เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์หน้าร้อนกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับเดือนเมษายนนี้ ที่อุณหภูมิสูงลิ่วแทบจะแตะ 40 องศากันในสักวัน เรียกว่านาทีนี้ตรงไหนเย็นก็จงไปอยู่ตรงนั้นกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่หน้าร้อนคงไม่ใช่เวลามาหาดื่มน้ำอุ่นกันสักเท่าไหร่ ยกเว้นคนไม่สบายนะคะ เครื่องดื่มในช่วงนี้ที่เรียกว่าฮอตไม่แพ้อากาศ ไม่แพ้โควิด-19 ก็ต้องเป็นชานมนี้แหละค่ะ แต่รู้ไหมคะ? ว่าชานมแต่ละร้าน แต่ละสัญชาติ มันต่างกันอย่างไร และจริง ๆ แล้วเราชื่นชอบชานมแบบไหนกันแน่ วันนี้มาหาคำตอบกันค่ะภาพโดยผู้เขียนสาวกชามนมอย่างเรา ๆ แน่นอนว่าร้านไหนดี ร้านไหนดัง ร้านไหนเปิดใหม่ ก็ต้องไปตามหา เพื่อให้ได้ลองชิมกันดูสักครั้ง สำหรับวันนี้ขอนำเสนอชานม 3 สัญชาติ นั้นคือ ไทย ,ไต้หวัน และฮ่องกงนั้นเองค่ะ ซึ่งสำหรับวันนี้เราจะขอนำเสนอชานม จาก 3 แบรนด์ดัง ที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักอย่างแน่นอนภาพโดยผู้เขียนมาเริ่มกันที่ ชานม สัญชาติ ฮ่องกง จากอาฟเตอร์ยูนั้นเองค่ะ โดยชื่อเมนูก็บอกได้ชัดเจนแล้วว่าชานมนี้ เป็นชานมสไตล์ฮ่องกง ซึ่งความโดดเด่นของเจ้าชานมฮ่องกงนี้คือ ความเข้มข้นของชาที่บอกเลยว่าเข้มเสียจนมีรสขม ๆ ติดปลายลิ้นกันเลยทีเดียวค่ะ แต่ด้วยความเข้มข้นของชานี้แหละค่ะ ที่ทำให้เราได้กลิ่นของชานมฮ่องกงได้อย่างชัดเจน เรียกว่าหอมถูกใจสาวกชานมชานมอย่างเรา ๆ เลยทีเดียวค่ะ แถมรสชาติก็ไม่ได้หวานจนเลี่ยน ออกไปทางแนวดาร์ค ๆ หน่อยที่มีความหวานน้อย แต่ก็ยังได้รับความละมุนของชาอยู่บ้างจากส่วนผสมของนมนั้นเองค่ะภาพโดยผู้เขียนต่อกันที่ ชานม สัญชาติ ไต้หวัน ที่เป็นชานมแบบขวด ซึ่งถ้าหากใครที่ได้ไปเยือนประเทศไต้หวันแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด โดยชานมขวดของไต้หวันได้มีการผลิตออกมาหลายรสชาติเหมือนกันนะคะ แต่รสชาติที่เราชื่อนชอบมากที่สุดก็ต้องเป็นรสออริจินอล นี้แหละค่ะ เพราะให้ความหอมของชาอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายได้ดีเลยค่ะ แถมรสชาติก็ไม่ได้หวานมาก มีความเข้มข้นของชาแต่ก็ยังน้อยกว่าของฮ่องกงค่ะ เรียกว่าเป็นชานมที่ให้ความรู้สึกนุ่ม ละมุน และหอมกลิ่นชาอ่อน ๆ ได้ดีเลยทีเดียวค่ะภาพโดยผู้เขียนและสุดท้ายชานมของบ้านเราอย่าง ชานม สัญชาติ ไทยนั้นเองค่ะ เราเลือกแบรนด์ Kamu ซึ่งเป็นแบรนด์ชาสัญชาติไทยยังไงล่ะค่ะ โดยลักษณะเด่นจะอยู่ที่ความกลมกล่อมของทั้งความหวาน ความขม และกลิ่นที่ค่อนข้างจะไม่แรงจัดจ้านมาก แต่น่าแปลกใจตรงที่แอบมีความขม ปลาย ๆ ลิ้นติดอยู่เล็กน้อย ทั้งที่ความเข้มข้นของตัวชาก็ไม่ได้เข้มข้นมากเท่าของชานมแบบฮ่องกง เรียกว่าเหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างไต้หวัน และฮ่องกงในแก้วเดียวกันนี้เลยค่ะเรียกว่าชานมแต่ละสัญชาติมีความแตกต่างที่เราสามารถเลือกให้เข้ากับความชื่นชอบได้หลากหลายเลยทีเดียวค่ะ ถ้าหากใครชอบเข้ม ๆ แมน ๆ และความจัดเต็มของชา ก็ขอแนะนำให้เป็นชานมสูตรฮ่องกงเลยค่ะ แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบความละมุนลิ้น กลิ่มหอมหวน ที่ให้ความรู้สึกนุ่ม ๆ ก็ต้องเป็นชานมสูตรไต้หวันเลยค่ะ ส่วนสายกลมกล่อมที่ชื่นชอบการผสมผสานของทั้ง 2 ประเทศก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ชานมสัญชาติไทยของเรานี้เองค่ะเครดิตรูปปก Rosalind Chang ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป