"ลิ้นจี่" ผลไม้ที่มีเปลือกสีแดงสดใสสวยงาม มีกลิ่นหอม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เป็นผลไม้ที่ได้ชื่อว่ามีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะสามารถจำหน่ายได้ทั้งในรูปแบบของผลไม้สดและผลไม้แปรรูป นักชิมอย่างเราซึ่งเป็นผู้ที่ชื่นชอบลิ้นจี่ในทุกรูปแบบ เมื่อถึงหน้าลิ้นจี่ ที่จะออกผลให้ได้กินกัน ก็ไม่พลาดอย่างแน่นอน รอบนี้แวะตลาดใกล้บ้านก็ได้ลิ้นจี่จักรพรรดิ์ ลูกโต ๆ ในราคา กิโลกรัมละ 50 บาทมาชิมกัน แต่ก่อนอื่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้สมาชิกในครอบครัว ก็ต้องคว้านเมล็ดออกกันสักหน่อย ซึ่งวิธีคว้าวเมล็ดลิ้นจี่ก็ไม่ยากเลยค่ะ มาทำไปพร้อม ๆ กันเลย อุปกรณ์ - มีดคว้าน หรือ มีดปลายแหลม ตามความถนัด วิธีคว้านเมล็ดลิ้นจี่ - ตัดเมล็ดลิ้นจี่ออกจากช่อ - นำไปล้างน้ำให้สะอาด เพื่อขจัดฝุ่นละอองที่ติดมา - ใช้มีดกรีดลงไปรอบ ๆ ตรงขั้ว แล้วฉีกเปลือกออกโดยรอบ จะใช้มือลอกเปลือกออกก็ได้ ค่อย ๆ ลอกอย่างเบามือ - ลอกเปลือกออกเพียงส่วนเดียว เพราะเมื่อเราเริ่มคว้านเมล็ดลิ้นจี่ มือเราจะได้ไม่ต้องสัมผัสกับเนื้อลิ้นจี่ - เริ่มคว้านโดยใช้ปลายมีดดันเข้าไป จรดมีดให้ชิดเมล็ดมากที่สุด หมุนมีดให้รอบเมล็ดลิ้นจี่ - เมื่อเราหมุนมีดจนครบรอบ ลองขยับดู เมื่อเมล็ดขยับได้ ก็ใช้ปลายมีดคว้านจิกเมล็ดแล้วดึงออกมา หรือจะใช้มือเราดึงเมล็ดออกมาก็ได้เช่นกัน - ใช้ปลายมีดค่อย ๆ เลาะเปลือกออก - พร้อมเสิร์ฟ ช่วงแรก ๆ ของการคว้านเมล็ดลิ้นจี่อาจจะยังไม่สวย เนื้อลิ้นจี่อาจจะขาดออกจากกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดานะคะ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นหัดคว้านเมล็ด ฝึกไปเรื่อย ๆ ก็จะชำนาญขึ้น จนเก่งในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการคว้านลิ้นจี่ เงาะ ลำไย มะยงชิด ฯลฯ สามารถทำได้อย่างแน่นอนค่ะ ปิดท้ายกันที่การเลือก "ลิ้นจี๋" กันสักนิดนะคะ เราต้องเลือกลิ้นจี่ที่สดใหม่ สังเกตจากสีเปลือกที่เป็นสีแดงสดสม่ำเสมอทั่วทั้งผล หรือสีเข้มขึ้นมาอีกนิดเป็นสีแดงอมน้ำตาลก็เรียกว่ายังมีความสดอยู่ จากนั้นดูที่ผล เลือกดูที่หนามห่าง ๆ ไม่ติดกัน เมื่อลองปอกเปลือก ให้สังเกตว่าเนื้อแห้งไม่แฉะ ลองดมดูก็จะได้กลื่นหอมอ่อน ๆ ซึ่งถ้าเริ่มมีความแฉะและผลสุกงอมเกินไป จะกินไม่อร่อย เราสามารถนำไปทำเป็นลิ้นจี่ลอยแก้ว หรือนำไปทำเป็นขนม หรือเครื่องดื่มก็ได้เช่นกัน ภาพประกอบโดย ฉันท์ชมา ผู้เขียน หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !