9 เคล็ดลับเลือกแมงลัก กำสดใหม่ ดูยังไงดี ก่อนซื้อมาใส่แกง | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ผักที่ให้ความหอมหลายอย่างถูกนำมาใส่ในเมนูต่างๆ ที่เป็นอาหารไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน คนที่นี่เวลาทำอาหารมักมองหาผักที่จะทำให้อาหารชวนให้น่ารับประทานมากขึ้นค่ะ โดยแมงลักคือหนึ่งในผักที่มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติที่หลายคนคุ้นเคยกันดี แต่พอพูดถึงการเลือกซื้อแมงลักล่ะคะ เราอาจจะยังมองภาพไม่ออกมากนัก ใช่ไหม? ดังนั้นในบทความนี้จึงเป็นโอกาสดี ที่ผู้เขียนจะได้มาบอกต่อเกี่ยวกับการสังเกตแมงลักสดใหม่ค่ะ และถ้าอยากรู้ว่าแบบไหนน่าซื้อ แบบไหนสดและคุณภาพดีจริง คุณผู้อ่านต้องอ่านต่อให้จบค่ะ เพราะจะพบว่า การจะได้แมงลักกำสดๆ เหมือนเก็บมาใหม่ๆ นั้น จากที่เคยยากมาก่อนหน้านี้ จะกลายเป็นงานง่ายขึ้นทันที น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ? และถ้าอยากรู้แล้วว่ามีเคล็ดลับในการเลือกซื้อยังไงบ้าง งั้นเรามาอ่านต่อกันเลยจ้า 1. ดูที่ใบ การเลือกแมงลักสดใหม่ให้ได้คุณภาพดี สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ควรสังเกตคือใบค่ะ ใบของแมงลักที่สดใหม่จะมีสีเขียวสดใส มองแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่มีร่องรอยของการเหี่ยวเฉา หรือมีจุดด่างดำสีน้ำตาล ถ้ามีสีเหลืองปรากฏให้เห็น นั่นเป็นสัญญาณว่าแมงลักนั้นอาจจะเก็บมานานแล้วหรือเริ่มเน่าเสีย การเลือกแมงลักที่มีใบเขียวสวยงามจึงเป็นเหมือนการรับประกันเบื้องต้นว่า เราจะได้แมงลักที่มีคุณภาพดี มีกลิ่นหอม และรสชาติอร่อยถูกปากค่ะ 2. สังเกตก้าน ก้านของแมงลักที่ดีควรจะมีความแข็งแรง ตั้งตรง ไม่หักงอหรือมีรอยช้ำให้เห็น หากก้านเริ่มมีสีคล้ำๆ ออกน้ำตาล หรือดูอ่อนยวบยาบ นั่นแสดงว่าแมงลักนั้นไม่สดใหม่แล้ว เพราะก้านมีหน้าที่ลำเลียงน้ำและสารอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของต้น หากก้านไม่แข็งแรงก็จะส่งผลให้ใบเหี่ยวเฉาและคุณภาพโดยรวมลดลง ดังนั้นการเลือกแมงลักที่มีก้านเขียวสดและแข็งแรง จึงเป็นอีกเคล็ดลับที่จะช่วยให้เราได้แมงลักที่สดอร่อย และมีคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติค่ะ 3. ดมกลิ่น การเลือกซื้อแมงลักสดใหม่โดยการดมกลิ่นถือเป็นเคล็ดลับง่ายๆ แต่ได้ผลดีทีเดียวค่ะ เนื่องจากปกติกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์ของแมงลักอยู่แล้ว ที่บ่งบอกถึงความสดใหม่นะคะ หากเราดมแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวหรือกลิ่นอับ นั่นแสดงว่าเป็นแมงลักที่น่าจะเพิ่งเก็บมาใหม่ๆ และมีคุณภาพดี ควรหลีกเลี่ยงแมงลักที่มีกลิ่นแรงผิดปกติหรือไม่มีกลิ่นเลย เพราะอาจจะไม่สดหรืออาจจะเก็บไว้นานแล้ว การดมกลิ่นจึงเป็นเหมือนปราการด่านแรก ที่ช่วยให้เราได้แมงลักที่ทั้งสดและมีรสชาติดีสำหรับนำไปปรุงอาหารค่ะ 4. สัมผัสดู นอกจากการดมกลิ่นแล้ว การสัมผัสก็เป็นอีกวิธีสำคัญในการเลือกแมงลักสดใหม่ค่ะ ให้ลองใช้นิ้วสัมผัสเบาๆ ที่ใบและลำต้น หากรู้สึกว่ายังเต่งตึง ไม่เหี่ยวเฉาหรือมีรอยช้ำ นั่นแสดงว่าแมงลักยังมีความสดอยู่ ใบควรมีสีเขียวสดใส ไม่เหลืองหรือมีจุดดำคล้ำ ส่วนลำต้นก็ควรจะแข็งแรง ไม่นิ่มยวบยาบ การสัมผัสจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า แมงลักที่เราเลือกนั้นผ่านการดูแลรักษามาอย่างดี และจะให้รสชาติที่ดีเมื่อนำไปประกอบอาหารนะคะ 5. สังเกตดอก หากแมงลักยังมีดอกตูมเล็กๆ สีขาวติดอยู่บ้าง แสดงว่าเป็นแมงลักที่ยังอ่อนและสดใหม่ โดยดอกเหล่านี้จะค่อยๆ บานเมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าดอกบานเต็มที่แล้วหรือเริ่มมีสีน้ำตาล นั่นบ่งบอกว่าแมงลักนั้นเก็บมานานแล้ว และความสดอาจจะลดลงไปบ้าง อย่างไรก็ตามการมีดอกตูมติดอยู่บ้างก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าแมงลักนั้นยังสดและน่าเลือกซื้อค่ะ 6. มองหายอดที่สมบูรณ์ การมองหายอดที่สมบูรณ์เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับในการเลือกแมงลักสดใหม่ค่ะ ปกติยอดอ่อนของแมงลักมักจะมีใบเล็กๆ ที่ยังม้วนงออยู่ และมีสีเขียวสดใส ที่แสดงถึงการเจริญเติบโตที่ดีและเป็นส่วนที่อ่อนนุ่มน่ารับประทาน หากยอดดูเหี่ยวเฉาหรือมีสีคล้ำ แบบนี้หมายถึงแมงลักนั้นไม่สดใหม่แล้วนะคะ ดังนั้นการเลือกแมงลักที่มีส่วนยอดที่สมบูรณ์จะช่วยให้เราได้ทั้งความสด และความอร่อยเต็มที่ในการนำไปปรุงอาหารค่ะ 7. หลีกเลี่ยงที่มีร่องรอยแมลง การใส่ใจมองหาร่องรอยของแมลงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกแมงลักสดใหม่ค่ะ ควรสังเกตทั้งใบและลำต้นอย่างละเอียด หากพบบริเวณที่มีรอยกัดแทะเป็นรูเล็ก ๆ หรือมีคราบสีดำๆ คล้ายขี้แมลง นั่นแสดงว่าแมงลักนั้นคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควรและไม่ควรเลือกซื้อ นอกจากนี้หากพบตัวแมลงเกาะอยู่ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกันค่ะ การเลือกแมงลักที่ไม่มีร่องรอยของแมลงจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า จะได้รับประทานผักที่สะอาดและคุณภาพดีที่เหมาะสำหรับทำอาหารนะคะ 8. ซื้อในปริมาณที่เหมาะสม การเลือกซื้อแมงลักในปริมาณที่เหมาะสมก็สำคัญไม่แพ้การเลือกซื้อให้ได้ของสดใหม่ ควรพิจารณาถึงปริมาณที่จะนำไปใช้ในการปรุงอาหารในแต่ละครั้ง หรือภายในระยะเวลาอันสั้น หากซื้อมามากเกินไป แมงลักอาจเหี่ยวเฉาและสูญเสียความสดไปก่อนที่จะได้นำมาใช้หมด การซื้อในปริมาณที่พอดีจะช่วยให้เราได้ใช้แมงลักที่สดใหม่ทุกครั้ง และยังช่วยลดปัญหาอาหารเหลือทิ้งอีกด้วย ดังนั้นการวางแผนปริมาณการใช้ก่อนไปซื้อ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราได้ประโยชน์สูงสุดจากการเลือกซื้อแมงลักค่ะ 9. เลือกซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเป็นตลาดสด ร้านค้าประจำ หรือแหล่งผลิตโดยตรงที่เรามั่นใจในคุณภาพและกระบวนการปลูกแมงลัก การเลือกซื้อจากแหล่งที่ไว้ใจได้จะช่วยลดความเสี่ยงในการได้แมงลักที่ไม่สดใหม่ มีสารเคมีตกค้างหรือไม่ได้มาตรฐาน ตลอดจนการสนับสนุนเกษตรกรโดยตรงหรือร้านค้าที่เราคุ้นเคย ยังเป็นการสร้างความมั่นใจในคุณภาพของผลผลิต และทำให้เราได้แมงลักที่สดใหม่และมีคุณภาพดีกว่าอีกด้วย ดังนั้นการเลือกแหล่งซื้อจึงเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการได้แมงลักสดใหม่มาปรุงอาหารค่ะ ที่โดยสรุปแล้วการที่เราจะได้แมงลักกำสดใหม่นั้น ยังมีความจำเป็นต้องนำเคล็ดลับในการเลือกซื้อไปประยุกต์ใช้ค่ะ เพราะอาหารสามารถเป็นสื่อของความเจ็บป่วยได้ ดังนั้นต่อให้เราซื้อแมงลักมาใส่แกงหรือทำอาหารเมนูอื่นๆ ก็ยังต้องเลือกแมงลักที่มีลักษณะที่ดีและมีคุณภาพค่ะ ซึ่งเคล็ดลับในนี้ผู้เขียนได้ใช้บ้างนะคะ เช่น ดูสีของใบ ดูที่ก้าน และเลือกซื้อจากร้านขายผักที่เป็นคนในพื้นที่ขาย ที่ในตอนหลังมาก็ได้ปลูกต้นแมงลักเอาไว้เป็นผักเพิ่มความหอมเองด้วย พอต้องการแมงลักก็เก็บมาแค่พอดีใช้ค่ะ ยังไงนั้นหากคุณผู้อ่านจำเป็นต้องเลือกซื้อแมงลัก ก็อย่าลืมนำเคล็ดลับข้างต้นไปใช้ตอนไปตลาดนะคะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากสนใจเนื้อหาเช่นนี้อีก อย่าลืมกดติดตามหรือบุ๊กมาร์กโปรไฟล์ไว้ เพื่อรับข้อมูลใหม่ๆ ในบทความต่อไปค่ะ เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและหน้าปกโดยผู้เขียน ออกแบบใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน 8 ทริคเลือกใบมะกรูดสดใหม่ มีกลิ่นหอมเข้มข้น และน่าซื้อ 9 วิธีเลือกซื้อกะปิ แบบไหน สะอาดและดี ทริคเก็บหอมแดง เอาไว้กินนานๆ ลดการฝ่อเร็ว ไม่เน่าเสียง่าย เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !