(รูปภาพโดย 지원 이 จาก Pixabay ) (รูปภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay ) ถ้าท่านใดไม่เคยจับกระทะมาก่อน หรือเป็นผู้ที่ไม่มีความมั่นใจในการจะลงมือทำกับข้าวให้คนที่คุณรักทานแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้คุณอาจจะต้องเปลี่ยนใจแล้วกลับมารักการทำอาหารก็เป็นได้นะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่าย ๆ และมีเทคนิคพื้นฐานที่ทุกคนมองข้ามอยู่ไม่กี่อย่าง เพียงแต่จะต้องรู้เรื่องดังกล่าวเหล่านี้ให้หมด เพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการก้าวไปสู่ความเป็นยอดกุ๊กในครัวเรือนผู้สร้างมื้ออร่อย แต่ถ้าพึ่งเริ่มก็ไม่ต้องรีบ ( Step By Step ) แบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปกันก่อนเนอะ เอาล่ะถ้าอยากจะรู้เรื่องราวที่นับว่าเป็นเคล็ดแต่ไม่ลับกันแล้ว ก็เลี้ยวตามมาทางนี้สิเรามีสิ่งดีๆเตรียมพร้อมที่จะเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกเลย ร่วมสนุกไปกับ 6 เทคนิคหัวใจของการทำอาหารทุกชนิดให้อร่อยกันได้เลย (รูปภาพโดย Michal Jarmoluk จาก Pixabay) 1.ต้องรู้ซึ้งและทำความรู้จักกับรสชาติเครื่องปรุงให้กระจ่าง สิ่งนี้แน่นอนที่สุดเพราะเครื่องปรุงจะเป็นปัจจัยผันแปรให้อาหารเมนูต่าง ๆ นั้นมีรสชาติเลี้ยวไปทางซ้าย หรือก้าวมาทางขวาได้อย่างฉีกแนว รสชาติทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใส่อะไรลงไป ดังนั้นการที่รู้ชัดว่าเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่จะนำมาปรุงแต่งมีรสชาติแบบใดนั้นนับว่าเป็นจุดหลัก ๆ ที่ควรจะต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย สมมติว่าเครื่องปรุงบางกลุ่มนั้นล้วนแล้วแต่มีความเค็มเป็นที่ตั้งไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา ซีอิ๊วขาว หรือน้ำมันหอย แต่ถึงแม้รสชาติ และกลิ่นนั้นจะต่างกัน แต่ก็ล้วนแล้วแต่จบลงที่ความเค็มอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าคุณตะบันใส่อย่างไม่ยั้งคิด อาหารมื้อนั้น ๆ อาจจะเค็มจนถึงขั้นไตวายก็เป็นได้นะ (ฮา) 2. วัตถุดิบต้องมาก่อน ไม่ว่าเชฟระดับโลก หรือเชฟข้างถนนทุกคนล้วนคัดสรรสิ่งที่ว่าเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากว่าเป็นแหล่งกำเนิดที่มาของความอร่อยที่สำคัญที่สุดซึ่งไม่มีใครเลยที่จะเลือกเนื้อหมูที่มีกลิ่นมาทำอาหารเป็นแน่ เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากทำอาหารให้อร่อยจริง ๆ ควรที่จะต้องตาถึงและควรจะต้องรู้ด้วยว่าเนื้อ หรือพืชผักสด ๆ ควรจะมีลักษณะแบบใดเรื่องนี้ก็สำคัญมาก ๆ นะครับ (รูปภาพโดย Shutterbug75 จาก Pixabay ) 3. จมูกเป็นเลิศ ทุกท่านอาจจะเคยรับรู้รสสัมผัสประเภทนี้อยู่เป็นประจำกันเป็นแน่ เพราะในบางครั้งเมื่อเดินผ่านภัตตาคาร หรือร้านอาหารที่กำลังมีการทำอาหารเมนูแสนอร่อยอยู่แห่งใดก็ตามทีกลิ่นอาหารนั้น ๆ จะเข้ามาเย้ายวน และชวนให้ทุกท่านเอ่ยถาม ก่อนที่คุณจะได้เห็นอาหารประเภทนั้นเสียอีกจริงไหม นั่นคือเหตุผลที่ต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรให้อาหารในมื้อนั้นมีกลิ่นหอมเป็นที่สุด เช่น การใช้กระเทียมสับเจียวในน้ำมันเฉย ๆ แค่นี้กลิ่นหอมก็ลอยไปเป็นกิโลแล้วถ้าไม่เชื่อก็ลองได้เลยจ้า 4. ชอบการทาน และชิมเสมอ การชอบทาน และชอบชิมอาหารกับทุกประเภทนั้น ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องบ่งชี้ว่าคุณเป็นคนอ้วน ซึ่งสิ่งนี้เป็นทักษะหลัก ๆ ที่เชฟระดับโลกต้องมีแบบขาดไม่ได้ การที่ได้เรียนรู้จากรสชาติที่แท้จริงโดยต้นขั้ว หรือต้นกำเนิดของเมนูอาหารนั้น ๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องเข้าใจ และสามารถแยกแยะได้อย่างแม่นยำว่า รสนี้คืออร่อย หรือสิ่งใดคือไม่อร่อย ดังนั้นการชิมให้เป็นจึงเป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้เป็นเรื่องแรก ๆ เลยล่ะ รูปภาพโดย Werner Heiber จาก Pixabay ) 5. เตรียมให้เป็น การจะทำอาหารในแต่ละประเภทนั้นการจัดเตรียมเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกเช่นกัน เพราะถ้าหากว่าขนาดของวัตถุดิบต่าง ๆ ที่หั่นเตรียมออกไปมีขนาดใหญ่เกินงามก็ต้องระวังลูกค้า หรือที่รักของคุณเองจะเรียกให้ไปกินให้ดูนะครับ เพราะมันเข้าปากไม่ได้ (ฮา) ดังนั้นการเตรียมการหั่นในทุกขั้นตอนจึงควรใส่ใจลงไปด้วย และคำนึงถึงความหนาบางว่าอาหารดังกล่าวนั้นจะสุกเสมอกัน หรือไม่อย่างไรเสมอ 6. รูปร่างต้องสวยสีต้องเด่น ท้ายสุดเป็นกรรมวิธีก่อนเสิร์ฟ ซึ่งการตกแต่งสีสัน และรูปร่างจะขาดไม่ได้สำหรับอาหารทุก ๆ มื้อ เพราะจะเป็นจุดนึงซึ่งสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น เมื่อเพรียบพร้อมทั้งความอร่อย และการตกแต่งอย่างสวยงาม มันจะเป็นการง่ายเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเปิดใจกับทุก ๆ คนที่จะยอมรับประทาน และดื่มด่ำไปกับความอร่อยอันลึกล้ำของรสชาติมื้ออาหารในค่ำคืนนั้น ๆ และทุกคนจะมีความสุขในมื้อดังกล่าวไปพร้อมกันแบบไม่เหลืออะไรติดจานให้รำคาญลูกตาเป็นแน่แท้ (รูปภาพโดย silviarita จาก Pixabay ) เห็นไหมล่ะครับว่าถ้าถามว่าการทำอาหารมันยากไหมและถามว่ามันง่ายหรือเปล่า ทั้งสองอย่างตอบไม่ได้หรอกครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้ทำ หรือผู้ที่บรรจุสร้างรสชาตินั้น ๆ มีความจริงใจต่อมื้ออาหารที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นมากน้อยเพียงใดต่างหาก ความอร่อย และรอยยิ้มบวกกับความอิ่ม ที่ถูกเติมเต็มไปด้วยไมตรีจิตเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่หาสิ่งใดเปรียบไม่ได้ ถ้าคุณอยากจะเป็นผู้ปรุงมื้อค่ำที่แสนอบอุ่นหอมหวล และชวนอร่อยกันบ้างแล้ว ก็ขอให้ลองวิธีที่ผมได้กล่าวมาดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่า "ถ้าทำด้วยใจ การทำอาหารให้อร่อยนั้นง่ายนิดเดียว"