“ข้าวพันผัก” เป็นอาหารพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เกิดจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษในการถนอมอาหารที่มีมาอย่างช้านาน และเป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย แต่เดิมนั้นใช้ข้าวจ้าวหมักกับน้ำจนเป็นแป้งหมัก แต่ปัจจุบันมีแป้งสำเร็จรูป(แป้งหมักขนมจีน) ทำให้สะดวกในการทำมากขึ้น ข้าวพันผักจะมีส่วนผสมของแป้งกับผักต่างๆ นำมาอบให้สุกและรับประทานกับน้ำจิ้ม ปัจจุบันมีการดัดแปลงเมนูข้าวพันผักให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยการใส่เนื้อสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ ไส้กรอก ลูกชิ้น ไข่ไก่หรือไข่เป็ด รวมไปถึงวุ้นเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือเส้นบะหมี่ลงไปด้วย ทำให้เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นค่ะ จะเห็นได้ว่าเมนูข้าวพันผักนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ เลยนะคะ โดยเฉพาะกับคนที่กำลังต้องการควบคุมน้ำหนักด้วยแล้ว เมนูนี้ถือว่าเหมาะมากเลยค่ะ ได้สารอาหารครบถ้วน เน้นผักเป็นส่วนใหญ่เพื่อเพิ่มกากใยซึ่งจะช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้นด้วยค่ะ เมนูดีๆ แบบนี้ ของแท้หารับประทานได้ที่เมืองลับแลเท่านั้นนะคะ แต่ในช่วงนี้ในหลายๆ ท่านก็กักตัวอยู่บ้าน อีกทั้งมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) แบบนี้ จะออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด หาของอร่อยๆ ทานก็คงเป็นไปได้ยากค่ะ วันนี้ผู้เขียนจึงจะมาสอนการทำเมนูข้าวพันผัก เผื่อมีท่านใดสนใจอยากทำเมนูข้าวพันผักรับประทานอยู่ที่บ้านและยังเป็นการสร้างกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวในช่วงอยู่บ้านต้านโควิด งั้นเดี๋ยวเราไปเริ่มทำ“ข้าวพันผัก” เมนูสำหรับคนรักสุขภาพกันเลยค่ะ ก่อนอื่นเราต้องจัดเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบกันก่อน ดังนี้ค่ะ 1.ชุดหม้อทำข้าวพัน ประกอบไปด้วย หม้อทำข้าวพัน ฝาหม้อ ไม้ข้าวพัน โหลน้ำทรงสูง และจวักค่ะ 2.แป้งหมัก ปัจจุบันก็จะใช้แป้งหมักสำเร็จรูปนะคะ เป็นแป้งหมักชนิดเดียวกับแป้งทำขนมจีนค่ะ 3.ผักต่างๆ เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ผักบุ้ง แครอท เห็ดเข็มทอง ถั่วงอก ฯลฯ 5.ไข่ จะใช้เป็นไข่ไก่หรือไข่เป็ดก็ได้นะคะ 6.เนื้อสัตว์ อาจจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ ที่สับหรือบดละเอียดนะคะ ไส้กรอก ลูกชิ้น ต่างๆ ตามที่เราชอบได้เลยค่ะ 7.เครื่องปรุงรส ได้แก่ เกลือป่น พริกป่น งาดำ ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำตาล 8.วุ้นเส้น 9.เครื่องเคียง ได้แก่ แคบหมู กระเทียมเจียว และน้ำจิ้ม เมื่อจัดเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบกันเรียบร้อยแล้ว เราก็มาเริ่มลงมือทำข้าวพันผักกันได้เลยค่ะ โดยมีวิธีทำดังนี้ค่ะ 1.การเตรียมแป้งข้าวพัน นำแป้งหมักมาล้างน้ำสะอาด 1 น้ำ แล้วนำมาผสมกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน โดยใช้อัตราส่วน 1:1 โดยประมาณค่ะ ใช้มือบีบเนื้อแป้งให้ละลายแล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำ เสร็จแล้วแป้งจะมีลักษณะข้นๆ ค่ะ ไม่เหลวหรือเหนียวจนเกินไปนะคะ 2.ปรุงรสแป้งข้าวพัน นำแป้งที่เราละลายน้ำเรียบร้อยแล้วมาเติมเกลือป่นลงไปเล็กน้อย จากนั้นใส่งาดำที่ล้างสะอาดและขั้วสุกแล้วลงไปค่ะ คนให้เข้ากันนะคะ 3.การเตรียมหม้อข้าวพัน ลักษณะหม้อข้าวพันจะมีผ้าขึงอยู่ และด้านบนปากหม้อจะมีรูเล็กๆ สำหรับให้เติมน้ำและให้ไอความร้อนขึ้นมาทำให้ข้าวพันสุกนะคะ ให้เราเติมน้ำเปล่าลงไปตรงรูเล็กๆ นี้เลยค่ะ เติมประมาณครึ่งหม้อนะคะ หรือจะมากกว่านี้ก็ได้ค่ะถ้าเราจะเยอะ จากนั้นตั้งหม้อให้เดือดค่ะ ใช้ไฟแรงและสม่ำเสมอนะคะ 4.ละเลงแป้ง สังเกตดูเมื่อหม้อเดือดแล้วจะมีไอน้ำขึ้นมาค่ะ ให้เรานำแป้งที่เตรียมไว้ ตักมาประมาณ 1 จวัก มาละเลงลงบนผืนผ้าที่ปากหม้อ โดยละเลงเป็นลักษณะแผ่นกลมๆ นะคะ จากนั้นปิดฝาหม้อไว้ประมาณ 30-60 วินาทีค่ะ และรอให้แป้งสุกค่ะ 5.ละเลงไข่ เมื่อแป้งสุกแล้วก็เปิดฝาหม้อ นำไข่มาตีให้ฟูแล้วตักมาละเลงบนแป้งที่สุกแล้วค่ะ จากนั้นปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 30-60 วินาที และรอให้ไข่สุกค่ะ 6.ใส่ผักและเนื้อสัตว์ เมื่อไข่สุกแล้วเปิดฝาหม้อมาเราจะเห็นว่าไข่ฟูน่ารับประทานมากเลยนะคะ เราก็นำผักต่างๆ เนื้อสัตว์ วุ้นเส้น ฯลฯ ที่เราเตรียมไว้มาใส่ได้เลยค่ะ แล้วก็ปิดฝาหม้อไว้ประมาณ 3 นาทีค่ะ ผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ก็จะสุกค่ะ 7.ห่อข้าวพันผัก เมื่อสุกแล้วเราก็เปิดฝาหม้อ และนำไม้ข้าวพันมาพับแป้งห่อข้าวพันผักและตักใส่จานให้เรียบร้อยค่ะ 8.ปรุงรสพร้อมรับประทาน การปรุงรสอันนี้ตามใจชอบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา น้ำตาล พริกป่น ซอสปรุงรส หรือบางท่านอาจจะทานกับซอสพริก หรือน้ำจิ้มสุกี้ก็ได้นะคะ เป็นไงกันบ้างคะ กับ “ข้าวพันผัก เมนูสำหรับคนรักสุขภาพ” ไม่ยากแถมได้ประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการด้วยนะคะ นอกจากนี้แล้วยังสามารถทำขายเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วยค่ะ สำหรับท่านที่สนใจชุดอุปกรณ์ทำข้าวพันผักก็สามารถสั่งซื้อได้ที่เพจเฟซบุ๊ค “ข้าวแคบคุณยาย” และเพจเฟซบุ๊ค “นิสาพาณิชย์” นะคะ สุดท้ายนี้หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รู้จัก "ข้าวพันผัก" เมนูสำหรับคนรักสุขภาพกันมากขึ้น และอย่าลืมมาเที่ยวเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ เครดิตภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียนเองค่ะ TomNah