ร้านเจียง ขนมจีนบุฟเฟต์ เป็นร้านบุฟเฟต์ร้านเดียว ที่ดิฉันและมารดาสามารถมารับประทานอาหารร่วมกันได้ โดยที่คุณมารดาของดิฉันไม่ต้องรับประทานอาหารเจโดยการเขี่ย และมีดิฉันเป็นผู้รับสัมปทานเก็บกวาดเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ที่คุณแม่ไม่รับประทานให้ เราทั้งคู่มักจะมารับประทานอาหารร่วมกัน ที่ร้านเจียงขนมจีนบุฟเฟ่ต์เสมอ ๆ ค่ะ เพราะนอกจากขนมจีน จะเป็นเมนูโปรดของพวกเราทั้งสองคนแล้ว ไอศกรีมกะทิที่ร้านเจียงก็ยังดีงามมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ มาที่เดียวได้รับประทานทั้งขนมจีน ผัก และของหวานครบถ้วนเลยค่ะ ร้านเจียง ขนมจีนบุฟเฟ่ต์ ตั้งอยู่บนชั้น 4 เซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น เปิดให้บริการทุกวัน ตามเวลาของห้างเปิดปิด คือ 10:00-22:00 น. ซึ่งร้านเจียงจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งนะคะ ฝั่งขวามือจะเป็น ร้าน เจียง ลูกชิ้นปลา และด้ายซ้ายมือจะเป็น ร้าน เจียง ขนมจีนบุฟเฟ่ต์ ด้านหน้าร้านจะมีข้อความประชาสัมพันธ์เชิญชวน แสดงข้อมูลอย่างชัดเจนว่า ขนมจีนบุฟเฟ่ต์ที่นี้ ราคา 129 บาท เท่านั้น ซึ่งราคานี้รวมไอศกรีมกะทิ ไข่ต้ม และ ผลไม้ตามฤดูกาลแล้วด้วยนะคะ ร้านเจียง ขนมจีนบุฟเฟ่ต์ ตกแต่งสวยงามสะอาดสะอ้าน ด้วยโทนสีสะอาดสดชื่นและเป็นธรรมชาติ คือ สีขาว สีเขียว และสีน้ำตาล บ่งบอกถึงการนำเสนอสินค้าและการบริการ ที่เราสามารถเชื่อมั่นในคุณภาพ และความสะอาดได้อย่างเต็มที่ ขนมจีนและผักนั้นสะอาดปลอดภัย สดใหม่ นอกจากนั้นยังดึงเอาลวดลายจีน มาใช้ในการตกแต่งสอดคล้องกับชื่อของร้าน ที่มาจากภาษาจีน นอกจากนี้การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีขาว ที่มีลักษณะการออกแบบที่เรียบง่าย ก็บ่งบอกถึงการนำขนมจีน อาหารไทยที่ได้รับความนิยมในทุกภาค มานำเสนอในบริบทใหม่ที่ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกวัย ดิฉันและคุณมารดาชอบมารับประทานขนมจีนกัน ในเวลาหลังเที่ยงไปแล้วค่ะ เพราะลูกค้าจะเริ่มบางตา จะได้ไม่ต้องรู้สึกเขินเวลาตักผักเยอะ ๆ ค่ะ บนโต๊ะจะมีจานและซ้อนส้อมเตรียมไว้ให้แล้วเรียบร้อย แต่ละท่านจะได้รับจานสีเขียวสดใส สำหรับตักขนมจีน/ผักผลไม้ คนละ 2 ใบ พร้อมช้อนส้อมค่ะ เมื่อเดินเข้ามาในร้าน และได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็จะเดินเข้ามาต้อนรับ พร้อมกับแสดงเมนูเครื่องดื่มแก่เรา ขนมจีนบุฟเฟ่ต์ราคา 129 บาท ไม่รวมเครื่องดื่มและของหวาน ในเมนูข้างต้นนะคะ ต้องจ่ายสตางค์แยกต่างหากค่ะ เมื่อสั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถลุกไปตักขนมจีนได้ตามปรารถนาเลยค่ะ อาหารทุกชนิด มีอุปกรณ์สำหรับ ตัก-คีบ ครบครันค่ะ ไม่ต้องกังวนว่าจะต้องใช้มือสาวเส้นขนมจีน หรือใช้ช้อนส่วนตัวตักผักผลไม้ นอกจากนี้น้ำยาขนมจีนทุกชนิดก็จะถูกเติม ให้เต็ม ดูสวยงามน่าตัก น่ารับประทาน และถูกอุ่นร้อนอยู่เสมอ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับประทานน้ำยาขนมจีนบูด หรือเย็นชืด... ตามอุณหภูมิที่หนาวเย็นของห้างสรรพสินค้าค่ะ ขนมจีนบุฟเฟ่ต์ ราคา 129 บาท ราคานี้รวมไข่ต้มเรียบร้อยแล้วนะคะ ทุกอย่างที่จัดเรียงอยู่บนโต๊ะ สามารถตักได้หมดเลยค่ะ รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์เรียบร้อยแล้ว น้ำยาขนมจีน มีมาครบทุกภาคนะคะ ได้แก่ แกงเขียวหวาน น้ำยาป่า น้ำยากะทิ น้ำพริก น้ำยากะทิไก่ น้ำเงี้ยว แกงไตปลา และขนมจีนซาวน้ำค่ะ มีทั้งน้ำยาที่รสแซบสะท้านทรวง เช่นแกงไตปลา และน้ำยาป่า(น้ำยาลาวของชาวอีสาน) และน้ำยารสชาติละมุนนุ่มนวล เช่น ขนมจีนซาวน้ำ ครบถ้วนและตอบสนองลูกค้าได้ทุกกลุ่มค่ะ เด็ก ๆ และผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถรับประทานอาหารรสจัดได้ ก็สามารถมารับประทานได้ค่ะ ใครไม่เคยรับประทานขนมจีนซาวน้ำ ต้องมาลองดูนะคะ เครื่องเยอะและหารับประทานยากนะคะ ถ้าไม่ใช่ร้านเจียง ดิฉันก็ไม่ทราบว่าจะไปหารับประทานได้ที่ไหนในขอนแก่นเหมือนกันค่ะ สิ่งที่ดิฉันรักมาก ๆ และมาเป็นลูกค้าร้านเจียงอยู่เรื่อย ๆ เพราะผักค่ะ ที่นี้มีผักบุ้งจีนต้ม ซึ่งดีงามมาก ๆ สำหรับผู้ที่หวาดกลัวการรับประทานผักสดแล้วจะติดพยาธิจากผักสด นอกจากนั้นยังมีมะระจีนลวก ซึ่งเป็นผักที่ดิฉันรักที่สุด เพราะดิฉันชอบรับประทานผักขม ๆ ไหนจะปลีกล้วยหั่นฝอย ที่มีรสขมฝาด สัมผัสกรุบกรอบ รับประทานกับขนมจีนน้ำยาใด ๆ ก็เข้ากันดียิ่ง (ยิ่งเขียนยิ่งน้ำลายไหล...) ความคุ้มค่ายังไม่จบค่ะ ยังมีผลไม้ตามฤดูกาล ให้เราได้รับประทานกันได้อย่างจุใจอีกด้วย ดิฉันชื่นชอบสิ่งนี้ เพราะเป็นการสนับสนุนส่งเสริมให้ลูกค้ารับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพโดยตรง นอกจากนั้นการพาลูก ๆ หลาน ๆ เด็กเล็ก ๆ มารับประทานขนมจีนบุฟเฟ่ต์ แล้วสามารถรับประทานผักและผลไม้ได้อย่างไม่จำกัด ยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมในการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้กับเด็กโดยตรงด้วยนะคะ เพราะเด็ก ๆ จะเลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ และอยากจะรับประทานอาหารชนิดเดียวกันกับผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่รับประทานผักเขาก็จะเริ่มเลียนแบบตามค่ะ เชื่อดิฉันค่ะ ดิฉันเรียนมา! ในส่วนของน้ำยาขนมจีนที่ดิฉันโหยหามากเป็นที่สุด คือ น้ำเงี้ยวค่า... เป็นน้ำยาชนมจีนที่ดิฉันรักมากที่สุด ทั้งที่ตัวเองเป็นคนอีสานแท้ ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า น้ำเงี้ยวที่ดิฉันเคยรับประทานมา มีทั้งแบบที่ไม่เผ็ดและเผ็ดมาก ๆ แต่ไม่ว่าจะเผ็ดระดับไหนดิฉันก็สู้ค่ะ เผ็ดมากก็ใส่ผักมาก ๆ จะได้บรรเทาทุกข์ร้อนจากความเผ็ดลงไป ส่วนขนมจีนน้ำเงี้ยวของร้านเจียง สำหรับดิฉันคือ ไม่เผ็ดเลยค่ะ สีอาจจะสดใสซาบซ่า แต่ว่าเอาจริง ๆ ไม่เผ็ดนะคะ ดิฉันรักเรื่องราวของขนมจีนน้ำเงี้ยวมาก ๆ ได้ทราบความว่าในยุคที่แร้นแค้น ชาวบ้านไม่มีสตางค์หาซื้อเนื้อสัตว์ใส่ลงไปในอาหารใด ๆ จึงได้นำดอกเงี้ยวมาใส่แทน เพราะมีความสัมผัสและความเหนียวที่คล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์ นอกจากน้ำเงี้ยวดิฉันก็รักแกงไตปลาค่ะ เพราะเป็นน้ำยาขนมจีน ที่รับประทานกับมะระจีนลวกได้เข้ากันมากที่สุด เป็นน้ำยาที่รสชาติเข้มข้น เผ็ดสะท้านทรง สะใจสุด ๆ สิ่งหนึ่งที่ดีงามสำหรับการรับประทานขนมจีนบุฟเฟ่ต์ คือเราสามารถตักน้ำยาขนมจีนผสมกันได้ค่ะ ฮิฮิ คือดิฉันชื่นชอบน้ำเงี้ยวและแกงไตปลา จึงตักผสมกัน สาดมาคนละฝั่งเลยค่ะ เหนือใต้มารวมกันเป็นหนึ่ง มีทั้งเลือดก้อนโตมหึมาและตีนไก่ จากน้ำเงี้ยว และหน่อไม้ต้มจากแกงไตปลา ถูกใจสาวอีสานยิ่งนัก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อตักขนมจีนมาแล้วเรียบร้อย เครื่องดื่มก็มาเสิร์ฟพอดีค่ะ ดิฉันสั่งน้ำมะตูม หวานหอมชื่นใจ ราคาแก้วละ 35 บาท ส่วนมารดาของดิฉันดื่มน้ำเปล่า ราคาขวดละ 15 บาท ไม่เอาน้ำแข็ง เพราะแม่หนาว... รับประทานขนมจีนจนเริ่มจุก ก็อย่าลืมไปนะคะว่า ขนมจีนบุฟเฟ่ต์ 129 บาทนี้ รวมไอศกรีมกะทิด้วย! แล้วอย่าได้คิดว่าไอศกรีมกะทิที่บรรจุอยู่ในบุฟเฟ่ต์นี้ จะไม่เลิศเลอ บางครั้งดิฉันกับแม่ก็มารับประทานขนมจีนบุฟเฟ่ต์ที่ร้านเจียง เพราะเราทั้งคู่อยากรับประทานไอศกรีมกะทิของที่ร้านค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ไอศกรีมกะทิของที่นี่ รสชาติไม่หวานมาก หอมมันพอดี ๆ รับประทานแล้วเพลิดเพลินสบายใจค่ะ มาลองรับประทานขนมจีนบุฟเฟ่ต์ที่เจียงกันดูนะคะ รับรองสะอาดปลอดภัย รสชาติดี มีน้ำยาครบทุกภาคค่ะ! *ภาพปกและภาพประกอบบทความโดยผู้เขียน