สำหรับ “หมึกต้มน้ำดำ” นั้น เป็นเมนูที่ผมได้มีโอกาสลิ้มรสมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ย้อนกลับไปในครั้งแรกที่ได้ลองชิมยอมรับว่าสงสัยไม่ไม่น้อยว่าน้ำซุปสีดำสนิทจากหมึกนั้นจะรับประทานได้จริงหรือ แต่เมื่อได้ลองเปิดใจสัมผัสรสชาติ ความสงสัยเหล่านั้นก็เปลี่ยนเป็นความประทับใจในความหวานกลมกล่อมที่เป็นเอกลักษณ์ เมนูพื้นบ้านจานนี้ใช่ว่าจะหาทานได้ทั่วไปตามร้านอาหารทะเล การจะหาร้านที่ปรุงได้รสมือถูกปากนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น เมื่อใดที่อยากกิน หรือบังเอิญไปพบปลาหมึกสด ๆ เนื้อใสวางเรียงรายอยู่ในตลาด การลงมือปรุงเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเมื่อผมได้ลองค้นคว้าหาวิธีการทำก็พบว่า กรรมวิธีการทำนั้นเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด วันนี้ผมจึงอยากเชิญชวนเพื่อน ๆ ให้ลองสวมบทบาทพ่อครัวแม่ครัวหัวป่าก์ นำวัตถุดิบจากท้องทะเลมาเนรมิตเมนูเด็ดจานนี้ไปพร้อม ๆ กันครับ วัตถุดิบ ปลาหมึกไข่สด ๆ ปริมาณตามต้องการ น้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำตาลโตนด ปริมาณตามต้องการ แต่ควรให้มีรสชาติหวานนำ ตะไคร้ทุบพอแตก 2 ต้น หอมแดง 5-6 หัว ใบมะกรูด (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) ขั้นตอนการทำหมึกน้ำดำ ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมและทำความสะอาดปลาหมึก เริ่มต้นด้วยการนำปลาหมึกสดมาล้างทำความสะอาดอย่างเบามือ ดึงแกนกลางใส ๆ (ลิ้นทะเล) และควักตาปลาหมึกออกให้เรียบร้อย แต่หัวใจสำคัญของเมนูนี้คือ ต้องระมัดระวัง “ไม่เอาถุงหมึกออก” นะครับ เพราะเราต้องเก็บส่วนนี้ไว้ทำให้น้ำซุปมีสีดำและรสหวานตามธรรมชาติ จากนั้นให้บั้งบริเวณลำตัวปลาหมึกสัก 2 ริ้วพอสวยงาม เพื่อให้ความร้อนส่งผ่านได้ทั่วถึงและน้ำซุปซึมเข้าสู่เนื้อหมึกได้ดียิ่งขึ้นครับ ขั้นตอนที่ 2 รองพื้นความหอมและจัดวางวัตถุดิบ นำตะไคร้ที่ทุบพอแตกมาวางเรียงรองให้ทั่วก้นหม้อ เพื่อช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มกลิ่นหอมของสมุนไพร จากนั้นนำปลาหมึกที่เตรียมไว้วางเรียงทับลงไปบนตะไคร้ ตามด้วยหอมแดงทุบและน้ำตาลมะพร้าว (หรือน้ำตาลโตนด) ซึ่งเป็นหัวใจของความหวานละมุน ขั้นตอนที่ 3 เคล็ดลับความเข้มข้น (ห้ามเติมน้ำ น้ำปลา หรือเกลือเด็ดขาด) ข้อนี้สำคัญที่สุดครับ คือ “ห้ามเติมน้ำเปล่าลงไปเด็ดขาด” ให้ตั้งหม้อโดยใช้ไฟกลาง ความร้อนจะค่อย ๆ ดึงน้ำหวานตามธรรมชาติออกจากตัวปลาหมึกเอง วิธีนี้จะทำให้น้ำซุปที่ได้มีความเข้มข้นและรสชาติลึกซึ้งกว่าการใส่น้ำครับ บอกไว้ก่อนว่าถ้าใครเผลอใส่เกลือจะเค็มมาก เพราะรสชาติปลาหมึกเค็มโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ขั้นตอนที่ 4 ปรุงรสและรอคอยความอร่อย เมื่อหม้อเริ่มเดือดและน้ำหมึกสีดำเริ่มออกมา ให้ลองชิมรสชาติเบื้องต้นครับ โดยปกติปลาหมึกและถุงหมึกจะมีความเค็มตามธรรมชาติอยู่แล้ว เราจึงใช้น้ำตาลมะพร้าวเป็นตัวตัดรส หากชิมแล้วยังรู้สึกว่าเค็มนำมากเกินไป ให้ค่อย ๆ เติมน้ำตาลเพิ่มลงไปทีละนิด จนกว่าจะได้รสชาติหวานเค็มกลมกล่อมตามที่ต้องการครับ ใช้เวลาต้มประมาณ 10 นาทีก็ยกลงได้ครับ ลองดูนะครับ หมายเหตุ ข้อมูลและภาพเป็นของผู้เขียนทั้งหมด หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !