สวัสดีค่ะทุกคน บัวคัมแบคแล้วนะคะ หลังจากที่ห่างหายจากการไปเที่ยวมานาน วันนี้บัง เอ้ย บัวเลยจะพาทุกคนไปเที่ยว "ตลาดพลู" ซึ่งอยู่ในกรุงเทพมหานครของเรานี่เองค่ะ ซึ่งการเดินทางก็ไม่ยากลำบาก (เท่าไหร่) เลย มีหลายวิธีมาก แต่บัวคิดว่า BTS สะดวกสุด เลยเลือกวิธีนี้ค่ะ บัวและเพื่อนร่วมทริป เริ่มเดินทางกันที่ BTS สถานีวัดพระศรีมหาธาตุค่ะ พอถึงสถานีสยาม ก็เปลี่ยนไปนั่งสายสีลม (ไปบางหว้า) ไปลงที่สถานีตลาดพลูได้เลยค่ะ พอถึงสถานีตลาดพลู ให้เดินออกทางออกที่ 4 นะคะ เดินจนสุดทาง จะเจอบันไดทางลง ย้ำว่า สุดทางนะคะ ลงมาจะเจอ Family Mart ใครหิวกระหายก็หาซื้ออะไรรองท้องกันก่อนได้ แต่อย่ากินเยอะนะคะ เพราะเราต้องทำกระเพาะให้ว่าง ๆ เข้าไว้ ฮ่าๆ อะต่อ ๆ พอลงบันไดมา ให้ข้ามทางม้าลายไปถนนอีกฝั่งนึงค่ะ ข้ามระวังรถด้วยนะคะ รถเยอะมาก ๆ จากนั้นก็ตรงยาวเลยค่ะ ระยะทางก็ราว ๆ 600 เมตรได้ เดินไปซักพักจะเจอทางรถไฟค่ะ จากจุดนี้ที่เราเห็นรางรถไฟ แสดงว่าเราเริ่มเข้าสู่ตลาดพลูแล้วค่ะ Landmark ที่บัวจะพาเพื่อน ๆ ไปจุดแรก คือ สถานีรถไฟตลาดพลู ค่ะ เดินตามทางรถไฟไปได้เลย เราจะเจอสถานีสีม่วงพาสเทลสีสวยน่ารักน่าชังบริเวณซ้ายมือ พวกเราไม่รอช้า ไปหาของกิน!!! เพราะหิวมากค่าาา ไปเริ่มที่ร้านแรกกันเล้ยยย 1. ร้านเกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู พิกัดนี่ตอนแรกงง ๆ หาไม่เจอ เลยถามคุณน้าที่ขายปอเปี๊ยะทอดอยู่ข้างสถานีค่ะ ได้ความว่า ให้เดินทะลุสถานีไป เลี้ยวซ้ายจะเจอเซเว่น ตื๊อดือ ขอบคุณคุณน้ามาก ๆ นะคะ เดินตรงไปอีกนิด จะเจอร้านค่ะ ณ ตอนนั้น มองเข้าไปในร้าน ไม่มีที่นั่งเลย แต่ซักพักก็มีเสียงสวรรค์ดังขึ้นว่า "ข้างในมีที่ว่างนะคะ" พวกเราหันขวับและเดินตามพนักงานเข้าไปทันใด เลยได้เห็นว่าข้างในมีที่นั่งอีกส่วนนึงจริง ๆ ไม่รอช้ามองดูรายการอาหาร และสั่งอย่างว่องไวค่ะ มีทั้งเกาเหลา ก๋วยเตี๋ยว ข้าวก็มีนะคะ แต่เนื่องจากร้านนี้เด็ดเรื่องเนื้อ บัวก็เลยสั่งเส้นเล็กรวมไม่งอก 1 ที่ และน้ำพั้นช์เย็น ๆ 1 แก้ว ราคาน้ำหวาน แก้วละ 15 เองนะคะเออ ต้องบอกว่า ปกติบัวจะไม่ค่อยกินเนื้อ(วัว)นะคะ นาน ๆ กินที และครั้งนี้ สำหรับร้านนี้ บอกเลยไม่ผิดหวัง ไม่ว่าจะตัวเนื้อสด เนื้อเปื่อย และเครื่องในคือเดอะเบส น้ำซุปก็หอมอร่อย ฟินมากค่ะทุกคน อะค่ะ คีบขึ้นมาให้ดูชัด ๆ คือ ดีงามมากกก 2. ร้านขนมหวานตลาดพลู "กินคาว ไม่กินหวาน สันดานไพร่" ดังนั้น กินของคาวแล้วก็ต้องต่อด้วยของหวานนะคะ ออกจากร้านเกาเหลา เลี้ยวขวาก็ชนจัง ๆ กับร้านขนมหวานตลาดพลูค่ะ ร้านนี้มีขนมไทยต่าง ๆ นานา เยอะมาก แถมราคาก็น่ารักน่าชัง เริ่มที่ 8 บาทต่อชิ้นค่ะ ถ้าเป็นฝอยทองจะแพละ 15 บาท บัวชิมแล้ว 3 ผ่านค่ะ ฝอยทองดีงามมาก ตอนแรกก็กะว่าจะซื้อกลับไปกินที่บ้านนะคะ แต่พอลองเปิดชิมไปคำเดียว คำต่อมาก็ตามมาจนหมดเลย อยากให้ทุกคนลองมาก ๆ เลย พอออกจากร้าน ก็จะเจอป้ายไฟตลาดพลู และร้านค้ามากมาย เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ขอให้ทุกท่านข้ามทางม้าลายนะคะ เพราะรถวิ่งพลุกพล่านไปมามากมายจริง ๆ ต่อมาเป็นโซนร้านที่อยู่บริเวณหน้าตลาดรัชดาภิเษกนะคะ 3. ร้านยายใฝขนมเบื้องญวณ ร้านที่พวกเราไปลองกันอีกร้าน คือ ยายใฝขนมเบื้องญวณค่ะ คนรอไม่เยอะ แต่คนสั่งไว้เยอะมาก 555 จะฟีลแบบจดจ่อต่อการกิน น้ำมันร้านนี้ใสสุด ๆ ไข่บาง ๆ ห่อเครื่องเน้น ๆ พร้อมเครื่องเคียง 4. ร้านบะจ่างอาม่า ตลาดพลู อาม่าบอกว่ามี 2 แบบให้เลือก แบบมีเผือก กับไม่มีเผือก ราคาชิ้นละ 35 บาท 3 ชิ้น 100 ค่ะ ซึ่งทางตัวแทนของเราได้เลือกแบบไม่มีเผือกไป 5. ไม่ใช่ร้าน แต่ขอตั้งชื่อว่า ขนมจีบคุณยาย@สถานีรถไฟตลาดพลู ปิดท้ายด้วย ขนมจีบคุณยาย โดยเรื่องมีอยู่ว่า... พวกเรานั่งพักพร้อมกับชิมเสบียงที่สถานีรถไฟ (ซึ่งการชิมนั้น ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นการกินอย่างเป็นทางการ) คุณยายเดินมาพร้อมกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยกล่องขนมจีบ ซึ่งจริง ๆ เราเดินสวนกับคุณยายตั้งแต่ช่วงที่มาถึงแล้วล่ะ เหมือนฉากในอนิเมะ ขนมจีบนำพาเรามาพบกันค่ะ คุณยายวางตะกร้าลงบนม้านั่ง และถามว่า "ขนมจีบมั้ยคะ" พร้อมหน้าตาที่สดใส ขนมจีบกล่องนี้ราคา 40 บาท มาพร้อมน้ำจิ้ม และกระเทียมเจียว บัวถูกชะตากับคนที่ขายของด้วยรอยยิ้มและพูดเก่งค่ะ บัวแพ้ เลยอุดหนุนคุณยาย 1 กล่อง หลังจากซื้อแล้ว คุณยายก็อธิบายต่อถึงสินค้าว่า ทำจากหมู ใส่เห็ดหูหนู กับมันแกว อร่อยนะ ที่ตลาดพลูเนี่ย ถ้าไม่อร่อยขายไม่ได้ ก่อนหน้านี้ช่วงเจ ยายก็ทำของเจขาย พอหมดเจแล้วก็มาทำขนมจีบหมูขาย บัวชอบการคุยเก่งของยาย ชอบความตั้งใจขายของยาย เลยขอแชะภาพคุณยายมา 1 ภาพ คุณยายก็ยิ้มให้ตามที่เห็นนี่ล่ะค่ะ น่ารักมั้ยล่าาา ใครแวะมาที่ตลาดพลู ก็ไปลองชิมขนมจีบหมูของคุณยายดูได้นะคะ คำแรกที่บัวกัดไปอะ มันไม่เหมือนขนมจีบที่เคยกิน แต่คือดี ก็นั่นล่ะค่ะ ต้องไปลองกันน้าาา ก่อนกลับ บัวก็ไปเดินเก็บวิวบริเวณสถานีรถไฟ และพบว่า ร้านกระเพาะปลาที่อยากมาลอง เปิด!!! คือ ต้องบอกก่อนว่าบัวไปวันเสาร์ ก่อนไปบัวอ่านรีวิวมาค่ะ ในรีวิวเค้าบอกร้านเปิด จันทร์-ศุกร์ เลยตัดใจที่จะกินร้านนี้แล้ว เลยไม่ได้เดินไปเลย เป็นอะไรที่เสียดายมาก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จงไปร้านที่อยากไป อย่าเชื่อรีวิวมาก ฮ่า ๆ บัวอัปเดตให้ตรงนี้เลยนะคะ กระเพาะปลาร้านนี้เปิด จันทร์-เสาร์ 10.00-14.00 น. ขอย้ำ!!! เปิดวันเสาร์ด้วย ถึงจะเสียใจมากเพียงใด แต่เดินไปก็เจอเพียงถ่านที่ไฟกำลังจะมอด ลุงขายหมด และกำลังเก็บร้านแล้วค่ะ แง ร้องไห้หนักมาก ไว้หนูมาใหม่นะคะ ขากลับฝนริน บวกกับท้องตึงมาก เดินกลับไม่ไหว เลยนั่งรถสองแถวสีแดงค่ะ ราคา 8 บาท ช่วงนั้นฝนลงเม็ดหนักขึ้น ลุง: ลงหน้าเดอะมอลล์ (ท่าพระ) เลยเนอะ พวกบัว: โอเคค่ะลุง รถสองแถวแดงจอดที่หน้าเดอะมอลล์ พวกเราลงและเดินไปประมาณ 400 เมตร ก็จะเจอบันไดขึ้น BTS สถานีตลาดพลูค่ะ ปล. จริง ๆ ตอนขาไปตลาดพลูก็นั่งรถสองแถวแดงไปได้นะคะ ลงจาก BTS แล้วรอรถข้างล่างสถานี แต่ถ้าเป็นสายเดินก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ อิอิ ก่อนจากกันในวันนี้ ขอปิดท้ายด้วยรูปที่ถ่ายแล้วบัวรู้สึกรักเลยรูปนี้นะคะ เส้นทางที่แตกต่างกัน ก็สามารถพาเราไปสู่จุดหมายเดียวกันได้ ขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกที่จะอยากเห็นระหว่างทางแบบไหน ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางด้วยนะคะ ที่ไปลุยด้วยกันในทริปนี้ :) บางที แค่ได้ออกมาเจอผู้คน ในชุมชนที่เราไม่เคยไป กับคนที่เราอยากมีเขาอยู่ข้าง ๆ มันก็เติมเต็มความสุขของเราได้มาก ๆ เลยนะคะ ขอบคุณจากใจ ภาพทั้งหมดโดย ผู้เขียน