ข้าวมันไก่ อีกหนึ่งเมนูของไทยที่ดังไกลไปทั่วโลก และ เป็นที่นิยมอย่างมากในเอเชียโดยเฉพาะ จีน ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น ที่หาทานกันได้ง่ายๆตามร้านอาหารทั่วไป แต่ถ้าพูดถึงร้านอาหารไทยในอเมริกาแล้ว การจะหาอารไทยที่รสชาติมีความเป็นไทยแท้นั้น ก็ต้องเลือกหากันอยู่พักนึง ซึ่ง 1 ในร้านอาหารที่มีความเป็นไทยแบบ 100% ด้วยรสชาติที่คุ้นเคย แต่เสริฟให้กับฝรั่งตาน้ำข้าว จะไม่พูดถึงร้าน Nong's Khao Man Gai คงไม่ได้ ร้านข้าวมันไก่ที่โด่งดังในเมือง พอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา นอกจากร้านนี้จะพรีเซนต์ความเป็นไทยผ่านอาหารแล้ว ทั้งกรรมวิธี ต่างๆ ก็ยังคงสไตล์ข้าวมันไก่ไทยไว้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน แต่จะมีใครรู้ไหมว่า "คุณน้อง" วัยรุ่นไทยผู้นำข้าวมันไก่ไปดังถึงอเมริกา ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนาอะไรมาบ้าง กว่าที่ร้าน Nong's Khao Man Gai จะเป็นที่นิยมอย่างทุกวันนี้ "คุณน้อง พูนสุข วัฒนา" วัยรุ่นไทยที่เกิดในครอบครัวที่ไม่ได้เพรียบพร้อมสักเท่าไหร่ คุณแม่เป็นเพียง แม่ครัว ในร้านอาหาร ส่วนคุณพ่อนั้นก็ขี้เมาไม่ได้ทำงานอะไร เธอเติบโตขึ้นมาโดยที่พ่อของเธอทำร้ายจิตใจ แม่เธอ พี่สาว และ เธอ ทุกวัน แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะปล่อยให้ชีวิตอยู่กับที่ เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่นับตั้งแต่วันนั้นว่า สักวันเธอจะออกโบยบินไปให้ไกลจากจุดที่เธอเป็นอยู่ให้ได้ และเธอไม่มีวันจะยอมแพ้ เพราะนั่นอาจหมายถึงการยอมแพ้ให้โชคชะตาที่เธอเลือกไม่ได้ เมื่อเธอโตพอที่จะแน่ใจว่า เธอสามารถจะก้าวขาออกมาสู่โลกภายนอก และโบยบินตามความฝันด้วยปีกของเธอเอง เธอจึงตัดสินใจบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังดินแดนที่ต่างก็เป็นความฝันของใครหลายๆคน "สหรัฐอเมริกา" ด้วยเงินติดตัวเพียง 300$ แต่ความที่เธอยังเด็ก และมีความชอบเหมือนหญิงสาวทั่วๆไป ทำให้เธอตัดสินใจผิดและเลือกใช้เงินที่มีไปกับน้ำหอม และแป้งพับ จากแบรนด์ดังอย่าง Chanel ทำให้เธอเหลือเงินติดตัวมาถึงแผ่นดินใหญ่เพียง 70$ หรือราวๆ 2,350บาท เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เธอยังคงเก็บน้ำหอมและแป้งพับนั้นไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจอะไรบางอย่าง 3 สัปดาห์ในแผ่นดินแห่งความหวัง น้อง ได้งานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แห่งหนึ่ง เธอทุ่มเทให้กับงาน 7 วันต่อสัปดาห์อย่างไม่ย่อท้อ เพื่อเก็บออมเงินให้ได้มากที่สุด ด้วยหวังว่าสักวันหนึ่งความฝันทึ่มีอยู่ในหัวใจลึกๆของเธอจะสามารถเป็นจริงได้ จนแล้วจนเล่าเวลาก็ล่วงเลยไปกว่า 5 ปี ในร้านบุฟเฟ่ต์แห่งนั้น 1 ในไม่กี่ครั้งของความรู้สึกไม่มีความสุขที่ให้ผลดีกับชีวิต คุณน้องรู้สึกไม่มีความสุขเลยกับงานที่ทำอยู่ เธอเริ่มไขว่เขวต่องานที่กำลังทำ นั่นทำให้เธอลองก้าวออกมาจากเซฟโซนอีกครั้ง เธอลาออกจากงานเด็กเสิร์ฟและลองเปิดธุรกิจรถเข็นขายข้าวมันไก่เล็กๆ จากเงินเก็บของเธอ ใน พอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา เธอพยายามอย่างหนักในการคิดค้นสูตรข้าวมันไก่ ที่ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ แต่แล้วเมื่อเวลาล่วงเลยไป เธอกลับค้นพบว่า การทำข้าวมันไก่ที่ดีที่สุดนั้นยังไม่เพียงพอ แต่เธอจำเป็นต้องมีทักษะในด้านอื่นๆอีกหลากหลายอาทิ การบริหารจัดการ และการเป็นผู้นำ ก่อนที่ในที่สุดทุกคนต่างก็เรียกเธอว่า "เชฟน้อง" Capture form https://youtu.be/ZlBGx9Npl6A เชฟน้องเล่าว่า 1 ในคติประจำใจของเธอที่ได้รับจากแม่ และนำมาใช้ในธุรกิจของเธอคือการ “ให้ผู้อื่นก่อนแล้วจึงค่อยรับกลับ เคารพลูกค้า และอย่าลืมที่จะยิ้ม” ก่อนจะยอมรับว่าตนเองผิดพลาดหลายครั้งในฐานะเจ้าของกิจการ “หากปราศจากทีมของฉัน ฉันก็เป็นเพียงคนธรรมดา” และสุดท้าย “แม้สถานการณ์จะแย่แค่ไหน ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองและลงมือทำ วันนึงเราเองอาจจะตกใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา” ปัจจุบันร้าน Nong's Khoa Man Gai ขยายสาขาไปมากมาย อีกทั้งยังมีรับจัดเลี้ยงตามงานแต่ง งานปาร์ตี้ แล้วแต่ลูกค้าจะจ้างไป อีกทั้งยังมีน้ำจิ้มข้าวมันไก่แบบขวดวางจำหน่ายอีกด้วย ข้าวมันไก่ของเธอไม่เพียงแต่มีรสชาติที่อร่อย แต่เธอต้องมั่นใจด้วยถึงความสะอาด รวดเร็ว และความสุขของลูกค้า มันไม่ใช่แค่ไก่ และ ข้าว ต้องเอาใจใส่ เคารพลูกค้า และยึดมั่นคำที่แม่เธอสอนตลอดเวลา Photo by Pixabay คุณน้องเป็น 1 ในคนไทยไม่กี่คนที่ได้รับเชิญขึ้นเวที Ted Talk Portland เธอเล่าเรื่องราวความลำบากในชีวิต กว่าจะมาถึงจุดที่ความฝันของเธอเป็นจริง จากเด็กสาวตัวเล็กในแผ่นดินอันกว้างใหญ่ เธอบินมาไกลเหลือเกินเพื่อทำความฝันของเธอจนเป็นจริง Capture form https://youtu.be/ZlBGx9Npl6A ใครที่ผ่านไปผ่านมาในเมือง Portland ก็อย่าลืมแวะไปชิม และ ให้กำลังใจคุณน้องกันบ้างนะ