12 ข้อดีของการสุขาภิบาลอาหาร ภายในบ้าน มีอะไรบ้าง | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล นอกจากเราจะต้องเรียนรู้ว่าเมนูต่างๆ มีขั้นตอนในการทำยังไงบ้างแล้วนั้น ในสถานการณ์จริงนั้น หลายคนอาจไม่รู้ว่า สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแน่ๆ ก็คือ การที่เราต้องใส่ใจเรื่องสุขาภิบาลอาหารในระหว่างที่เราทำอาหารด้วย โดยบางคนก็อาจจะได้ลงลึก ในขณะที่บางคนอาจอยู่ผิวๆ ซึ่งคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การที่เราหันมาใส่ใจด้านสุขาภิบาลอาหารภายในบ้านของเรานั้น กลายเป็นประเด็นที่สำคัญมากๆ หากพูดถึงในปัจจุบัน เพราะว่าอาหารสามารถเป็นสื่อของความเจ็บป่วยได้ ดังนั้นการสุขาภิบาลจึงเป็นเรื่องใกล้ตัวค่ะ ซึ่งถ้าเราใส่ใจมากขึ้น ก็จะเกิดผลดีหลายอย่างเลยนะคะ โดยที่หลายคนอาจจะยังมองภาพไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง ดังนั้นในบทความนี้เราจะมารู้กันค่ะว่า หากเรากันมาให้ความสำคัญกับการดูแลจัดการในระหว่างทำอาหาร ด้วยการยึดหลักการสุขาภิบาลอาหารแล้วนั้น จะมีผลดีอะไรบ้างต่อตัวเราและคนในครอบครัว โดยหลังจากอ่านจบแล้ว คุณผู้อ่านจะมองเห็นภาพใหญ่ของเรื่องนี้มากขึ้นและเข้าใจถึงความสำคัญ ตลอดจนยังสามารถสร้างความตระหนักให้กับตัวเองและคนรอบข้างได้อีกด้วยค่ะ ดังนั้นต้องอ่านต่อให้จบและค่อยๆ ทำความเข้าใจนะคะ และต่อไปนี้คือ 12 ข้อดีของการสุขาภิบาลอาหารภายในบ้าน ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ค่ะ 1. ลดความเสี่ยงจากอาหารเป็นสื่อ สุขาภิบาลอาหารในครัวเรือนเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันความเสี่ยงจากอาหารปนเปื้อนค่ะ เพราะการใส่ใจในความสะอาดตั้งแต่การล้างมือ การเลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ การปรุงอาหารให้สุกทั่วถึง และการเก็บรักษาอาหารอย่างถูกวิธี เช่น การแช่เย็นในอุณหภูมิที่เหมาะสม จะช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่เป็นอันตรายได้ การแยกอาหารดิบและอาหารสุกออกจากกัน รวมถึงการใช้เขียงและอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการป้องกันการปนเปื้อนข้าม การมีสุขอนามัยที่ดีในการจัดการอาหารที่บ้าน จึงเป็นเกราะป้องกันทุกคนในครอบครัวจากความเสี่ยงที่มากับอาหารนะคะ 2. สร้างสภาพแวดล้อมในบ้านที่ดี การจัดการอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ เช่น การทิ้งเศษอาหารอย่างมิดชิด การทำความสะอาดครัวและบริเวณรับประทานอาหารเป็นประจำ จะช่วยลดปัญหาแมลงและสัตว์พาหะนำโรคต่างๆ ทำให้บ้านสะอาด น่าอยู่ และปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้การจัดเก็บอาหารอย่างเป็นระเบียบ ยังช่วยให้ง่ายต่อการค้นหาและลดปัญหาอาหารหมดอายุโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของทุกคนในบ้านค่ะ 3. ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การวางแผนการซื้ออาหารอย่างรอบคอบ การเลือกซื้อเฉพาะเท่าที่จำเป็น และการนำวัตถุดิบที่เหลือมาปรุงแต่งเป็นเมนูใหม่ จะช่วยลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง ซึ่งเป็นการสูญเสียทรัพยากรโดยใช่เหตุค่ะ การจัดเก็บอาหารอย่างถูกวิธีในภาชนะที่เหมาะสมและในอุณหภูมิที่ถูกต้อง ยังช่วยยืดอายุของอาหาร ทำให้สามารถบริโภคได้นานขึ้น ลดความจำเป็นในการซื้ออาหารใหม่บ่อยๆ นอกจากนี้การหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุของอาหารก่อนการปรุงหรือบริโภค ก็เป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดการสูญเสียอาหารโดยไม่จำเป็น การใส่ใจสุขาภิบาลอาหารในบ้านจึงเป็นการสร้างจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าค่ะ 4. ส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ดี การให้ความสำคัญกับการเตรียมอาหารที่สะอาด และมีคุณค่าทางโภชนาการ เป็นการปลูกฝังให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของอาหารที่มีคุณภาพ การมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหาร เช่น การล้างผักผลไม้ การจัดเตรียมวัตถุดิบ หรือการปรุงอาหารง่ายๆ ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และกระตุ้นให้เกิดความสนใจในอาหารที่รับประทานมากขึ้น การจัดเก็บอาหารอย่างเป็นระเบียบและถูกสุขลักษณะ ยังช่วยให้ง่ายต่อการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ และลดโอกาสในการหยิบอาหารที่ไม่ดีมารับประทาน และถ้าจะพูดว่า การใส่ใจในสุขาภิบาลอาหารที่บ้าน เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างพฤติกรรมการบริโภคที่ดีและยั่งยืน ก็คงจะไม่ผิดค่ะ 5. ลดการสูญเสียอาหาร สุขาภิบาลอาหารในครัวเรือนเป็นหัวใจสำคัญของการลดการสูญเสียอาหารอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ เพราะการเริ่มต้นจากการวางแผนการซื้ออาหารให้เหมาะสมกับปริมาณการบริโภคจริง การเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีและรู้วิธีการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุของอาหารและลดโอกาสเน่าเสียก่อนเวลาอันควร การจัดเก็บอาหารแต่ละประเภทในอุณหภูมิและภาชนะที่เหมาะสม เช่น ผักสดแช่ตู้เย็นในช่องเก็บผัก ผลไม้เก็บในที่แห้ง หรืออาหารปรุงสุกเก็บในกล่องปิดมิดชิด ก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยรักษาคุณภาพอาหารให้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้การหมั่นสำรวจอาหารที่เก็บไว้เป็นประจำ และนำอาหารที่ใกล้หมดอายุมาปรุงอาหารก่อน ก็เป็นอีกแนวทางที่ช่วยลดปริมาณอาหารที่ต้องทิ้งไปโดยใช่เหตุ การใส่ใจในสุขาภิบาลอาหารในบ้านจึงเป็นแนวทางหนึ่งในลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 6. เพิ่มความมั่นใจในอาหาร เมื่อเราใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบที่สด สะอาด การล้างมือและอุปกรณ์อย่างถูกวิธี การปรุงอาหารให้สุกทั่วถึง ไปจนถึงการเก็บรักษาอาหารที่เหมาะสม เราจะมั่นใจได้ว่าอาหารที่เราทำนั้นมีคุณภาพค่ะ การที่เราควบคุมกระบวนการทั้งหมดด้วยตัวเอง ทำให้เรารู้แหล่งที่มาของอาหารและมั่นใจในคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ ซึ่งแตกต่างจากการซื้ออาหารสำเร็จรูปที่เราอาจไม่ทราบถึงกระบวนการผลิตหรือแหล่งที่มาอย่างละเอียด การมีสุขอนามัยที่ดีในการจัดการอาหารที่บ้าน จึงเป็นการสร้างความมั่นใจในคุณค่าทางโภชนาการของอาหารที่เราบริโภค 7. เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก การที่เราแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในความสะอาดของอาหาร ตั้งแต่การล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสอาหาร การเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ การปรุงอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ ไปจนถึงการเก็บรักษาอาหารอย่างเหมาะสม จะเป็นการปลูกฝังให้เด็กซึมซับพฤติกรรมเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว เมื่อเด็กเห็นความสำคัญของการจัดการอาหารที่ถูกสุขลักษณะในชีวิตประจำวัน พวกเขาก็จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้และใส่ใจในเรื่องนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อตนเองและครอบครัวในอนาคต การกระทำของเราจึงเป็นการสอนและสร้างนิสัยที่ดีให้กับเด็กๆ อย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพค่ะ 8. ลดการปนเปื้อนข้าม เมื่อเราแยกอาหารดิบออกจากอาหารสุกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บในตู้เย็นคนละชั้น หรือการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ที่แตกต่างกันในการเตรียมอาหารแต่ละชนิด จะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งปนเปื้อนจากอาหารดิบแพร่กระจายไปยังอาหารที่ปรุงสุกแล้ว การล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสอาหาร และการทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ในครัวอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกวิธีสำคัญในการตัดวงจรการปนเปื้อน การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่เราปรุง และลดความเสี่ยงต่อทุกคนในครอบครัวได้อย่างมากค่ะ 9. ลดความเสี่ยงต่อการแพ้อาหาร การใส่ใจในการแยกอุปกรณ์และพื้นที่ปรุงอาหารสำหรับผู้แพ้ จะช่วยป้องกันการปนเปื้อนของสารก่อภูมิแพ้ในอาหารอื่นๆ อย่างเข้มงวด การทำความสะอาดพื้นผิวและเครื่องครัวอย่างละเอียดหลังการเตรียมอาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้ก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ นอกจากนี้การอ่านฉลากส่วนผสมอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนนำมาปรุงอาหาร และการจัดเก็บอาหารของผู้แพ้แยกจากอาหารอื่นๆ อย่างชัดเจน จะช่วยลดโอกาสในการบริโภคอาหารที่แพ้โดยไม่ได้ตั้งใจ การมีสุขอนามัยที่ดีในการจัดการอาหารที่บ้านจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการดูแลผู้ที่มีอาการแพ้อาหารในครอบครัวนะคะ 10. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานบ้าน เมื่อเราจัดเก็บอาหารอย่างเป็นระเบียบและถูกสุขลักษณะในตู้เย็นและตู้กับข้าว เราจะสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว ลดเวลาในการเสียไปกับการหาของ นอกจากนี้การจัดการอาหารอย่างถูกวิธี เช่น การล้างผักผลไม้ทันทีที่ซื้อมาแล้วเก็บเข้าตู้เย็น จะช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมอาหารในแต่ละมื้อ และยังช่วยยืดอายุของอาหารได้อีกด้วย การทำความสะอาดครัวและบริเวณรับประทานอาหารเป็นประจำ ก็ช่วยลดการสะสมของคราบสกปรก ทำให้การทำความสะอาดใหญ่ในแต่ละครั้งง่ายและรวดเร็วขึ้น การมีระบบสุขาภิบาลอาหารที่ดีในบ้านจึงไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อตัวเรานะคะ แต่ยังช่วยให้การทำงานบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย 11. รักษาคุณภาพและรสชาติของอาหาร การเลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพดีเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่การจัดการหลังจากนั้นก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะการปรุงอาหารให้สุกอย่างเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป จะช่วยคงรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไว้ได้ การเก็บรักษาอาหารที่เหลืออย่างถูกวิธี เช่น การใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดและแช่เย็นในอุณหภูมิที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันการเสื่อมเสียของรสชาติและเนื้อสัมผัส รวมถึงป้องกันการปนเปื้อนจากเชื้อโรคต่างๆ การใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่มีคุณภาพและรสชาติอร่อยได้นานยิ่งขึ้น เหมือนเพิ่งปรุงเสร็จใหม่ๆ ทุกครั้งค่ะ 12. สร้างนิสัยรักความสะอาด การที่เราปฏิบัติเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือก่อนและหลังสัมผัสอาหาร การทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ในครัวหลังใช้งาน การทิ้งเศษอาหารอย่างถูกวิธี หรือการจัดเก็บอาหารให้เป็นระเบียบ จะเป็นการปลูกฝังให้สมาชิกทุกคนเห็นความสำคัญของความสะอาดและสุขอนามัยในชีวิตประจำวัน เมื่อเด็กๆ ได้เห็นและมีส่วนร่วมในกิจกรรมเหล่านี้ พวกเขาก็จะซึมซับและเติบโตไปพร้อมกับนิสัยรักความสะอาด ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขอนามัยส่วนตัวและสภาพแวดล้อมโดยรวมของบ้านอีกด้วย การมีสุขาภิบาลอาหารที่ดีจึงเป็นการสร้างนิสัยที่ดีที่ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของทุกคนในระยะยาวค่ะ ก็จบแล้วค่ะ กับ 12 ข้อดีของการหันมาใส่ใจด้านสุขาภิบาลภายในบ้านของเรา ที่เป็นจุดเริ่มต้นได้ง่ายๆ ในหลายๆ เรื่องค่ะ ปกติผู้เขียนพยายามพาเด็กๆ และหลานๆ ในบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการทำอาหารนะคะ และทุกครั้งก็มักจะบอกว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งเด็กก็ได้ความรู้จากการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงค่ะ เพราะว่าที่นี่ผู้เขียนพยายามทำตลอดในเรื่องของการสุขาภิบาลอาหาร ตั้งแต่ไปตลาดที่ต้องเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การล้างทำความสะอาด การจัดเก็บเพื่อรักษาคุณภาพ การจัดการขยะและน้ำเสียจากการทำอาหาร การจัดการไขมันและน้ำมัน การเลือกซื้อจานชามและช้อน การล้างทำความสะอาดและอื่นๆ อีกสารพัดค่ะ จะเรียกว่าทุกวินาทีที่ทำอาหาร พึ่งระลึกตลอดว่าต้องยึดหลักด้านสุขาภิบาลอาหารค่ะ ซึ่งความสำคัญและข้อดีทั้งหมดนี้ก็เป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านด้วย หากหันมาใส่ใจด้านสุขาภิบาลอาหารในบ้านค่ะ ยังไงลองอ่านทำความเข้าใจดีๆ อีกสักรอบก่อนก็ได้ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพทำหน้าปก โดย ธันยกร ไกรสร จาก Pexels และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-2 โดยผู้เขียน, ภาพที่ 3 โดย @pressfoto จาก FREEPIK และภาพที่ 4 โดย Alyson McPhee จาก Unsplash เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและจัดการสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน 9 ทริคเลือกนมพาสเจอไรซ์ เลือกยังไงดี 9 วิธีประหยัดน้ำมันพืช ทำยังไงดี ใช้น้อยลงได้ วิธีลดสารพิษตกค้างในผัก แบบธรรมชาติ มีอะไรบ้าง หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !