"กรหมี่ไก่" เรื่องราวความเป็นมา บรรยากาศยามเย็น ณ ย่านตลาดใหม่ผู้คนล้วนมีความสัมพันธ์กับการดำรงชีวิตอยู่รอดได้นั้น ส่วนหนึ่งคือการกิน การกินเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อการดำรงชีวิตอยู่ จึงทาให้ทั้งในอดีตสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันมีร้านอาหารมากมายในหาดใหญ่ ที่ชวนน่าลิ้มลองและน่ากิน แต่แน่นอนว่าร้านอาหารนั้นย่อมมีทั้งร้านใหม่และร้านในตำนาน หากจะกล่าวถึงร้านอาหารที่เป็นตำนานในหาดใหญ่นั้น คงไม่มีชาวหาดใหญ่ผู้ใดไม่รู้จัก นั่นคือ “ร้านกรหมี่ไก่”บ้านไม้หนึ่งชั้นหลังเล็ก ๆ ที่ภายนอกอาจจะดูไม่มีอะไร แต่ภายในตามฝาผนังเต็มไปด้วยรูปภาพความทรงจำมากมายของลุงกรและบุคคลสำคัญ จากร้านหนึ่งห้องและมีเพิ่มออกมาด้านนอกอีก กลยุทธ์อะไรกันนะที่ทำให้ร้านกรหมี่ไก่มีผู้คนแวะเวียนมาลิ้มลองรสชาติไม่ขาดสาย ทำได้เพียงแค่สงสัย หากทว่ามันต้องลองชิมเองถึงจะรู้ว่าเพราะอะไรคนถึงแน่นร้านตลอด นั่นเป็นเพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีรสชาติของก๋วยเตี๋ยวลุงกรก็ยังเหมือนเดิม ทำให้นึกถึงวันเก่า ๆ และความทรงจาเก่า ๆ ที่เคยได้รับประทานแรงจูงใจที่ทำให้เปิดร้าน "กรหมี่ไก่"ลุงกรเล่าให้ฟังว่า “ลุงกรเริ่มทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ น้าสอนให้ฝึกทำองทุกอย่างจนติดเป็นนิสัยเพื่อให้ลุงกรได้มีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ในอนาคต โตขึ้นมาหน่อยก็ไปเป็นลูกจ้างเขา จนมีความคิดว่าอยากเปิดร้านเป็นของตัวเอง เพราะลุงกรไม่ถนัดงานอาชีพอื่นเลย จึงชวนน้อง ๆ มาเปิดร้านเป็นของตัวเอง” ทำให้เราคิดว่าการที่จะเป็นผู้นำนั้น ไม่ใช้เรื่องง่ายเลย แล้วทำไมคุณต้องทำให้มันเป็นเรื่องยาก ในเมื่อคุณแค่ช่วยกันทำ แบ่งหน้าที่ของตัวเองและร่วมกันรับผิดชอบในหน้าที่ของตน และนี่จึงกลายเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คน ต่างก็สงสัยกันว่าการที่บริหารร่วมกันกับพี่น้องจะมีปัญหากันบ้างไหม แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะมีปัญหากันหรือไม่ มีปัญหาในการทำงานร่วมกับพี่น้องหรือไม่?เราต้องขอพูดก่อนว่าในความคิดเราครอบครัวลุงกรสามารถเป็นแบบอย่างได้เลยสำหรับธุรกิจครอบครัว เป็นเพราะว่าสิ่งที่ลุงกรสร้างขึ้นมานั้นลุงกรมีแต่ให้ มีแต่แบ่งปัน ไม่เห็นแก่ตัว และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การจะทำธุรกิจครอบครัวแน่นอนว่าต้องมีการแย่งชิงกัน แต่ครอบครัวลุงกรกลับไม่มีความคิดเหล่านั้นอยู่ในหัวเลย “ตั้งแต่เปิดร้านมา 31 ปี ไม่เคยมีปัญหากันเลย ถ้าเป็นเรื่องงานอาจจะมีนิดหน่อย แต่ถ้าเป็นเรื่องบริหารร่วมกันนั้นไม่เคยมีปัญหาหรือทะเลาะกันเลย” ลุงกรกล่าว นี่จึงทำให้เรารู้สึกอึ้งเป็นอย่างมากที่พี่น้องไม่ทะเลาะและแย่งชิงกันเลย และลุงกรได้เล่าต่อว่า “ทุกคนมีส่วนร่วมและทุกคนได้เป็นเจ้าของร้านร่วมกันหมด เพราะทุกคนจะได้รับผิดชอบร่วมกัน” ทำให้เราเห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพราะหากถ้าเราสำเร็จ ทุกคนก็จะสำเร็จไปด้วย หากถ้าเราผิดพลาดทุกคนก็จะผิดพลาดไปด้วยและช่วยกันหาวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดร่วมกัน จึงทำให้เรารู้สึกสงสัยเพิ่มขึ้นไปอีกว่าครอบครัวลุงกรมีกี่คน ลุงกรเล่าต่อ “ครอบครัวลุงกรมี 14 คนพี่น้อง ตั้งแต่เด็กจนโตทุกคนแทบไม่เคยจะทะเลาะกันเลย เพราะพ่อแม่สอนมาดี” ประโยคที่ลุงกรพูดว่า "เพราะพ่อแม่สอนมาดี" ลุงกรยืนยันหนักแน่นมาก และเราก็เชื่อแบบนั้นจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เราไปร้านกรหมี่ไก่ พี่น้องทุกคน มีหน้าที่หมด และช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่มาก ๆ และจากที่เราได้คุยกับทุกคน เขายิ้มแย้ม อารมณ์ดีตลอด และยังใจดีอีกด้วยจุดเด่นของรสชาติ "กรหมี่ไก่"เราทุกคนต่างกันสงสัยไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ๆ รสชาติก็ยังเหมือนเดิม มีกลิ่นหอมของ “เตาถ่าน” เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ร้านเปิดมาจนถึงปัจจุบันลุงกรใช้เตาถ่านมาตลอด เพราะลุงกรคิดว่า เตาถ่านจะให้ความร้อนได้มากกว่าเตาแก๊ส มันจะไม่มีกลิ่นของแก๊สในน้ำซุปเลย เพราะลุงกรไม่เคยใช้เตาแก๊สในการเคี้ยวน้าซุปเลยและการใช้เตาถ่านจะทำให้น้ำซุปมีกลิ่นหอม นี่จึ้งเป็นเหตุผลที่ทำไมคนถึงชอบมารับประทานกันเต็มร้านทุกวัน และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือวัตถุดิบที่ใช้ในแต่ละวัน เพราะในแต่ละวันนั้นทุกอย่างทำเองหมดเลย เช่น เส้นหมี่เหลือง หมูแดงและไก่ เป็นวัตถุดิบที่ปรุงเองทุกอย่าง ยกเว้นลูกชิ้นที่รับมาจากบริษัท และการปรุงรสชาติของน้ำซุปและวัตถุดิบจะใช้วิธีการตวงในปริมาณเท่าเดิมทุกวัน จะไม่มีการชิม มาถึงตรงนี้เรายังตกใจเลยค่ะ ที่การปรุงรสชาติไม่มีการชิม คงสงสัยกันว่าแล้วจะรู้รสชาติได้อย่างไร จากที่เราได้ทานมาตลอด เรายังไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติที่ผิดเพี้ยนเลยค่ะ และเราคิดว่าลูกค้าท่านอื่นก็เช่นกัน ทุกคนที่ได้ไปรับประทานมาก็คงคิดแบบเรา เพราะถ้ารสชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิมจริงๆ เราคิดว่าลูกค้าคงไม่เต็มร้านทุก ๆ วันแน่นอนค่ะ และการรักษามาตรฐานที่ดี วันไหนที่วัตถุดิบหรือน้ำซุปเหลือ ลุงกรก็จะทิ้งทันที และจะไม่มีการนำของที่เหลือค้างคืนกลับมาใช้ เพราะจะทำให้รสชาติเปลี่ยน และราคาย่อมเยามาก เหมาะสำหรับทุกช่วงวัยจริง ๆ เลิกงาน เลิกเรียน พบปะเพื่อน หรือจะไปกับคนรัก ราคาย่อมเยาแล้วยังช่วยให้ท้องเราอิ่มด้วย อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คืออย่าให้มันผิดพลาดทั้งด้านบริการ ด้านรสชาติ ทุกอย่างพยายามให้คงที่เพื่อที่จะรักษามาตรฐานเอาไว้ เราจึงสงสัยว่า ในอนาคตจะมีรุ่นหลานมาสืบกิจการต่อไปหรือเปล่า ลุงกรตอบเราว่า “ร้านนี้จะเปิดไปเรื่อย ๆ จนกว่าลุงกรจะไม่ไหว และจะไม่มีลูกหลานสืบกิจการต่อ เพราะลุงกรไม่มีลูกและบรรดาน้อง ๆ ก็ไม่มีใครแต่งงาน ถ้ามีคนขอซื้อกิจการต่อก็จะไม่ขาย เพราะมันคือกิจการของครอบครัว” มันน่าเสียดายใช่ไหมล่ะ ที่จะไม่มีใครสืบต่อกิจการ หากอนาคตในหาดใหญ่ไม่มีร้านกรหมี่ไก่แล้ว ชาวหาดใหญ่คงเสียร้านเจ้าดังตำนานของหาดใหญ่ไปหนึ่งร้านเลยค่ะ หวังว่าใครที่แวะไปเที่ยวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะไปอุดหนุน "กรหมี่ไก่" ร้านของครอบครัวลุงกรเยอะ ๆ นะคะพิกัด : https://goo.gl/maps/hA9531VHSzgYq5ph8ที่อยู่ : ถนน ผดุงภักดี ตำบล หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัด สงขลา เวลาเปิด - ปิด : 15.00 - 21.00 น.โทรศัพท์ : 082-263-7862*รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยเจ้าของบทความห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป