" เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ชงกาแฟกินเองกันที่บ้าน " คำนี้คงไม่เกินจริงไปแล้วสำหรับยุคนี้ที่ต้องบอกว่าการดื่มกาแฟกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าหามากยิ่งขึ้น. ส่งผลให้เรามีร้านกาแฟเปิดขึ้นมากมาย รวมไปถึงการทำกาแฟดื่มเองที่บ้านหรือที่เรียกว่า " Home Cafe " เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นตามไปด้วย. อาจจะเพราะว่าข้อดีอย่างหนึ่งของการทำกาแฟดื่มเองที่บ้านคือ การได้ลองหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเมล็ดที่ชอบ หรือ อุปกรณ์ที่ใช่ ทำให้การทำกาแฟสนุกมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ. แต่แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเรื่องของอุปกรณ์ก็เต็มไปด้วยความหลากหลายให้เลือก ทำให้บางครั้งคนที่พร้อมจะลองทำกาแฟเองอาจจะเกิดความลังเลว่า จะต้องซื้ออะไรเพราะราคาแต่ละอย่างก็มีตั้งแต่ถูกมาก ๆ ไปจนแพงมาก ๆ หนึ่งในนั้นคืออุปกรณ์สำคัญคือเครื่องบดกาแฟนั่นเอง. เครื่องบดกาแฟในท้องตลาดนั้นมีมากมายหลากหลายแบรนด์ และ ถ้าเป็นคนที่อยู่ในวงการที่บดกาแฟแบบมือหมุนก็ต้องคุ้น ๆ กับแบรนด์ Timemore ซึ่งผมขอใช้คำว่า นี่คือแบรนด์เริ่มต้นราคาย่อมเยาที่ทุกคนจับต้องได้. แต่วันนี้ผมอยากจะพามาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ที่บดกาแฟมือหมุนตัวท็อปของแบรนด์นี้กันบอกเลยว่า คุณภาพเกินราคาไปมาก และ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพราะราคามันไม่ถึง 2,000 บาท!! . Timemore C3 Chestnut Pro Max เป็นตัวบดมือในซีรีย์ล่าสุดของแบรนด์ซึ่งมีจุดเด่นคือมาพร้อมกับเฟืองบดแบบใหม่ที่เรียกว่า S2C ที่ใช้เทคโนโลยีทั้งการตัดเมล็ดก่อนที่จะบดเพื่อให้สามารถบดได้เร็วขึ้น ใช้แรงน้อยลง และทำให้รสชาติและกลิ่นของกาแฟออกมาดีขึ้น. ตัวเฟืองมีขนาด 32 มม. และมีความจุของการใส่เมล็ดกาแฟได้ 30 - 32 กรัม. สำหรับคนที่ไม่รู้ถึงความสำคัญของเฟืองบด อธิบายได้ง่าย ๆ ครับว่า แต่ละเฟืองบดจะทำให้เมล็ดถูกบดออกมาในรูปร่างที่ต่างกัน รวมไปถึงขนาดที่ออกมาว่าสม่ำเสมอกันหรือเปล่า ถ้าไม่สม่ำเสมอมีผงเล็ก ๆ ที่เราเรียกว่าผงละเอียดมากเกินไป ก็จะทำให้กาแฟรสชาติติดขมได้ง่ายนั่นเอง. รีวิวจากการใช้งานของผมเอง โดยผมจะแบ่งออกเป็นทั้งสิ่งที่ชอบเป็นข้อดี และ สิ่งที่ไม่ชอบเป็นข้อด้อยนะครับข้อดีอย่างแรกคือ ดีไซน์สวยมาก ๆ ตัวนี้ออกแบบให้ก้านหมุนสามารถพับเก็บได้ด้วยบวกกับน้ำหนักที่เบาพกพาง่ายแน่นอน2. ทำเรื่องกลิ่นของกาแฟออกมาได้ดีกว่าตัว C2 มาก ๆ ครับส่วนตัวประทับใจมาก ๆ กลิ่นชัด อาจจะไม่ได้ถึงกับตัวหลักหมื่น ๆ หรือหลายพัน แต่ด้วยราคาเท่านี้ต้องบอกว่าประทับใจมาก ใครใข้ตัวเก่าอย่าง C2 หรือใครใช้มือบดราคาถูกมาก ๆ อย่างขยับขึ้นมาอีกหน่อย รับรองว่าเห็นความต่างแน่นอน.3. เฟืองตัวใหม่บดสม่ำเสมอขึ้นเยอะมาก ๆ และเร็วขึ้นจริง ๆ ผมมีภาพเปรียบให้เห็นด้วยครับว่า ผงกาแฟที่ได้สม่ำเสมอมาก ๆ ผงละเอียดน้อย ได้กลิ่นที่ดีและรสชาติที่ชัดเจนมาขึ้น ไม่กลม ๆ น่าจะเหมาะกับตัวที่มีความเปรี้ยว รับรองว่าได้รสที่ชัดแน่นอน.4. เรื่องของการบด บดได้ตั้งแต่ ดริป ไปจนถึง Espresso เลยครับ แต่อาจจะไม่ได้เหมาะมากกับความละเอียดระดับนั้นเพราะต้องใช้แรงและเวลาพอสมควร. บดคั่วอ่อนได้ดี คั่วกลางสบาย ๆ เลยครับ.ข้อเสีย1. การจับถือไม่ค่อยมั่นคงมากเท่าไหร่ รวมไปถึงตัวจับตรงก้านหมุนขนาดไม่ได้พอดีมือมากส่งผลให้การหมุนไม่ดีเท่าที่ควร.2. แม้จะบดคั่วอ่อนได้ แต่ถ้าจะบดคั่วอ่อนในระดับละเอียด ๆ เหนื่อยพอสมควรครับ. 3. ปรับความละเอียดต้องปรับด้านใน มีหลายแบรนด์ที่ทำตัวปรับความละเอียดไว้ด้านนอกซึ่งสะดวกมาก ๆ แต่ตัวนี้ต้องหมุนที่รองออกและหมุนจากด้านใต้ และไม่มีเลขบอกครับ ทำให้ต้องกลับไปเริ่มที่ศูนย์ใหม่เกือบทุกครั้ง. สรุป Timemore C3 Chestnut Pro Max เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักดริปมือใหม่ ไปจนถึงระดับกลางเลยครับ ราคาแค่นี้ได้ขนาดนี้นับว่าสุดยอดมาก ๆ . เฟืองตัวใหม่นี้ทำได้ดีมาก น่าประทับใจ ส่วนคำถามว่าดีกว่า C2 ไหม ? ส่วนตัวผมเองบอกเลยว่าเปลี่ยนเลยครับ มาC3 ไม่ผิดหวังแน่นอน. Timemore C3 มีให้เลือกหลากหลายรุ่น ที่สำคัญมีเฟืองให้เลือกซื้อมาเปลี่ยนเองตามชอบใจด้วย. ใครที่อยากเอาไปใช้ในด้านไหนลองซื้อมาเปลี่ยนเองราคาก็ยังถือว่ารับได้ครับ. สนนราคาที่ผมได้มาคือ 1,850 บาท คุ้มมาก ๆ ยังไงใครมีข้อสงสัยพูดคุย ถามกันได้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจครับ. เครดิตรูปภาพ รูปหน้าปก&รูปที่ 1 จาก Timemore Officialภาพถ่ายผู้เขียนถ่ายเองทั้งหมดห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป