วิธีเลือกซื้อถั่วลิสง แบบเมล็ดแห้ง คุณภาพดี ดูยังไง | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ถั่วเมล็ดแห้งเป็นสิ่งที่ผู้เขียนเองก็ได้เลือกซื้อบ่อยๆ ค่ะ เพราะเป็นคนชอบทำอาหารทานเอง ที่บางเมนูก็จำเป็นต้องใช้ถั่วคั่ว ซึ่งถั่วลิสงแบเมล็ดแห้งคือสิ่งที่ผู้เขียนซื้อประจำ ที่ก็พบว่าถั่วแบบนี้จำเป้นอย่างมากที่ต้องเลือกก่อนซื้อค่ะ เพราะว่าอย่างที่เรารู้ๆ กันมาว่าเมล็ดถั่วลิสงแห้งนี้ หากคุณภาพไม่ดีมักพบเชื้อรา โดยเชื้อราสามารถเป็นปัจจัยชักนำทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ จากการที่มีอาหารเป็นสื่อค่ะ ดังนั้นในบทความนี้เราจะรู้กันว่า เมล็ดถั่วลิสงแห้งจะเลือกแบบไหนดี ดูยังไงว่ามีคุณภาพ ที่ต้องบอกว่าเคล็ดลับในนี้มีส่วนช่วยอย่างมากนะคะ ที่อ่านจบมองเห็นภาพ เข้าใจและนำไปใช้ได้อย่างแน่นอน เพราะผู้เขียนใช้ตลอดและได้ผลมากค่ะ งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยดีกว่า ดังนี้ 1. ดูที่เมล็ด การสังเกตสีและรูปร่างของเมล็ดถั่วลิสงเป็นวิธีเบื้องต้นที่ดีในการเลือกซื้อค่ะ แต่เพื่อให้ได้ถั่วลิสงที่มีคุณภาพดีที่สุด สีของเมล็ดถั่วลิสงจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีแดงเข้ม สีที่สม่ำเสมอและดูเป็นธรรมชาติบ่งบอกถึงความสดใหม่ สีขาวซีดเกินไป อาจบ่งบอกว่าเมล็ดได้รับความร้อนสูงเกินไป หรืออาจมีการปนเปื้อนของเชื้อรา สีดำหรือสีเขียวอาจเกิดจากการเน่าเสีย เมล็ดควรมีรูปร่างกลมรี หรือรูปไข่สมมาตร ไม่บิดเบี้ยว หรือมีรอยบุบ 2. ตรวจสอบฝัก การสังเกตฝักถั่วลิสงก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราเลือกซื้อถั่วลิสงได้อย่างถูกต้องค่ะ นอกจากเมล็ดที่สมบูรณ์แล้ว ฝักก็มีส่วนสำคัญในการบ่งบอกถึงคุณภาพของถั่วลิสงเช่นกันค่ะ ถ้าเป็นแบบที่อยู่ในฝัก ฝักถั่วควรแห้งสนิท ไม่มีความชื้น สีของฝักควรเป็นสีธรรมชาติ ไม่เขียวเกินไป หรือเหลืองซีด ฝักถั่วลิสงที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ควรได้รับการตากแห้งอย่างทั่วถึงจนไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่เลย ความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเชื้อราและแมลง ทำให้ถั่วลิสงเสียคุณภาพ สีของฝักถั่วลิสงที่สมบูรณ์มักจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือสีเหลืองอ่อน โดยสีจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปจะไม่เขียวเกินไป ซึ่งบ่งบอกว่าฝักยังอ่อนอยู่ หรือเหลืองซีดเกินไป ซึ่งอาจบ่งบอกว่าฝักแห้งเกินไป ฝักถั่วลิสงควรมีรูปร่างสมบูรณ์ ไม่แตกหัก ฝักที่แตกหักหรือมีรอยช้ำ อาจเป็นช่องทางให้สิ่งปนเปื้อนเข้าไปทำลายเมล็ดภายในได้ ขนาดของฝักจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปฝักที่สมบูรณ์จะมีขนาดที่สม่ำเสมอ ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ควรขอให้ผู้ขายเปิดถุงหรือกระสอบเพื่อตรวจสอบฝักภายในค่ะ 3. สังเกตขนาด ขนาดของเมล็ดถั่วลิสง นั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บ่งบอกถึงคุณภาพของถั่วลิสงค่ะ แม้ว่าขนาดจะไม่ใช่ตัวกำหนดคุณภาพโดยตรง แต่การที่เมล็ดมีขนาดที่เท่ากัน จะบ่งบอกถึงความสม่ำเสมอในการเจริญเติบโต และอาจสันนิษฐานได้ว่าถั่วลิสงเหล่านั้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เมล็ดที่มีขนาดเท่ากันบ่งบอกว่าถั่วลิสงได้รับปริมาณน้ำ ปุ๋ย และแสงแดดที่เหมาะสมในระหว่างการเจริญเติบโต ที่โดยทั่วไปแล้วเมล็ดที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์มักจะมีเนื้อในที่อัดแน่น และมีรสชาติที่หวานมันกว่าเมล็ดเล็ก การที่เมล็ดมีขนาดเท่ากันจะทำให้การคัดแยกและการแปรรูปเป็นไปได้ง่ายขึ้น เมล็ดถั่วลิสงในแต่ละฝัก หรือในแต่ละสายพันธุ์ อาจมีขนาดที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วควรมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน เมล็ดลีบมักจะมีขนาดเล็กกว่าเมล็ดปกติ และอาจบ่งบอกว่าเมล็ดขาดสารอาหาร หรือได้รับความเสียหายระหว่างการเจริญเติบโต 4. ดมกลิ่น กลิ่นเป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้ที่สำคัญมากในการเลือกซื้อถั่วลิสง ค่ะ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของถั่วลิสงจะช่วยให้เราแยกแยะได้ว่าถั่วลิสงนั้นสดใหม่หรือไม่ และมีคุณภาพดีเพียงใด ถั่วลิสงที่สดใหม่จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ หอมมันและหอมอ่อนๆ ถั่วลิสงที่เก็บไว้นานเกินไป หรือเก็บในที่ชื้น จะมีกลิ่นอับชื้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าถั่วลิสงอาจมีเชื้อราปนเปื้อน กลิ่นหืนเป็นกลิ่นที่เกิดจากน้ำมันในเมล็ดถั่วลิสงเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งมักเกิดขึ้นกับถั่วลิสงที่เก็บไว้นานเกินไป หรือเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิสูงนะคะ ถั่วลิสงคุณภาพดีจะมีกลิ่นหอมของถั่วลิสง ไม่เหม็นอับ หรือมีกลิ่นหืน กลิ่นที่ผิดปกติเป็นสัญญาณว่าถั่วลิสงอาจเน่าเสียและไม่สามารถรับประทานได้ และกลิ่นที่ผิดปกติอาจบ่งบอกถึงการปนเปื้อนของเชื้อราหรือสารเคมี หากซื้อถั่วลิสงบรรจุถุง ควรดมกลิ่นที่รอยต่อของถุงก่อนเปิด เพื่อตรวจสอบกลิ่นโดยรวม หากมีเวลาควรลองดมเมล็ดแต่ละเมล็ด เพื่อตรวจสอบว่ามีเมล็ดใดที่เสียหรือมีกลิ่นผิดปกติค่ะ 5. สัมผัสดู การสัมผัสเมล็ดถั่วลิสงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราประเมินคุณภาพได้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราได้เลือกเมล็ดที่ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นจากลักษณะภายนอกแล้ว การสัมผัสจะช่วยให้เราตรวจสอบความสดใหม่และคุณภาพของเมล็ดได้อย่างละเอียดมากขึ้นค่ะ เมล็ดถั่วลิสงที่สมบูรณ์จะมีความแข็งแรง ไม่นิ่ม หรือมีรอยยุบ เมล็ดที่นิ่มหรือมีรอยยุบ อาจบ่งบอกว่ามีความชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาวะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา การสัมผัสจะช่วยให้เราตรวจพบเมล็ดที่แตกหัก หรือมีรอยช้ำ ซึ่งอาจเกิดจากการกระแทกหรือการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม และวิธีการตรวจสอบให้ทำดังนี้ค่ะ ใช้นิ้วบีบเบาๆ: บีบเมล็ดแต่ละเมล็ดเบาๆ เพื่อตรวจสอบความแข็งแรง หากเมล็ดยุบง่ายหรือรู้สึกว่านิ่ม แสดงว่าเมล็ดนั้นไม่สมบูรณ์ เขย่าเมล็ด: หากมีเมล็ดจำนวนมาก ให้ลองเขย่าเพื่อฟังเสียง หากได้ยินเสียงเมล็ดกระทบกันแสดงว่าเมล็ดส่วนใหญ่ยังคงสภาพดี แต่หากได้ยินเสียงแตกหักแสดงว่ามีเมล็ดที่เสียหาย ตรวจสอบความเรียบเนียน: ลูบผิวของเมล็ดเบาๆ เพื่อตรวจสอบความเรียบเนียน หากพบรอยขรุขระหรือรอยแตก แสดงว่าเมล็ดอาจได้รับความเสียหาย 6. ดูความสะอาด การตรวจสอบความสะอาดของถั่วลิสงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสิ่งปนเปื้อนต่างๆ เช่น ก้อนดิน หิน หรือเศษวัสดุอื่นๆ อาจปะปนมากับถั่วลิสงได้ และอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค และเหตุผลว่าทำไมต้องตรวจสอบความสะอาด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกที่อาจนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ สิ่งเจือปนจะทำให้อาหารมีรสชาติที่เปลี่ยนไป และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในช่องปาก ซึ่งการมีสิ่งเจือปนจะทำให้การปรุงอาหารยุ่งยากและเสียเวลา การตรวจสอบความสะอาดของถั่วลิสงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย การคัดเลือกถั่วลิสงที่สะอาดจะช่วยให้คุณผู้อ่านได้เพลิดเพลินกับรสชาติของถั่วลิสงได้อย่างเต็มที่ค่ะ 7. ตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุ การตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุเป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรทำก่อนตัดสินใจซื้อถั่วลิสงบรรจุถุงค่ะ เพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าถั่วลิสงที่เราซื้อมานั้นยังสดใหม่และปลอดภัยต่อการบริโภค เนื่องจากว่าถั่วลิสงที่ผลิตมาไม่นานมักจะมีรสชาติที่ดีกว่า และมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า การรู้วันหมดอายุจะช่วยให้เราสามารถวางแผนการใช้ถั่วลิสงได้อย่างเหมาะสม การบริโภคถั่วลิสงที่หมดอายุ อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจากอาหารเป็นสื่อ และสิ่งที่ควรสังเกตบนฉลาก ได้แก่ วันผลิต: เป็นวันที่ระบุว่าถั่วลิสงถูกผลิตขึ้น วันหมดอายุ: เป็นวันที่ระบุว่าถั่วลิสงควรบริโภคก่อนวันดังกล่าว วิธีการเก็บรักษา: ฉลากจะระบุวิธีการเก็บรักษาที่เหมาะสม เช่น เก็บในที่แห้งและเย็น เลขทะเบียน อย. หรือเครื่องหมายรับรองอื่นๆ: เป็นการรับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้มาตรฐานและปลอดภัย ซึ่งเคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกซื้อถั่วลิสงบรรจุถุง คือ ให้เลือกถุงที่ปิดสนิท ถุงที่ปิดสนิทจะช่วยป้องกันไม่ให้ถั่วลิสงสัมผัสกับอากาศภายนอก ซึ่งอาจทำให้เกิดการชื้นหรือการปนเปื้อน อ่านฉลากอย่างละเอียด ให้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ บนฉลากให้ครบถ้วน ให้เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ หรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีการควบคุมคุณภาพสินค้า และให้ตรวจสอบสภาพของถุง ที่ต้องตรวจสอบว่าถุงมีรอยฉีกขาดหรือบวมหรือไม่ค่ะ 8. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเลือกซื้อถั่วลิสงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าถั่วลิสงที่เราซื้อมานั้นมีความสดใหม่ สะอาด ปลอดภัยและมีคุณภาพดี จากที่แหล่งที่ได้มาตรฐานจะมีการดูแลรักษาความสะอาดของสินค้าอย่างดี และแหล่งที่น่าเชื่อถือจะคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดีมาจำหน่าย หากเลือกซื้อจากตลาดสด ควรเลือกตลาดที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีความสะอาด และมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเป็นประจำ ถ้ามีโอกาสลองไปซื้อที่ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าเกษตรโดยตรงจากเกษตรกร เพราะมักจะมีถั่วลิสงที่สดใหม่และปลอดสารเคมีค่ะ หรือจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง ที่ก็มีการควบคุมคุณภาพสินค้าอย่างเข้มงวดเหมือนกันค่ะ ที่ในปัจจุบันร้านค้าออนไลน์อาจเป็นตัวเลือกของใครหลายคน ที่ควรเลือกซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียง มีรีวิวที่ดี และมีการรับประกันสินค้าค่ะ 9. สังเกตปริมาณ การซื้อถั่วลิสงในปริมาณที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ถั่วลิสงเสียหาย เน่าเสีย หรือสูญเสียคุณค่าทางอาหารไป ซึ่งเหตุผลที่ควรซื้อถั่วลิสงในปริมาณที่พอเหมาะ ก็เพราะว่าถั่วลิสงเมื่อเก็บไว้นานเกินไปจะเกิดการชื้น หรือเกิดเชื้อรา ทำให้เสียคุณภาพและไม่สามารถรับประทานได้ การซื้อในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยประหยัดพื้นที่ในการเก็บรักษา ดังนั้นให้ประเมินปริมาณการบริโภคถั่วลิสงของครอบครัว หรือของตัวคุณเองในแต่ละครั้ง ดูวันหมดอายุบนฉลาก แล้วซื้อปริมาณที่คาดว่าจะบริโภคได้หมดก่อนวันหมดอายุ ก็จบแล้วค่ะ กับเทคนิคการเลือกซื้อเมล็ดถั่วลิสง ที่ก็อย่าลืมว่าหลังจากเปิดถุงบรรจุแล้ว ที่ควรเก็บถั่วลิสงในภาชนะปิดสนิท เช่น กล่องพลาสติก หรือขวดแก้ว เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปสัมผัส หลีกเลี่ยงการเก็บถั่วลิสงในที่ชื้นหรือที่มีอุณหภูมิสูง เพราะจะทำให้เกิดการชื้นและเชื้อรา และสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บถั่วลิสงไว้เป็นเวลานาน สามารถนำถั่วลิสงไปแช่แข็งได้ค่ะ ปกติผู้เขียนซื้อเมล็ดถั่วลิสงแบบแห้งที่บรรจุถุงเป็นหลัก ที่ตอนนี้มีโอกาสได้ไปซื้อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านบ่อยขึ้นค่ะ ที่แต่ละครั้งจะซื้อหนึ่งถุงที่มีน้ำหนักครึ่งกิโลกรัม โดยจะเลือกซื้อจากยี่ห้อที่น่าเชื่อถือได้ประจำค่ะ เมล็ดถั่วลิสงที่ซื้อมาส่วนมากนำมาคั่วค่ะ ที่จะนำมาเป็นทั้งของว่างและใส่ลงไปในเมนูบางอย่าง เช่น ยำวุ้นเส้น ที่พบว่าพอเราเลือกจากแหล่งที่น่าเชื่อได้ ก็ง่ายมากขึ้นแล้วที่จะได้เมล็ดถั่วลิสงคุณภาพ แต่ผู้เขียนก็ยังไม่ลืมที่จะดูวันหมดอายุและลักษณะภายนอกของถั่วค่ะ ยังไงนั้นลองนำเทคนิคดีๆ ในนี้ไปใช้กันค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://food.trueid.net/detail/vgWnyW84zQm7 https://food.trueid.net/detail/vKxer5QXwpqk https://food.trueid.net/detail/Kz1DyO7Y8VGR เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !