“บักม่วงบ่ายโบก” ผมคิดว่าคนอีสานทุกคนน่าจะรู้จักนะครับ แม้บ้านจะอยู่ในตัวเมืองขนาดไหน แต่ความเป็นพื้นบ้านของภูมิภาคนี้ก็ยังมีอยู่ ของหวานที่หาได้ง่าย ๆ ในฤดูกาลที่มะม่วงสุกเต็มต้นในเดือนเมษายน - พฤษภาคม ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี ขอเล่าย้อนสักนิดในวัยเด็กช่วงเวลาฝนตก จะมีมะม่วงที่สวนท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นป่าของชุมชน ผมเคยเวิ่งเล่นแถวนั้น พอลมพัดมามะม่วงสุกก็จะหล่นเกลื่อนพื้นดินบริเวณนั้น ผมก็จะเก็บกลับบ้านเพื่อทำ “บักม่วงบ่ายโบก” ซึ่งติดใจมาก เพราะรู้ว่ามันหวานพอดี ไม่มีความเลี่ยนเหมือนกับการกินของหวาน ที่พอกน้ำตาลทั่วไป เมื่อกลับมาบ้านครานี้ ในสถานการณ์ที่แตกต่างของโรคโควิด – 19 มาเจอมะม่วงสีเหลืองน่าทาน ไม่รอช้าที่ทำเมนูนี้กิน และอยากให้ผู้อ่านต่างภูมิภาคได้ลองชิม จึงนำเรื่องราวนี้มาถ่ายทอดในบทความไปพร้อมกันครับ ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี ก่อนอื่นผมขออธิบายคำศัพท์เฉพาะของภาษาลาว/ภาษาอีสานก่อน คำว่า “บ่าย” นั้นเป็นคำพ้องรูปพ้องเสียงในภาษาอีสาน ความหมายหนึ่งหมายความถึง เวลาช่วงหลังเทียงก่อนเวลาเย็น และความหมายที่สองในภาษาอีสาน หมายถึง การเปื้อน การผสม การฉาบ หรือทา (คล้าย ๆ กับคำว่า ป้าย) ส่วนคำว่า “โบก” หลายถึง หลุม หรือรู ดังนั้นบักม่วงบ่ายโบก จึงเป็นการนำข้าวเหนียวใส่ในรูมะม่วงสุก นั่นเอง วิธีการทำ “บักม่วงบ่ายโบก” ทำง่าย ๆ ดังนี้ครับ ขั้นที่ 1 นำมะม่วงสุก ทดสอบโดยการจับตรงกลางแล้วบีบดูว่ามันนิ่มหรือไม่ บางลูกจะมีสีเหลืองสุกน่าทาน แช่น้ำเกลือประมาณ 5 นาที จากนั้นล้างผลมะม่วงด้วยฟองน้ำให้สะอาด ขัดยางมะม่วงออกให้หมด ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี ขั้นที่ 2 ปาดส่วนหัวของมะม่วงโดยห่างจากส่วนหัวที่เชื่อมกับกิ่งประมาณ 1 ข้อมือ ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี ขั้นที่ 3 ใช้มือบีบผลมะม่วงไปรอบ ๆ อย่างเบา ๆ ถ้าทำแรงผลมะม่วงจะแตก ค่อย ๆ ทำให้แกนมะม่วงหลุดออกมาจากรอยที่เราปาดไว้ เมื่อแกนมะม่วงหลุดออกแล้วก็ทิ้งไปได้ เราจะได้ “โบกมะม่วง” ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี ขั้นที่ 4 ปั้นข้าวเหนียวให้เป็นก้อนยาว แล้วหย่อนลงใน “โบกมะม่วง” จากนั้นก็ใช้อุ้งมือบีบเบา ๆ ไปรอบเพื่อให้เนื้อมะม่วงเข้ากันกับข้าวเหนียว เพียงแค่นี้ก็สามารถกัดกินได้เลยครับ ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี เพียง 4 ขั้นที่ผมกล่าวมาก็ทำ “บักม่วงบ่ายโบก” ได้แล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยทาน อยากลองทานดูบ้าง ก็อย่าลืมลองทำตามขั้นตอนที่ผมแนะนำไปนะครับ รับรองว่าอร่อยแน่นอน ภาพถ่ายหน้าปกโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี