้วทานมากไปหน่อย ตื่นเช้าออกไปวิ่งสลายไขมันอีกรอบก่อนกลับจนหมดแรง กลับเข้าบ้านเจอ ข้าวต้มกุ้ง ตามด้วย มัสมั่นแกงไก่กับโรตี อีกเมนูหนึ่งที่ห้ามพลาด ช่วงเที่ยง เก็บกระเป๋าพร้อมกลับกรุงเทพฯ ทิ้งท้ายด้วย ปีกไก่ทอดคั่วพริกเกลือ จี๊ดจ๊าด อร่อยดี และ หม้อแกง หอมเจียว เพิ่งเสร็จร้อน ๆ จากเตา ทานกับ ลาเต้เย็น ขอบคุณ เชฟกบ ที่ทำอาหารชาววังอร่อย ๆ ให้ทาน มาครั้งหน้าต้องลดน้ำหนักมาล่วงหน้า เพื่อทานให้เต็มที่อีกครั้ง หลงรักภูเก็ต