อากาศร้อน ๆ ในช่วงบ่าย ๆ เครื่องดื่มที่เหมาะสมที่สุดคงไม่พ้นกาแฟใช่ไหมครับ วันนี้ผมจะมานำเสนอ Whipped Coffee กาแฟตีฟองที่กำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ หลายคนคงจะเคยเห็น กาแฟตีฟองจากดาราหลายท่านที่อัปโหลดรูปลง IG กันมาบ้างแล้ว ซึ่งวันนี้ผมจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักและวิธีการทำ Whipped Coffee รวมไปถึงเคล็ดลับที่ทำให้ฟองกาแฟเนียนน่ารับประทาน รวมไปถึงสูตรเพื่อสุขภาพที่ลดปริมาณน้ำตาลลง เหมาะสำหรับท่านที่กำลังควบคุมน้ำหนักWhipped Coffee กำลังเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากมีวิธีทำที่ง่าย รวดเร็วและอร่อย เป็นการรวมกันของวัตถุดิบไม่กี่ชนิด มีส่วนผสมของ กาแฟสำเร็จรูป น้ำตาล น้ำเปล่า และนมสด ก่อนที่ผมจะพูดถึงวิธีการทำ เรามาทราบถึงหลักการของ Whipped Coffee กันก่อนครับ โดยปกติในกาแฟสำเร็จรูป จะมีโครงสร้างภายในที่มีรูอากาศเล็ก ๆ อยู่ เพื่อช่วยให้กาแฟละลายได้เร็วขึ้น เมื่อนำกาแฟมาตีกับน้ำเปล่าในปริมาณเล็กน้อยจะทำให้อากาศที่อยู่ในกาแฟผสมลงไปในน้ำ จึงเกิดเป็นฟองขึ้นมาครับ ยิ่งถ้าท่านตีหรือเขย่ามากเท่าไหร่ยิ่งทำให้อากาศเข้าไปในส่วนผสม ทำให้เกิดฟองกาแฟที่น่ารับประทานครับ เคล็ดลับสำคัญในการทำให้ฟองกาแฟคงตัว และอยู่ได้นานคือการเติมน้ำลงไปในปริมาณเล็กน้อยนะครับ ไม่ควรเติมเยอะ และน้ำที่เติมลงไปไม่ควรเป็นน้ำร้อน เพราะจะทำกาแฟละลายเร็ว ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติครับ ส่วนปริมาณน้ำตาลที่ใส่ ก็ควรพอดีเพื่อจะเพิ่มความเข้มข้น และลดปริมาณอากาศที่อยู่ในฟองกาแฟของเราครับ ( ยิ่งใส่น้ำตาลเยอะยิ่งทำให้ฟองกาแฟเนียนครับ ) แต่วันนี้สูตรที่ผมจะมาแบ่งปันทุกท่านเป็นสูตรที่ไม่ใส่น้ำตาลเยอะนะครับ ไปดูส่วนผสมและวิธีการทำกันเลยครับ วัตถุดิบที่ใช้ กาแฟสำเร็จรูป 2 ช้อนชา น้ำตาล 2 ช้อนชา น้ำเปล่า 2 ช้อนชา วิธีการทำ นำส่วนผสมทั้งหมดผสมในอ่างผสมสแตนด์เลต หรืออ่างแก้ว แล้วใช้ตะกร้อมือหรือตะกร้อไฟฟ้าตีเร็ว ๆ อย่างต่อเนื่องจนเกิดฟองครับ จากนั้นเตรียมนมสดใส่แก้ว (แช่เย็นนมสดก่อน) แล้วเทฟองกาแฟไว้ด้านบนของแก้ว แค่นี้เป็นอันเสร็จสิ้นครับ ท่านจะได้ฟองกาแฟที่มีความละเอียดนุ่มและกลมกล่อมครับเป็นยังไงบ้างครับกับสูตรกาแฟ Whipped Coffee กาแฟตีฟองที่กำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ ทำง่ายใช่ไหมครับ วัตถุดิบและอุปกรณ์ก็ไม่ยุ่งยาก แถมได้รสชาติของกาแฟที่นุ่มนวลและกลมกล่อม เป็นเครื่องดื่มคลายร้อนในยามบ่ายได้ดีเลย หวังว่าทุกท่านจะลองเอาไปทำตามดูนะครับ เป็นกิจกรรมแก้ง่วงได้ดีเลยทีเดียว ขอบคุณที่ติดตามแล้วเจอกันใหม่ "สวัสดีครับ" ภาพหน้าปกและภาพถ่ายที่ 1 โดย Oana Cristina บน Unsplash / ภาพถ่ายที่ 2 และภาพที่ 3 โดยเจ้าของบทความ