ใครว่าอาหารเพื่อสุขภาพกับคำว่าอร่อยไปด้วยกันไม่ได้ !!? สำหรับบทความนี้ เด็กหญิงแก้มพอง ได้รวบรวมร้านอาหารและคาเฟ่สำหรับมื้อคาวและมื้อหวานกว่า 9 ร้าน เอาใจคนรักสุขภาพหรือคนที่ต้องการฟิตหุ่นก่อนเริ่มกลับไปเที่ยวสักหน่อย ซึ่งตอนนี้หลายร้านก็เปิดให้กลับไปนั่งรับประทานที่ร้านได้แล้ว หรือใครที่ยังอยากนั่งรออยู่บ้านสบาย ๆ ก็กดสั่ง Delivery ให้มาส่งได้เลย 1. โอ้กะจู๋ (Ohkajhu) โอ้กะจู๋ ร้านอาหารสุดเฮลท์ตี้จากเชียงใหม่ที่มาพร้อมสโลแกน “ปลูกผักเพราะรักแม่” พร้อมเสิร์ฟอาหารเพื่อสุขภาพที่ผ่านการปรุงรสอย่างพิถีพิถันและเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยผักสดของทางร้านได้ถูกส่งตรงมาจากฟาร์มที่เชียงใหม่ทุกวัน การันตีความสด สะอาด และปลอดสารพิษ เมนูอาหารเครื่องดื่มหลากหลายตอบโจทย์ทุกความชอบ ไม่ว่าจะเป็นสายมังสวิรัติ สายรักสุขภาพ สายเนื้อสัตว์ สายของหวาน เสิร์ฟมาแบบไซส์ใหญ่จุใจทุกจานแน่นอน เมนูที่พลาดไม่ได้สำหรับสายคลีนคือ “สลัดกุ้งทอดมะพร้าวอ่อน” (265 บาท ) สลัดที่มีทั้งผักและผลไม้หวานฉ่ำในชามเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเมล่อน ส้ม มะม่วง แก้วมังกร และผลไม้ตามฤดูกาลอื่น ๆ คลุกเคล้าเข้ากันดีกับน้ำสลัดศรีราชารสเปรี้ยวหวานอมเผ็ดและน้ำสลัดทาร์ทาร์ เสิร์ฟพร้อมกุ้งทอดและมะพร้าวอ่อนคั่วจนหอม เป็นจานที่ครบเครื่อง ครบรสจานหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับเมนูเครื่องดื่มของโอ้กะจู๋นั้นมีให้เลือกหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำผัก ผลไม้ ชา กาแฟ ที่ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้ได้รับคุณประโยชน์และเข้าถึงรสชาติวัตถุดิบมากที่สุด แต่เมนูโปรดของผู้เขียนที่เพิ่มความสดชื่นให้มื้ออาหารได้สุด ๆ คือ “Passion Honey” (95 บาท) น้ำเสาวรสรสเปรี้ยวอมหวานสดชื่น ปั่นจนเนื้อเนียนกับน้ำผึ้งอันหอมหวานและโยเกิร์ตที่ช่วยให้แก้วนี้กลมกล่อมหวานมันยิ่งขึ้น เพิ่มรสสัมผัสด้วยเนื้อและเมล็ดเสารสกรุบ ๆ ไม่ว่าจะดื่มคู่กับจานไหน ก็เข้ากันดีมาก ๆ โอ้กะจู๋ 🚩 สาขากรุงเทพฯ (ช่วงเคอร์ฟิวเปิดทำการเวลา 10.00 - 20.00 น.) 📍 สยามสเเควร์ ซอย 2 📍 สยามสเเควร์ ซอย 7 (เปิดเฉพาะ Delivery เท่านั้น) 📍 โครงการเดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์ 📍 โครงการดาดฟ้าลาซาล 📍 โครงการเดอะพาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก 📍 ศูนย์การค้า เอสบี พระราม2 📍 BTS เสนานิคม (เฉพาะ Take home และ Delivery) 🚩 สาขาเชียงใหม่ 📍 สันทราย (ช่วงเคอร์ฟิวเปิดทำการเวลา 9.00 - 21.30 น.) 📍 นิมซิตี้เดลี่ (ช่วงเคอร์ฟิวเปิดทำการเวลา 9.00 - 20.00 น.) Facebook: สวนผัก โอ้กะจู๋ Line: @OHKAJHU Delivery: สั่งโดยตรงกับทางร้านผ่าน Line ส่งฟรี 5 ก.ม., Grab, Get, Lineman 2. ปลาสีส้ม (Plaseesom) เอาใจคนรักแซลมอนกับร้านปลาสีส้ม ร้านที่รังสรรค์ทุกเมนูในร้านด้วยแซลมอนสดจากนอร์เวย์ สามารถเลือกระดับความสุกได้ตั้งแต่สด เบิร์นไฟ ไปจนถึงสุก สำหรับเมนูนั้นก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสลัดผักสด ยำสุดแซ่บ หรือจะเป็นเมนูนานาชาติก็มีเช่นกัน ทั้งดงบุริ เทอริยากิ เบอร์ริโต แต่สำหรับเมนูที่ผู้เขียนชื่นชอบที่สุดก็คือ “ปลาสีส้มบิบิมบับ” (189 บาท) ข้าวคลุกซอสเผ็ดเกาหลีรสชาติเข้มข้น แซลมอนเบิร์นหั่นชิ้นเต๋ามาหนาพอดีคำ เนื้อปลาสดมาก กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดและผักสลัดเข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นจานให้ที่คุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่เลยทีเดียว สำหรับใครที่ชอบกินแซลมอนแบบสด ที่นี่คัดคุณภาพมาแบบลายไขมันแทรกสวย เนื้อหวานเด้ง สีส้มได้ใจสมกับชื่อร้านจริง ๆ แซลมอนเป็นปลาที่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันดี ซึ่งสำหรับสายรักสุขภาพ ผู้เขียนขอแนะนำให้รับประทานปลาแซลมอนแบบสุก เพื่อที่ร่างกายจะได้นำโปรตีนไปใช้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ก็ควรออกกำลังกายควบคู่กัน เนื่องจากแซลมอนมีไขมันแทรกอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งจะเห็นได้จากริ้วลายสีขาว แต่ด้วยความที่เป็นไขมันดี หากร่างกายได้รับในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายได้ ปลาสีส้ม 📍 สาขา เจริญราษฎร์ 📍 สาขา Seasons Mall สนามเป้า เปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 10.00 – 19.30 น. (หยุดวันพุธ สัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือน) Facebook: ปลาสีส้ม plaseesom Line: @plaseesom โทร: 098-910-6696 Delivery: Lineman, Grab, Get, Foodpanda 3. เหลือใจ (Luerjai) เหลือใจ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่โดดเด่นในเรื่องของรสชาติอันแซ่บซี๊ด ถูกปากคนไทยที่ชื่นชอบในความจัดจ้านเป็นที่สุด โดยเฉพาะใครที่เป็นสายปลาร้าแล้วล่ะก็ รับประกันความนัวของน้ำยำปลาร้าเลยค่ะ เมนูจะออกไปทางฟิวชั่นระหว่างไทยกับญี่ปุ่น เน้นวัตถุดิบคุณภาพอย่างแซลม่อนสดและใช้ผักสดจากโครงการหลวง อีกทั้งยังมีเมนูสำหรับชาววีแกนอีกด้วย สำหรับเมนูที่ผู้เขียนชื่นชอบคือ “แซลมอนโปเกโบวล์” (229 บาท) เมนูสุดฮิตที่พลาดไม่ได้ของร้านนี้ แซลมอนสดชิ้นหนาคลุกเคล้ากับอะโวคาโด แตงกวา เห็ดหูหนูขาว ถั่วลันเตา ไข่หวาน สาหร่าย และงา ให้มาเต็มชามจนแทบมองไม่เห็นข้าวญี่ปุ่นผสมไรซ์เบอร์รี่ด้านล่าง หากใครอยู่ในช่วงลดแป้ง ก็สามารถขอลดข้าวเพื่อเพิ่มผักแทนได้ กินคู่กับซอสปลาร้าสูตรของทางร้านแซ่บนัวถึงใจ ซึ่งขอเตือนว่าเหมาะสำหรับคนชอบกินเผ็ดเท่านั้น ไม่อย่างนั้นอาจต้องกินน้ำตามกันแทบไม่ทัน โดยลูกค้าสามารถเลือกซอสที่ใช่ Topping ที่ชอบ เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกใจตามสไตล์เฉพาะตัวของแต่ละคน น้ำซุปหัวปลาแซลมอนรสชาติกลมกล่อมดีมาก แถมยังเติมได้ไม่อั้น อิ่มคุ้มกันสุด ๆ เลยมื้อนี้ เหลือใจ 📍 สาขา สามย่าน (U Center) Line: Juerjai-u 📍 สาขา Siam Square One ชั้น 4 Line: Luerjaisiamone 📍 สาขา เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 4 Line: Luerjailp Facebook: เหลือใจ Delivery: Lineman, Grab, Get 4. สลัดบุรี (Saladburi) สลัดบุรี ร้านสลัดโฮมเมดราคามิตรภาพที่ปรุงอาหารด้วยสโลแกน “ความสุขที่ส่งต่อได้” หากใครคิดว่าการกินผักเป็นเรื่องยาก เมนูของร้านนี้อาจเปลี่ยนความคิดของคุณได้ ด้วยความคิดสร้างสรรค์และการปรุงรสอย่างพิถีพิถัน จึงเกิดเป็นเมนูสลัดที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนร้านอื่น อีกทั้งน้ำสลัดยังหลากหลายและอร่อยจนเป็นที่บอกต่อกันมากมาย สำหรับเมนูยอดนิยมและเป็นเมนูโปรดที่ผู้เขียนอยากแนะนำคือ “สลัดม้วนหมูย่างน้ำผึ้ง” (100 บาท)ถ้าพูดถึงสลัด หลายคนคงนึกถึงผักใบเขียวเต็มชาม แต่เมนูนี้สร้างสรรค์กว่านั้น เป็นเมนูที่ทำให้การกินสลัดของเราสนุกขึ้น เพราะมีทั้งผักสลัดออร์แกนิค สด กรอบ ไม่ขม เคียงด้วยพาสต้า Gemelli หลากสี และไฮไลท์ของจานนี้เลยคือ สลัดม้วนหมูย่างน้ำผึ้ง แป้งตอร์ติญ่าย่างเนื้อเนียนนุ่มห่อผักสลัดและหมูย่างน้ำผึ้งอันหอมหวาน จิ้มกับน้ำสลัด Pesto สูตรเฉพาะที่คนไม่ชอบกินโหระพาก็กินได้ เข้ากันดีสุด ๆ นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูสุดครีเอทีพอีกมากมาย เช่น สลัดยำปลาดุกฟู สลัดต้มยำกุ้ง ที่รับประกันความคลีนให้มื้อนี้ได้เลย สลัดบุรี 📍 รัชดา ซอย 3 แยก 4 เปิดทำการ: จันทร์ - เสาร์ เวลา 10.30 - 20.30 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร: 097-017-8718 Facebook: สลัดบุรี - สลัดผักออร์แกนิค Line: Saladburi Delivery: Foodpanda, Get, Grab, Lineman 5. ฌานา (Charna) ฌานา ร้านอาหารที่ไม่เพียงแต่ห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภค แต่ยังใส่ใจในความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม จากแนวคิด “Feel Good Food” ซึ่งทางร้านเสมือนเป็นตัวกลางที่ส่งต่อสิ่งดีดีจากมือเกษตรกรไทยให้ผู้บริโภคได้รู้สึกดีในทุก ๆ คำที่กิน ด้วยการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถัน ประกอบกับการสร้างสมดุลในแต่ละจานให้ได้ทั้งเนื้อสัตว์และผักที่มีคุณภาพอย่างพอดี จึงทำให้อาหารแต่ละจานของร้านนี้เต็มไปด้วยคุณค่าที่สะท้อนความเอาใจใส่ในการเลือกสรรวัตถุดิบและความอร่อยในแบบที่ดีต่อสุขภาพ “Farm Pot” เมนูชาบูที่ยกทั้งฟาร์มมาไว้ในหม้อเดียว เพียงสั่งชุดเนื้อสัตว์ 1 ชุด สามารถเปิดหม้อ พร้อมบุฟเฟ่ต์ผักได้ไม่อั้น 1 หม้อ โดยชุดที่ผู้เขียนแนะนำคือ “ชุดหมูสามเกลออารมณ์ดี” (355 บาท) หมูกรีนพอร์คจากฟาร์มราชบุรี ถูกเลี้ยงมาอย่างอารมณ์ดีและถูกสุขอนามัย จึงทำให้เนื้อที่ได้มีคุณภาพและนุ่มกว่าปกติ สำหรับเมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบกินผัก เพราะผักที่สามารถเติมได้ไม่อั้นนี้ ล้วนเป็นผักสดออร์แกนิค ปลอดสารพิษ อีกทั้งผักบางชนิดยังเป็นผักตามฤดูกาล หากินได้ยาก เช่น จิงจูฉ่าย ในส่วนของน้ำจิ้มก็มีให้เลือกหลากหลาย สามารถปรุงเสริมเพิ่มเติมได้เองตามใจชอบ ไฮไลท์อีกอย่างของเมนูนี้คือน้ำซุปสมุนไพรสุดกลมกล่อมที่มีให้เลือกทั้งแบบซุปไก่และซุปแซ่บ หากใครกำลังมองหาร้านชาบูเพื่อสุขภาพ ร้านนี้เป็นร้านในดวงใจแรก ๆ ที่อยากแนะนำเลยค่ะ ฌานา 📍 สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 📍 เซ็นทรัลเวิล์ด ชั้น 6 เปิดทำการ: ทุกวัน (จันทร์ - พฤหัส 11.00 - 20.00 น. และ ศุกร์ - อาทิตย์ 10.00 - 20.00 น.) Facebook: Charna Line: @passion_kitchen Delivery: Grab, Lineman, Delivery ของทางร้าน โดยสามารถสอบถามได้ทาง Line 6. จินเจอร์ ฟาร์ม คิทเช่น (Ginger Farm Kitchen) Ginger Farm Kitchen ร้านอาหารไทยที่นำเสนอเมนูประจำท้องถิ่นชื่อดังต่าง ๆ จากทั่วทุกภาค ทุกเมนูล้วนถูกรังสรรค์ด้วยวัตถุดิบคุณภาพดีจากเกษตรกรพื้นบ้าน ผสมผสานกับการปรุงรสในแบบฉบับไทยแท้ เปิดโอกาสให้คนเมืองได้ลิ้มรสอาหารรสชาติต้นตำรับของแต่ละภาค เสมือนได้ไปนั่งกินที่พื้นที่นั้นเองจริง ๆ ร้านนี้จึงเหมาะสำหรับสายสุขภาพที่กำลังมองหาอาหารไทยพื้นบ้านรสชาติดี ซึ่งสามารถอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ Ginger Farm Kitchen ฟาร์มอาหารพื้นบ้านเพื่อสุขภาพของคนเมือง สำหรับเมนูที่ผู้เขียนแนะนำคือ “ข้าวผัดน้ำพริกหนุ่ม” (245 บาท) อาหารพื้นเมืองล้านนาที่รวมกับข้าวขันโตกมาไว้ในจานเดียว โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของพริกหนุ่มย่างที่ผัดคลุกเคล้ากับข้าว กินแนมกับเครื่องเคียงรอบจานแล้วเข้ากันดีในทุกคำ ไม่ว่าจะเป็นผักต้ม ผักสด ไส้อั่ว หมูยอ ไข่ต้ม แคปหมู ซึ่งหากใครกำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ อาจต้องแบ่งแคปหมูกรุบกรอบให้คนข้าง ๆ แทน Ginger Farm Kitchen 🚩 สาขากรุงเทพฯ 📍 สาขา 101 True Digital Park โทร 02-0105235 📍 สาขา เมกะบางนา โทร 02-1052230 📍 สาขา สุขุมวิท 33 โทร 02-1600311 🚩 สาขาเชียงใหม่ 📍 One Nimman โทร 052-080928 เปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 10:00-20:00 น. Facebook: Ginger Farm Eatery & Bar Line: @gingerfarmkitchen Delivery: Grab, Lineman, Foodpanda 7. Diamond Grains Bowl Diamond Grains Bowl คาเฟ่ของ Diamond Grains แบรนด์กราโนล่าชื่อดังที่ครองตลาดสุขภาพในไทยมาอย่างยาวนาน ได้ยกระดับกราโนล่าให้กลายเป็นเมนูของหวานเพื่อสุขภาพอย่าง “พาร์เฟต์กราโนล่า” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่อยากกินของหวานแต่กลัวอ้วน เมนู “พาร์เฟต์โยเกิร์ต” (89 บาท) เป็นของหวานเมนูโปรดที่กินได้แบบไม่รู้สึกผิดมากนัก โดยเราสามารถเลือกเนื้อโยเกิร์ตได้ 2 แบบระหว่างโยเกิร์ตเนื้อเนียน กับไอศกรีมโยเกิร์ตเย็นฉ่ำชื่นใจ จากนั้นจึงเลือกซอสที่ชอบ ซึ่งขอแนะนำซอสเบอร์รี่ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ถ้วยนี้ แล้วจึงปิดท้ายด้วย Topping แบบไม่อั้น ซึ่งล้วนแต่ดีสุขภาพทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น งาขี้ม่อน เมล็ดเจีย อัลมอนด์ กราโนล่า เป็นต้น บอกได้เลยว่ากินถ้วยนี้ถ้วยเดียว อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจแน่นอน Diamond Grains Bowl 📍 The Market ราชดำริ เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น. 📍 The Mall Bangkapi เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.00 (จันทร์ - พฤหัส) และ 10.00-20.00 (ศุกร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 📍 Central พระราม 3 เปิดทุกวัน เวลา 8.30-21.00 (จันทร์ - พฤหัส) และ 8.30-22.00 (ศุกร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 📍 Central บางนา เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 20.00 น. 📍 Central พระราม 9 เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น. 📍 Central ลาดพร้าว เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น. Facebook: Diamond Grains Bowl Line: @diamondgrainsbowl Delivery: Lineman, Get, Grab 8. MAKAI Açaí & Superfood Bar MAKAI Açaí & Superfood Bar คาเฟ่อาซาอิที่ต่อยอดมาจากการที่เป็น Supplier นำเข้าสินค้า Açaí berry purée จากบราซิลอยู่แล้ว Smoothie bowl ของแบรนด์นี้จึงการันตีคุณภาพและความเข้มข้นของตัวอาซาอิแน่นอน โดยสมูทตี้นี้เป็นหนึ่งในลิสท์ที่สายของหวานแต่รักสุขภาพห้ามพลาดจริง ๆ ทางแบรนด์ใช้น้ำผึ้งให้ความหวานจากธรรมชาติแทนน้ำตาล อาซาอิซึ่งถือเป็นผลไม้ Super Antioxidants จึงมอบทั้งประโยชน์และความสดชื่นได้อย่างครบถ้วนในชามเดียว โดยส่วนตัวแล้วชื่นชอบ Açaí ของร้านนี้ เพราะมีรสของเบอร์รี่ค่อนข้างชัด ไม่ถูกผลไม้อื่นที่มีกลิ่นแรงอย่างกล้วยกลบจนหมด อีกทั้งท็อปปิ้งผลไม้ยังสดและให้มาแบบจุใจสมราคา โดยสูตรที่แนะนำคือ Tickle My Berries และ Hold My Bananas (เริ่มต้นที่ 160 บาท) รับรองว่ากินแล้วสดชื่น ถูกใจสายรักสุขภาพแน่นอน MAKAI Açaí & Superfood Bar 📍 อโศก ซอย 23 📍 ทองหล่อ 📍 ปุณณวิถี ซอย 101 📍 อารีย์ ซอย 4 ฝั่งเหนือ 📍 สามย่าน มิตรทาวน์ 📍 เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว 📍 สีลม คอนเน็ค 📍 สยามพารากอน Facebook: MAKAI Açaí & Superfood Bar Delivery: Foodpanda, Grab, Get 9. Jamba Juice Jamba Juice คาเฟ่สุดเฮลตี้แบรนด์ระดับโลกจากอเมริกาที่เอาใจคนรักน้ำผักและผลไม้ มีให้เลือกทั้งหมด 3 เมนูหลัก คือ สมูทตี้ น้ำผักผลไม้ปั่นเย็นชื่นใจ, น้ำผักผลไม้คั้นสด และ Energy bowl อาหารที่เน้นให้พลังงานสูงแต่แคลอรี่ต่ำ โดยส่วนผสมหลักที่ใช้ในทำการทำเมนูต่าง ๆ ล้วนเป็นผักผลไม้สดและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง ไม่ใส่น้ำตาล เน้นความหวานที่ได้จากผักและผลไม้เท่านั้น การันตีความเข้นข้นและความสดใหม่แบบเต็มแก้ว เมนูแนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมูทตี้ผลไม้แบบจัดเต็ม คือ Caribean Passion (เริ่มต้นที่ 115 บาท) เครื่องดื่มที่รวมเอาผลไม้ที่ให้ความเปรี้ยวหวานสดชื่นไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ มะม่วง พีช และเสาวรส โดยรสชาติของแก้วนี้จะโดดเด่นไปที่เสารส ซึ่งมีรสของผลไม้อื่นเป็นตัวเสริมความหอมหวานกลมกล่อมเข้ากัน เนื้อสมูทตี้เนียนสมราคาดีมาก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมูทตี้รสชาติหวานมัน เน้นอยู่ท้อง ต้องห้ามพลาด “Strawberry Dream” (เริ่มต้นที่ 110 บาท) สตรอว์เบอร์รี่สดเปรี้ยวหวานปั่นกับกล้วยและโยเกิร์ตแบบ Non-fat ที่ให้พลังงานและความหอมหวานมันได้เป็นอย่างดี Jamba Juice เป็นร้านเครื่องดื่มที่เหมาะกับคนรักสุขภาพมาก ๆ ไม่ว่าจะสั่งเมนูไหนก็เฮลตี้และอร่อยสดชื่นแน่นอน Jamba Juice 🚩 สาขากรุงเทพฯ 📍 Samyan Mitrtown 📍 Emquartier 📍 Paragon 📍 Mega Bangna 📍 เซ็บทรัล ลาดพร้าว 📍 อุดมสุข สุขุมวิท 66/1 🚩 สาขาพัทยา 📍 Royal Garden Pattaya Facebook: Jamba Juice Thailand Delivery: Grab, Get, Lineman เพียง Comment ชื่อเมนูสุดคลีนที่คุณชื่นชอบ พร้อม ชื่อ และ Email โดยจะทำการสุ่ม 3 รางวัลจาก Comment ทั้งหมดที่ส่งเข้ามา เงื่อนไข: ระยะเวลาในการเข้าร่วมสนุกกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 63 เวลา 12.00 น. ทาง In-Trend Influencer จะทำการประกาศชื่อบุคคลที่ได้รับของรางวัล 3 ชื่อ ในวันที่ 30 มิ.ย.63 เวลา 18.00 น. โดยการคอมเมนต์รายชื่อผู้ชนะผ่านทางโพสต์ที่ประกาศเชิญชวนให้ร่วมกิจกรรมบน Facebook ของ In-Trend Influencer สำหรับผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรม หากคุณเป็นผู้ที่ได้รับรางวัล Code ส่วนลด Wemall ทาง In-Trend Influencer จะทำการติดต่อคุณไปยัง inbox ทาง Facebook เพื่อสอบถาม ชื่อและอีเมล ของคุณ เพื่อให้ทีมงานส่ง Code Wemall ไปให้ตามอีเมลที่ระบุไว้ Code Wemall จะถูกทำการส่งไปยังอีเมลของผู้ชนะ 3 ท่านภายใน 7 วันทำการ ภายหลังจากที่ทาง In-Trend Influencer ได้ทำการประกาศผู้ที่ได้รับรางวัล ในส่วนของการคัดเลือกผู้ชนะเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบทความในการคัดเลือกเท่านั้น ทางทีมงาน TrueID In-Trend ไม่มีส่วนในการคัดเลือกผู้ที่ได้รับของรางวัล Code Wemall แต่อย่างใด