ช่วงกักตัว รักษาระยะห่าง เพื่อให้เธอรู้ว่าเราห่วง ทำให้เราคิดถึงร้านข้าวแกงมากๆ ค่ะ ราคาไม่แพง แถมมีเมนูให้เลือกเพียบ เมนูหนึ่งที่เราท้าว่าทุกร้านต้องมีคือ "ไข่พะโล้" แต่สารภาพเลยว่า นี่เป็นเมนูท้ายๆ ที่เราเลือกสั่ง เพราะถ้าไม่ใช่ร้านข้าวแกงที่รู้จักรสชาติกันเป็นอย่างดีแล้ว มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเจอ..ไข่พะโล้หวานเจี๊ยบ เหมือนแม่ค้าทำน้ำตาลหกลงหม้อ หรือไข่พะโล้ไร้จิตวิญญาณ คือ รสชาติมาแบบเจือจาง เลือนลาง คล้ายความรู้สึกที่เธอมีให้เรา เหมือนจะรัก แต่หนักปากนัก ไม่ยอมพูด! ระหว่างรอเธอเปิดใจ อยากชวนเพื่อนๆ มาเปิดครัว ปรุงไข่พะโล้หม้อแรกด้วยกันค่ะ เตรียมวัตถุดิบ ไข่เป็ด : หม่อมป้าเคยสอนไว้ อาหารจานไข่ ถ้าปรุงเสร็จแล้วยังคงหน้าตาเป็นไข่ทั้งฟอง ให้ใช้ไข่เป็ด เช่น ไข่พะโล้ ไข่ลูกเขย แต่ถ้าปรุงแล้ว ไข่ออกมาหน้าตาไม่เหมือนเดิม ให้ใช้ไข่ไก่ค่ะ เช่น ไข่เจียว ไข่ตุ๋น เราทำครั้งแรกไม่กลัวพัง จัดไข่เป็ดมา 20 ฟอง สันคอหมู : หมูสามชั้นจะทำให้ไข่พะโล้มีเสน่ห์มากขึ้น เพราะไขมันจากหมูจะชโลมรสชาติเข้มข้นจนทั่วตอนเคี่ยว แต่นิ้วเราเกือบกลายเป็นกีบแล้ว! เลยใช้สันคอหมูที่มีไขมันแทรกอยู่แทน เอาไปตุ๋นแล้วเนื้อหมูยังนุ่มชุ่มฉ่ำ เราใช้ 500-600 กรัมค่ะ เต้าหู้ทอด : เต้าหู้นี่ใครชอบแบบไหน จัดแบบนั้นเลยค่ะ แต่ขอเป็นแบบเนื้อแข็งและทอดมาแล้ว จะได้ไม่เละตอนต้ม เราใช้เต้าหู้ทอดแบบที่ใช้ในโอเด้งค่ะ ซื้อมา 2 แพ็ค น้ำตาลมะพร้าว : ถ้าได้น้ำตาลที่ทำเสร็จใหม่ๆ จะให้กลิ่นหอมหวานนวลๆ ชวนให้หิวมากเลยค่ะ เราใช้ประมาณ 200 กรัม (เราแกงแบบน้ำน้อยๆ ถ้าบ้านไหนชอบแบบราดน้ำแกงชุ่มๆ ให้เพิ่มน้ำตาลเป็น 250-300 กรัมเลยค่ะ) สามสหาย : ตำรากผักชี กระเทียมไทย และพริกไทยเม็ดเข้ากันให้ได้ 2-3 ช้อนโต๊ะกินข้าว เราใช้รากผักชี 10 ราก เพราะชอบกลิ่นหอมของผักชีมาก กระเทียมไทยอีก 7-8 กลีบ และพริกไทยเม็ดอีก 40 เม็ดขึ้นไปค่ะ คือ..เราชอบรสแบบเข้มข้น เผ็ดร้อนและหอมมาก ถ้าไม่อยากให้ร้อนมากเกินไปเพื่อนๆ ปรับลดลงได้นะคะ เครื่องยาจีน : ที่จริงเครื่องเทศพวกนี้ หากเป็นพะโล้แบบไทยๆ ไม่ต้องใส่เลยค่ะ หลายบ้านจึงเรียกพะโล้ว่า หมูต้มเค็ม แต่ในครัวเรามีอบเชย (แท่งม้วนๆ) โป๊ยกั๊ก (ดอกไม้ 8 แฉก) และชวงเจีย (พริกหอม) เลยจัดมาเพิ่มมิติความหอมให้กับไข่พะโล้ด้วย มีความเครื่องเทศเบาๆ ลงมือปรุง ต้มไข่เป็ด ปอกเปลือกให้สวยงาม แล้วพักไว้ ฟองไหนมีรอยแตก เหยาะซอสปรุงรสแล้วเอาเข้าปากเลยค่ะ ถ้าเอาไปต้ม ไข่แดงจะทะลักออกมา ทำให้น้ำแกงไม่งดงาม เตรียมของหอม ตำสามเกลอให้ละเอียดที่สุดเท่าที่แรงแขนเราอำนวยค่ะ พักไว้ แล้วหันมาตั้งกระทะใช้ไฟอ่อน คั่วเครื่องยาจีนให้หอมขึ้น ไม่ต้องใส่น้ำมันนะคะ ตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน เทน้ำตาลมะพร้าวลงไปเคี่ยวเลยค่ะ น้ำตาลจะเป็นฟองปุดๆ จนสีเข้มขึ้นเหมือนกับคาราเมล ต้องคนตลอดนะคะ ถ้าไหม้ แกงจะขม แต่ถ้าเคี่ยวน้อยไป กลิ่นจะไม่หอมค่ะ คือต้องมีกลิ่นหอมไหม้ๆ ในระดับที่พอดี เป็นพะโล้น้ำตาลไหม้ที่หอมหวาน (ขั้นตอนนี้ เราแอบฉกน้ำตาลเคี่ยวมากิน คือมันดีมากกกก อร่อยมากกกก ถ้าใส่กะทิลงไป เราจะได้ลูกอมที่หอมหวาน แต่เพื่อเห็นแก่ไข่พะโล้หม้อแรก เราจะอดใจไว้ก่อน) ใส่สามเกลอลงไปผัดในน้ำตาลเคี่ยว ตอนนี้ เราจะได้กลิ่นหอม กระตุ้นน้ำย่อยตีขึ้นหน้ามาแล้วค่ะ ใส่หมูลงไปผัดในน้ำตาลเคี่ยว เร่งไฟขึ้นนิดหน่อย ผัดพอให้ผิวด้านนอกของหมูตึงๆ นะคะ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้หมูเก็บกักความหวานและชุ่มฉ่ำ ไม่แตกเละตอนต้มค่ะ เราใส่เต้าหู้ลงไปผัดด้วย แต่จริงๆ ไม่ควรนะคะ เพราะเต้าหู้จะเละตอนผัดค่ะ (แบบเรา) ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด แนะนำว่ายังไม่ต้องใส่น้ำเยอะมากนะคะ ถ้าน้ำตาลเคี่ยวของเราจืดไปจะแก้ไขยาก ปรุงเข้มข้นไว้ก่อน แล้วค่อยเติมน้ำเพิ่มทีหลังได้ น้ำเดือดแล้วใส่หมูเคี่ยวน้ำตาลลงไปเลยค่ะ เราย้ายหม้อมาต้มต่อที่เตาถ่าน เพื่อเพิ่มความหอมจากกลิ่นไหม้ของถ่านให้แกงค่ะ เตาถ่านคุมไฟให้อ่อนๆ เพื่อเคี่ยวน้ำแกงให้กลมกล่อม เราใส่ไข่เป็ดต้มในขั้นตอนนี้ รวมทั้งเครื่องยาจีนที่คั่วไว้ (ที่จริงเราเตรียมถุงบางๆ เอาไว้ใส่เครื่องยาจีนก่อนต้มด้วย..แต่..ลืมจ่ะ เครื่องเทศกระจายเกลื่อนทั่วหม้อ) เคี่ยวแกงนาน 30 นาที เราจึงค่อยชิมน้ำแกงค่ะ ขาดเค็ม - เติมเกลือ ขาดหวาน - เติมน้ำตาลมะพร้าว ให้รสหวานนำ เค็มตามมาไม่ห่าง ก่อนเสิร์ฟ โรยผักชีเพิ่มความหอมก่อน แล้วตักข้าวรอได้เลยค่ะ แค่ยกชาม ก็หอมมมมมไปทั่วแล้ว Tips: ดอกเกลือ จะให้รสเค็มกลมกล่อม เค็มนวลๆ เหมาะกับการปรุงอาหารค่ะ การชิมรสระหว่างต้ม รสชาติจะอ่อนกว่าตอนที่เราตักไปกินจริงๆ ให้ระวังเรื่องนี้ด้วยนะคะ ไข่พะโล้หม้อแรกของเรา ออกมาหวานหอมกลมกล่อม รสหวานนวลๆ ชวนให้เติมข้าว ถูกปาก ถูกใจมากกกกกก ไข่สีสวย ยิ่งอุ่นไข่จะยิ่งรัดตัวแข็งมากขึ้น บางคนชอบค่ะ หมูในพะโล้ของเรานุ่ม เอาลิ้นดุนๆ ก็แตก แต่ยังมีเนื้อสัมผัสให้เคี้ยวอร่อย ทำรอบหน้าจะเพิ่มหมูเป็น 1 กิโลกรัมเลย คนที่บ้านชมเปาะ คนทำก็ชื่นใจค่ะ เพื่อนๆ จดสูตรแล้วลองทำไข่พะโล้น้ำตาลไหม้ดูนะคะ รับประกันความอร่อยค่า หมดช่วงรักษาระยะห่างเมื่อไหร่ จะส่งไข่พะโล้หม้อใหม่ไปกระชับความสัมพันธ์ระหว่างฉันและเธอ ^___^ >